“คนดูถูกว่าไม่นานก็เจ๊ง” ช่างท๊อป ด๊อกอาร์ท ลบคำดูถูก สู่นักตัดขนขวัญใจเจ้าตูบและเหมียว

เมื่อหลายปีก่อนเรื่องราวของ ช่างท๊อป-ภาณุพงศ์ จงจิตร เจ้าของร้านตัดขนสัตว์ “บ้านช่างท๊อป ด็อกอาร์ท” ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นไวรัลมากๆ บนโลกโซเชียล จากการที่เขาอัปโหลดวิดีโอด้วยภาษาใต้ พร้อมแคปชัน “ห้ามแหลงคําว่าอาบน้ำ #น้องลูกจัน” ซึ่งเป็นคลิปของ “น้องลูกจัน” แมวสายพันธุ์เปอร์เซียที่ดูเหมือนว่าจะเกลียดการอาบน้ำเข้าไส้ และแสดงอาการขู่ฟ่อใส่ช่างท๊อปทุกครั้งที่พูดว่าอาบน้ำ จนเป็นที่ชอบใจปนเอ็นดูของชาวเน็ต  มียอดเข้าชมเกือบ 3 ล้านวิว  และมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา

“รู้สึกตกใจที่มีคนดูและแชร์มากขนาดนั้น เพราะจริงๆ แล้ว ผมอัดคลิปเพียงเพราะอยากให้ลูกค้าเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของเขามีพฤติกรรมยังไงตอนอยู่กับช่าง เนื่องจากส่วนใหญ่เวลาลูกค้าเอาหมาหรือแมวมาอาบน้ำตัดขนที่นี่ ก็มักจะบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเขาเรียบร้อย เลี้ยงง่าย” ช่างท๊อป กล่าว

ก่อนเล่าต่อถึงที่มาของ อาชีพรับตัดขนสุนัขและแมว เริ่มต้นเมื่อปี 2547 ตนขึ้นไปเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นไม่มีเงินจึงไปสมัครงานพิเศษ จนได้ทำงานที่ร้านอาบน้ำสุนัข ในเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน หลังจากนั้นก็เริ่มเรียนตัดขนหมา และเป็นช่างตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ทำงานต่อได้ประมาณ 2 ปี ก็กลับมาเปิดร้านเป็นของตัวเองที่นครศรีธรรมราชเมื่อปี 2550

“เปิดร้านในช่วงแรก คนมาใช้บริการไม่มากนัก เพราะยังไม่เป็นที่รู้จัก ซ้ำยังมีแต่คนดูถูกว่าไปไม่รอด อีกไม่นานก็เจ๊ง แต่ผมก็ดันทุรังเปิดมาได้นานเป็นสิบปี จนประมาณปี 2560 ปิดบริการ เพราะติดเที่ยว ติดเหล้า กระทั่งปี 2562 ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เลิกทุกอย่างที่ไม่ดี และกลับมาเปิดร้านใหม่”

และถึงปัจจุบันร้านบ้านช่างท๊อป ด็อกอาร์ท ยังเปิดให้บริการและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยช่างท๊อปยังทำคอนเทนต์เล่าเรื่องราวการทำงานกับเพื่อนสี่ขาทั้งสุนัขและแมวจนเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้รับชมผ่านเพจเฟซบุ๊ก ที่มีผู้ติดตาม 1.5 ล้านคน ยูทูบ ผู้ติดตาม 2.1 แสนคน และ ติ๊กต็อกผู้ติดตาม 9.5 แสนคน

สำหรับการบริการที่ร้าน คือรับตัดขนและอาบน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท นอกจากนี้ ยังรับสอนอาบน้ำตัดขนสัตว์ สำหรับคนที่สนใจอยากเรียนรู้ไว้ดูแลน้องหมาของตัวเอง 

