| เผยแพร่ |
|---|
ฮาเก็ตติ้ง ใช้ความตลกทำการตลาด ลงมือทำต่อเนื่อง หัวใจในการสร้างแบรนด์แบบ Goodsunday
วันที่ 27 เมษายน 2567 ในงาน จัดจ้านจานเด็ด ที่จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ในเครือมติชน ที่ มติชนอคาเดมี บนเวทีเสวนา “ทอล์กจัดจ้าน” ในหัวข้อ “สร้างแบรนด์อย่างไรให้มีตัวตนบนโลกโซเชียล” โดย คุณอาร์ม-กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ เจ้าของร้านกาแฟ Goodsunday Coffee Bar ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกออนไลน์
โดยคุณอาร์ม กล่าวแนะนำตัวว่า อดีตเธอมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตส และคิดว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง จนมาช่วงโควิด ได้รับผลกระทบกับงานประจำที่ทำ ทำให้สายการบินหยุดชะงัก ด้วยเหตุการณ์นี้จึงทำให้เธอตัดสินใจมาทำธุรกิจ
คุณอาร์ม เล่าว่า เงินก้อนสุดท้ายที่มี ได้นำไปเปิดร้านกาแฟ ที่ชื่อว่า “Goodsunday Coffee Bar” และทำต่อมาเรื่อยๆ โดยเริ่มจากถ่ายเมนูที่ขาย เป็นการโปรโมตร้านในช่วงแรก แต่กลับมาถามตัวเองว่า ร้านของเรามีสิ่งที่โดดเด่นกว่าคนอื่น คืออะไร?
คุณอาร์ม เผยว่า ยุคนี้ทำการตลาดแบบเดิมๆ หรือ 4 P คือ Product, Price, Promotion และ Place ไม่พอแล้ว เทคนิคของเธอคือฮาเก็ตติ้ง เพราะความตลก ความสนุกอยู่คู่กับคนไทย เป็นเหมือนจุดพักใจ หลังจากผ่านเรื่องเครียด
ดังนั้น จึงได้นำเทคนิคเหล่านี้มาสร้างเป็นคอนเทนต์ และให้ความสำคัญกับทุกๆ คอนเทนต์ เพราะการสร้างคอนเทนต์ต้องมีความรู้ ไอเดีย อุปกรณ์ เป็นเรื่องสำคัญ และสำคัญที่สุดคือ ความต่อเนื่อง
คุณอาร์ม เล่าว่า
“เราสมัครแพลตฟอร์มทุกช่องทาง ตอนนั้นเลือกติ๊กต็อกเป็นเบอร์หนึ่ง ถ่ายคลิปลงทุกวัน ก่อนถึงคลิปลาเต้ ทำไปแล้วประมาณ 500 คลิป ในเวลา 1 ปี เราไม่รู้หรอกว่าคลิปที่ตั้งใจทำเมื่อไหร่จะเป็นไวรัล”
หลังจากคลิปไวรัล ทำให้คนรู้จักมากขึ้น และถือว่าเป็นการสร้าง Personal Branding ให้กับร้าน Goodsunday เมื่อมี Personal Branding แล้ว เธอจึงนำ Marketing เข้ามาใช้ร่วมด้วย
“ทุกวันนี้ทำคอนเทนต์ออนไลน์ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น เวลาทำคลิปโปรโมตตัวเอง ณ วันที่เราหลับ วันที่เราไปเที่ยว การทำมาร์เก็ตติ้งของเรามันยังคงทำงานต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุด เพราะฉะนั้น เราจะไม่ทำเหรอ” คุณอาร์ม กล่าว
เทคนิคการทำคอนเทนต์ ฉบับ คุณอาร์ม Goodsunday
หลังจากที่คลิปดื่มลาเต้เป็นไวรัล ทางคุณอาร์มจึงได้ทำคอนเทนต์ต่างๆ ขึ้น โดยเธอได้แนะว่า ทุกคนมีมือถือ มีกล้องโทรศัพท์ เริ่มต้นง่ายๆ จากสิ่งที่เรามี อย่าเพิ่งไปลงทุนอะไรมากมาย ซึ่งแพลตฟอร์มติ๊กต็อกชอบความเรียล ชอบความจริง
“การทำคอนเทนต์ บางคนกลัวว่าทำแล้วไม่สำเร็จ กลัวทำแล้วไม่ปัง อย่าเพิ่งเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น ลงมือทำเลย ถึงแม้ว่าโอกาสจะมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ หรือยอดคนดู 1 วิวจะเป็นครอบครัวเราเองก็ตาม” คุณอาร์ม กล่าว
หมดไฟ…จัดการอย่างไร
“ถ้าถามว่าเคยท้อไหม มันก็ท้อแหละ แต่เราตั้งใจจะทำธุรกิจของเราแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือ การเรียนรู้จากสิ่งที่ยังไม่เติบโต ว่าเราขาดอะไร ณ วันนี้ถ้าเราตัดใจจะทำธุรกิจของเราแล้ว มันต้องไปต่อ มันต้องทำได้ แบรนด์ใหญ่ๆ ยังทำเลย แล้วเราจะไม่ทำได้ยังไง” คุณอาร์ม กล่าว
ส่วนด้านการวางแผนโครงสร้างธุรกิจ คุณอาร์ม เผยบนเวทีว่า
“ถ้าวันนี้เราไม่สบาย เราหยุดทำ แปลว่ารายได้เราไม่มีนะ แต่ถ้าเราป่วยแล้วยังมีคนอื่นทำอยู่ เราก็ยังมีรายได้”
คุณอาร์มวางแผนธุรกิจโดยคิดว่า หากวันใดเกิดป่วย แต่ส่งต่อให้ทีมงานทำต่อ ธุรกิจก็จะยังคงดำเนินต่อไปได้
หรือใครที่กำลังเจอปัญหาหมดไฟในตัว เธอได้พูดเกี่ยวกับประเด็นนี้เอาไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งเรารู้สึกหมดไฟเมื่อไหร่ พยายามนำตัวเองออกมาจากจุดนั้น ที่สำคัญ ต้องมี Business Plan ในหัวว่ามันสามารถเป็นจริงได้หรือไม่ คิดว่าสถานการณ์ที่แย่ที่สุดคืออะไร”
สุดท้าย คุณอาร์ม ฝากข้อคิดไว้ว่า
“ลงมือทำ บวก ความต่อเนื่อง จะได้ผลลัพธ์อย่างมหาศาล”
