ปั้นแบรนด์ เรื่องที่ SMEs ไม่ควรมองข้าม เปิด 5 ทริกเด็ด ปั้นให้ปัง ดังในโมเดิร์นเทรด

ปั้นแบรนด์ เรื่องที่ SMEs ไม่ควรมองข้าม เปิด 5 ทริกเด็ด ปั้นให้ปัง ดังในโมเดิร์นเทรด ยังจ้า
ปั้นแบรนด์ เรื่องที่ SMEs ไม่ควรมองข้าม เปิด 5 ทริกเด็ด ปั้นให้ปัง ดังในโมเดิร์นเทรด ยังจ้า

ปั้นแบรนด์ เรื่องที่ SMEs ไม่ควรมองข้าม เปิด 5 ทริกเด็ด ปั้นให้ปัง สร้างโอกาสดังในโมเดิร์นเทรด

หากถามผู้ประกอบการ SMEs ว่า ระหว่างการ ปั้นยอดขาย กับ ปั้นแบรนด์ ผู้ประกอบการเลือกที่จะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน ส่วนใหญ่ของคำตอบจะเลือกการปั้นยอดขาย เพราะเป็นสิ่งที่จับต้องได้

แต่หากผู้ประกอบการต้องการสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจในระยะยาว ก็ไม่ควรมองข้ามการ ปั้นแบรนด์ อย่างเด็ดขาด ยิ่งถ้าต้องการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง แบรนด์ยิ่งต้องแข็งแรง เพราะแบรนด์ที่แข็งแรงจะช่วยทำให้สินค้าและธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

ศูนย์ 7-Eleven จึงได้รวบรวม 5 ทริกปั้นแบรนด์ SMEs ให้ปัง สร้างโอกาสดังในโมเดิร์นเทรด เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจ

1. แบรนด์ดีต้องมี Story

แบรนด์ที่ดีต้องมีเรื่องเล่า เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสนใจกับเรื่องราวต่างๆ รอบตัวมากขึ้น การซื้อสินค้าไม่ได้ตัดสินใจจากฟังก์ชันการใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการรู้สึกเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้นด้วย ดังนั้น สินค้าจึงต้องสามารถถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาได้

เช่น ผลิตมะขามอบแห้ง เรื่องราวที่จะสามารถนำมาสร้างสตอรีได้ คือ ใช้มะขามพันธุ์ดีที่มีแหล่งกำเนิด ที่หาได้ที่เดียวในประเทศไทย นำมาผ่านกระบวนการผลิตที่ช่วยรักษารสชาติให้คงอยู่ เหมือนได้รับประทานแบบสดๆ

2. สร้างคุณค่าให้แบรนด์ ส่งต่อโอกาสสู่สังคม

ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มักเลือกซื้อสินค้าที่มีการส่งมอบสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม ไม่ได้หวังแต่ผลประโยชน์ด้านยอดขายหรือกำไรเพียงอย่างเดียว ผู้ประกอบการจึงควรจัดกิจกรรมเพื่อสังคม หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับผลประโยชน์กับกิจกรรมนั้นๆ

เช่น รายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งมอบให้กับหน่วยงานด้านสังคมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่ธุรกิจ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถนำไปประชาสัมพันธ์กับผู้บริโภค เพื่อสร้างความประทับใจและทัศนคติเชิงบวกต่อแบรนด์ได้ เป็นการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ในระยะยาว

3. โลโก้สะท้อนตัวตน

สินค้าที่มีโลโก้ที่สามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้ จะช่วยสร้างการจดจำของลูกค้ากับตัวแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ในทุกๆ องค์ประกอบของโลโก้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ทั้งโทนสี รูปแบบตัวอักษร ภาพประกอบ เพราะเพียงแค่ผู้บริโภคพบโทนสีก็สามารถนึกถึงแบรนด์ได้ทันที หรือเพียงแค่เห็นภาพโลโก้ก็สามารถจำได้ว่าเป็นแบรนด์ใด ขายอะไร หรืออยากได้สินค้าต้องไปซื้อที่ไหน ดังนั้น การออกแบบต้องสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของแบรนด์ เพื่อปลุกเร้าและดึงดูดความพึงพอใจของผู้บริโภคมากที่สุด

4. แคมเปญตรงเป้าหมาย

ผู้ประกอบการต้องเข้าใจและรู้จักกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อย่างแท้จริงว่าคือใคร มีกำลังจ่ายเท่าไหร่ มีความสนใจในด้านไหนเป็นพิเศษ เช่น แบรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพ ผู้ประกอบการต้องสร้างสรรค์สินค้า หรือสร้างแคมเปญเพื่อเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้

โดยผู้ประกอบการควรเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างความตระหนักถึงเรื่องความสำคัญของสุขภาพที่ดี ผ่านกิจกรรมหรือแคมเปญต่างๆ เพื่อทำให้แบรนด์ส่งผลกับความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพได้อย่างชัดเจน และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

5. มุ่งโซเชียลมีเดีย งบน้อย ต่อยตรงจุด

การเลือกใช้สื่อในการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ โดยช่องทางการสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ SMEs มากที่สุด ในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, YouTube, TikTok, Instagram เพราะสื่อเหล่านี้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และใช้งบประมาณไม่สูง สามารถทำได้เอง

โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ผู้ประกอบการต้องเลือกให้เหมาะสมกับสินค้า ซึ่งแพลตฟอร์มที่มาแรงในตอนนี้คือ TikTok เพราะตอบโจทย์พฤติกรรมคนในปัจจุบันได้แบบไม่จำกัดเพศ อายุ ในรูปแบบของ Video สั้นๆ ที่มาพร้อมระบบ Affiliate Marketing หรือที่เรียกว่า การตลาดผ่านผู้ช่วยขายหรือตัวแทนขาย ช่วยลดความเสี่ยงจากการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่รับประกันยอดขาย เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด

การสร้างแบรนด์ แม้จะไม่เห็นผลในระยะเวลาที่รวดเร็ว แต่ถ้าแบรนด์มีความแข็งแกร่ง การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดโมเดิร์นเทรดก็ไม่ใช่เรื่องยาก