“ตอนนี้บริการอาบน้ำตัดขนในจังหวัดที่ผมเปิดร้านอยู่ ถือว่าซบเซาด้วยเศรษฐกิจ อันนี้เฉพาะต่างจังหวัดนะ ถ้ากรุงเทพฯ ผมคิดว่ายังดีอยู่ 

แต่ก่อนลูกค้าจะนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 5-10 ตัว ปัจจุบันรับเหลือวันละ 5 ตัว ด้วยผมมีงานอย่างอื่น เช่น งานรีวิว งานโชว์ และรับสอนนอกสานที่ ก็มีคนมาเรียนเรื่อยๆ เฉลี่ยเดือนละ 2-3 คน”

เนื่องจากชื่อเสียงของช่างท๊อป คือสามารถรับมือกับหมาแมวดุได้ ช่างท็อป เผยวิธีว่า ต้องใช้ความชำนาญ และมีใจรัก ที่สำคัญ ต้องใจเย็น เพราะสัตว์บางตัวต้องใช้เวลานานในการเกลี้ยกล่อม และต้องทำใจว่าการโดนข่วนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ว่าสัตว์จะดุร้ายแค่ไหน ห้ามทำร้ายเด็ดขาด ให้มองว่าหมาและแมวเหมือนเด็กที่ต้องใช้ความนุ่มนวลเข้ากล่อมเกลา

ชายหนุ่ม อารมณ์ดี แนะนำวิธีป้องกันสัตว์ดุว่า ควรฉีดวัคซีน หรือใช้เครื่องมือ อาทิ ลำโพงกันเลีย หรือสวมถุงมือ แต่ถ้าใช้ลำโพงกันเลียบ่อยๆ สัตว์จะเกิดความเครียด จนอาจต่อต้านได้

ก่อนจบบทสนทนา ช่างท๊อป ทิ้งท้ายไว้ว่า “ผมดีใจนะ ที่คลิปของผมสร้างความสุขให้คนอื่นๆ ได้ บางคนเครียดจากปัญหาส่วนตัว บ้างเป็นโรคซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง พอเขามาดูคลิปแล้วยิ้มได้ ก็ส่งข้อความมาขอบคุณ ทำให้ผมมีความสุขไปด้วย

บอกตรงๆ เลย ตอนนี้ผมไม่ต้องเปิดร้านอาบน้ำตัดขนผมก็สามารถอยู่ได้ เนื่องจากงานอื่นก็มีรายได้เยอะ แต่พื้นฐานผมโตมากับอาชีพนี้ อาชีพตัดขนสุนัข ถึงจะมีงานจ้างค่าตัวชั่วโมงละ 30,000 บาท แต่ถ้ามีลูกค้าจองคิวอาบน้ำตัดขนแค่ 300 บาท ผมก็ยอมกลับมาที่ร้านก่อน ทิ้งไม่ได้ลูกค้าประจำ เพราะเขาเป็นจุดเริ่มต้นของเรา 

และเราไม่รู้ว่าความดังมันจะอยู่กับเรานานแค่ไหน ที่ผมห้อยเวลาครึ่งวันไว้รับอาบน้ำตัดขน ก็เพราะสาเหตุนี้ ผมกลัวว่าถ้าต่อไปเราไม่มีงานส่วนนั้น พวกงานจ้างต่างๆ ผมก็ยังอยู่ได้” 

สนใจติดต่อ 086-990-9472 (ช่างท๊อป) หรือพาน้องหมาเข้าไปได้ที่ ร้านช่างท๊อป ด๊อกอาร์ท 12/1 ซอยศรีธรรมโศก 2 แยก 4 (พัฒนาการคูขวาง 92/1) เข้าซอย 200 เมตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดบริการตั้งแต่ 08.00-14.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)

อ้างอิงข้อมูลจาก

เปิดใจกว่าจะเป็น “ช่างท๊อป ด็อกอาร์ท” หนุ่มใต้รับตัดขนตูบและเหมียวดุ