“ก้อย” เผยเบื้องหลังวิ่งฮาร์ฟมาราธอนจบครั้งแรก สุดประทับใจความทุ่มเท “ตูน” คอยดูแล

หลังวิ่งจบเบตง – แม่สาย แต่คู่นี้ยังคงวิ่งด้วยความสนุกสนานต่อไป สำหรับหนุ่มตูน และสาวก้อย รัชวิน โดยล่าสุด ลงสนามวิ่งสวนผึ้งมาราธอน ซึ่งสาวก้อย เข้าวิ่งในรายการ ฮาร์ฟมาราธอน 32 กิโลเมตร เป็นครั้งแรก ซึ่งก็เผยโมเม้นต์สุดหวานของหนุ่มตูน ที่มีต่อสาวก้อย ในการวิ่งครั้งนี้ เล่นเอาแฟนคลับฟินไปตามๆ กัน


โดยสาวก้อย เขียนแคปชั่นไว้ว่า “ตั้งใจไว้ว่าก่อนจะไปวิ่งมาราธอนแรกที่เกียวโตเดือนหน้า อยากลงวิ่งในระยะเกิน 30K เพื่อจะได้ซ้อมไปในตัว ช่วงที่วิ่งก้าวอยู่ ก็เลยดูว่ามีงานไหนที่น่าไปและว่างพอดี เลยมาเจองานนี้ #สวนผึ้งมาราธอน 2018 ก่อนหน้านี้ก้อยได้วิ่ง Half มา 2-3 ครั้งแล้ว เลยตัดสินใจลงระยะ Super Half หรือ 32K เป็นสนามแรก! ซึ่งก็มีหลายคนเตือนว่า ทางค่อนข้างโหดนะ เนินเยอะนะ ความที่เราก็ฝึกวิ่งบนเนินกันมาตั้งแต่เบตงยันแม่สาย เลยไม่ค่อยกลัว อ่ะ! ลุย!!!

ครั้งนี้พี่อูนอาสามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงนักวิ่ง โดยการไปถอยกระเป๋าสะพายสำหรับพกน้ำ พกเจล และสเปรย์ช่วยลดการบาดเจ็บไว้ให้ก้อย ตอนเช้าตรู่วิ่งมืดๆ ก็มีไฟฉายคอยส่องทาง เรียกว่าพี่เลี้ยงนักวิ่งเตรียมตัวมาดีมากจริงๆ #บางทีวิ่งๆ อยู่หันไปยังตกใจนึกว่าพี่เอส 5555 ก่อนเดินทางมาสวนผึ้ง พี่ตูนมีเล่นคอนเสิร์ตเสร็จเกือบเที่ยงคืนกว่า เรามีเวลางีบหลับบนรถกันประมาณ 1-2 ชม. เท่านั้น พอมาถึงเจ้าหน้าที่ประกาศว่าเลื่อนการปล่อยตัวไปจากตี 4 ครึ่ง เป็น ตี 5 เนื่องจากหมอกลงหนักมากกกก อากาศหนาวมากกกก #13 องศา และบางจุดก็ไม่มีไฟตามถนน #โชคดีที่พี่ตูนมีไฟ 😂 10 กิโลแรกเลยเป็นอะไรที่ค่อนชิล วิ่ง jogging ไปเรื่อยๆ ไม่รีบเร่ง

ฟ้าเริ่มสว่าง ความโหดที่แท้จริงเริ่มปรากฏ ถึงแม้วิว 2 ข้างจะสวยมาก แต่การวิ่งขึ้นลงเนินไม่หยุดทำให้รู้สึกเหมือนวิ่งอยู่บนรางรถไฟเหาะยังไงอย่างงั้น ก้อยเผลอฝืนตัวเองตอนวิ่งลงเนินเร็วๆ ทำให้มีอาการเจ็บที่หัวเข่า สักพักเริ่มตึงที่หน้าขา ต้องหยุดยืดเหยียดอัดสเปรย์แล้วก็ไปต่อ บางจังหวะยิ่งวิ่งช้าจะยิ่งปวด ก็ต้องคอยสังเกตตัวเองว่าวิ่งเพซไหนที่เราเหมาะกับเรา ที่เราวิ่งแล้วสบายตัวและไม่ปวด …โชคดีที่มี @artiwara อยู่ข้างๆ เลยไม่รู้สึกเหงาและไม่ท้อ พากันลากไปจนถึงเส้นชัย โดยเฉพาะ 2 กิโลสุดท้ายนี่ฟินมากๆ อัดเพซ 5 กัน 2 คนจนลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมาระหว่างทางไปเลย ขอบคุณจริงๆ นะคะ 🙂

และแล้ว 32K แรกของน้องก้อยก็จบด้วยเวลา 3.52 ชม. #เวลา movingtime ใช้เวลารวมทั้งหมด 4.13 ชม. ดีใจที่จบในสนามที่โหดขนาดนี้ได้ สนามต่อไป #kyotomarathon จะไม่มีพี่อูนอยู่ข้างๆ แล้ว ถึงเวลาที่ต้องวิ่งด้วยลำแข้งของตัวเองจริงๆ แล้ว งานนี้ไม่มีคนมาลาก ไม่มีคนมาส่งน้ำส่งเจลให้เหมือนตอนวิ่งก้าวแล้วนะ #คิดถึงพี่โอขึ้นมาทันที 😂 เอาใจช่วยเค้าด้วยน้าาา


.
ปล. รูปก่อนสุดท้ายคือคุณลุงอายุ 65 ปีที่จบฟูลมาราธอนนี้ในเวลา 5.25 ชั่วโมง คุณลุงบอกว่างานนี้เป็นมาราธอนครั้งที่ 90 ของแกพอดี สุดยอดมาก เป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากๆ เลยค่ะ ❤
.
.
#ขอบคุณทุกกำลังใจในวันนี้
#ก้อยไม่เก่งแต่ก้อยไม่หยุด
#aTrainToMarathon
ภาพ @gab_saraburi