พาณิชย์ จ.เลย รุดสอบร้านกะเพราหมูสับ ใส่ถุง 150 บาท!! ร้านแจง แจ้งราคาชัดเจน

พาณิชย์จังหวัดเลยรุดสอบร้านกะเพราหมูสับ ใส่ถุง 150 บาท!! ร้านแจง แจ้งราคาชัดเจน

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวสิการย์ เฟื่องฟุ้ง พาณิชย์จังหวัดเลย นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านข้าวต้มกุ๊กรินทร์ ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เสนอข่าวเรื่อง ขายอาหารแพง กะเพราหมูสับ 150 บาท

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับกะเพราหมูสับ ราคาใส่ถุง 150 บาท โดยระบุพูดออกมาว่า “อะไรนะคะ กะเพราหมูสับนี้น่ะ 150 บาท ฮู้ทำไมแพงจัง โอ้ถ้า 150 กินกะเพรากุ้ง หมึก ไม่ดีกว่าเหรอ และกุ๊กนั้นก็ตอบกลับมาว่า ขาย 150 บาท จึงได้ตอบว่าอย่างนั้นไม่เอา หากเป็นกะเพราราดข้าวเลย เท่าไร กุ๊กตอบกลับมาว่า 50 บาท อย่างนั้น เอาราดข้าวดีกว่า” พร้อมทิ้งคำถามว่ากะเพราหมูสับ ปริมาณ 1 จานเท่านั้น ราคา 150 บาท แพงหรือถูกคะ ไว้ในเพจ คนรักเมืองเลย จนมีการแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งดีและไม่ดีจำนวนมาก

จากการตรวจสอบ นางสาวสิการย์ เฟื่องฟุ้ง ได้กล่าวว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อที่ร้านขายกะเพราแพง เป็นร้านข้าวต้มกุ๊กรินทร์ จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ อาหารพร้อมปรุง มีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะที่ชัดเจนและเปิดเผย สามารถอ่านได้โดยง่าย และทางร้านยังได้แสดงราคาจำหน่ายปลีกอาหารและเครื่องดื่มไว้ในรายการอาหาร โดยแยกเป็นประเภท ประเภทผัดราคาเริ่มต้น (ชุดเล็ก) 80-200 บาทราคาเริ่มต้น (ชุดใหญ่) 200-400 บาท ประเภทยำ ราคาเริ่มต้น 80-200 บาท ประเภทต้มราคาเริ่มต้น (หม้อไฟ) 180-400 บาท สำหรับอาหารจานเดียว ราคาเริ่มต้น 50-70 บาท ไข่ดาว, ไข่เจียว, ข้าวเปล่า ราคา 10 บาท เครื่องดื่ม ราคาเริ่มต้น 10-70 บาท

โดยนายสุรเดช มายา หรือ กุ๊กรินทร์ อายุ 69 ปี เจ้าของร้าน เผยว่า ทางร้านมีราคาต้นทุนค่าเช่าตึก 2 คูหา คูหาละ 4,000 บาทต่อเดือน เป็นเงิน 8,000 บาทต่อเดือน รวมค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน ค่าแรงจ้างคนงาน 3 คน คนละ 300 บาทต่อวัน เป็นเงิน 900 บาทต่อวัน ค่าวัตถุดิบ จะซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร ซื้อแต่ละครั้งประมาณ 7,000-10,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าวัตถุดิบสินค้าใดหมดถึงจะทยอยซื้อเพิ่มเติมอีก และใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ใหม่ สด สะอาด รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้มบรรจุถังขนาด 48 กิโลกรัม ถังละ 1,370 บาท

และในวันที่เกิดเหตุตนจำได้ว่า มีลูกค้าผู้หญิงมาสั่งอาหารโดยสั่งข้าวผัด แล้วเปลี่ยนใจสั่งกะเพราหมูสับให้ใส่ถุงกลับบ้าน ซึ่งทางร้านได้ยื่นรายการอาหารที่แสดงราคาจำหน่ายปลีกให้ลูกค้าดูก่อนสั่งอาหารแล้ว โดยราคาอาหารประเภทผัดจะราคา 150 บาท แต่พอทำอาหารเสร็จแล้วลูกค้ากลับไม่เอา บอกว่าแพง ขอเปลี่ยนเป็นข้าวราดกะเพราหมูสับแทน ทางร้านก็จัดใส่กล่องให้ และรับเงินสดจากลูกค้าจำนวน 50 บาท ส่วนกะเพราหมูสับที่เหลือตนและลูกน้อง นำมากินหลังจากทำงานเสร็จ โดยแบ่งได้ออกเป็น 3-4 จาน แบ่งกันกินจนหมด ในเรื่องนี้คาดว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดและไม่เข้าใจกัน ตนอยากให้เรื่องนี้จบ เพราะทุกคนที่ร้านนั้น เล่นโซเชียลไม่เป็น มีแต่คนมาบอก สำหรับตนไม่มีปัญหาอะไร หากผู้ที่นำไปโพสต์ไม่เข้าใจตรงไหน ก็ให้เข้ามาพูดคุยกัน คงเป็นเพียงความไม่เข้าใจ