สุดอนาถา! สองตายายอาศัยลำพัง เผาถ่านเลี้ยงชีพ เผยไม่เคยได้รับสวัสดิการของรัฐ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา แกนนำกลุ่มสายธาร ปันน้ำใจให้น้อง พร้อมคณะ ได้ร่วมกันนำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับนายหนู โยธา วัย 89 ปี และนางอัด สิงห์ทอง วัย 80 ปี สองตายาย ที่ปลูกกระท่อมอยู่ตามลำพัง ริมคลองชลประทาน ม.3 บ้านไร่เก่า ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

สืบเนื่องจากได้รับทราบว่า มีสองตายายปลูกกระท่อมหลังเล็กๆ แค่พอใช้เป็นที่นอนอยู่เพียงลำพัง ทางกลุ่มสายธาร ปันน้ำใจ ให้น้อง จึงได้มาร่วมกันสำรวจ และพบว่ากระท่อมดังกล่าว สร้างด้วยไม้เก่ามุงสังกะสีผุพัง แค่พออาศัยหลับนอนได้ โดยสร้างอยู่ริมคลองในพื้นที่ของชลประทาน ไม่มีห้องน้ำ ความกว้างประมาณ 3×3 เมตร

จากการสอบถามนายหนู กล่าวว่า เดิมเป็นคนจากต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม และได้พาครอบครัวมารับจ้างอยู่ที่ต.ไร่เก่า เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นมีลูก 7 คน โดย เสียชีวิตไปแล้ว 2 เหลือ 5 คน แต่ก็แยกย้ายไปมีครอบครัวที่จังหวัดอื่นกันหมด แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็ไม่มีคนจ้างทำงาน ตนและภรรยาก็อาศัยปลูกผักไว้กินเอง เผาถ่านขายประทังชีวิต และที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านนำอาหารมาแบ่งปันให้บ้าง จึงพอประทังชีวิตอยู่ได้

นายหนู กล่าวต่อว่า ตนเคยย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่อ.สามร้อยยอดแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำบัตรประชาชนเลย ซึ่งตนก็จำไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่มีบัตรที่จ.ประจวบฯ แต่ในส่วนของนางอัดไม่เคยย้ายมา ยังคงอยู่ที่อ.เมืองพิจิตร ซึ่งในปัจจุบันตนและภรรยายังไม่ได้รับเงินคนชรา หรือเงินสวัสดิการแห่งรัฐใดๆทั้งสิ้น

นายหนู กล่าวอีกว่า ตนขอฝากถึงยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ขอให้ช่วยทำบัตรให้ตนและยายอัดด้วย เพื่อที่จะได้รับสวัสดิการต่างๆบ้าง อีกทั้งเมื่อเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลได้ฟรี เนื่องจากตนและภรรยาก็ไม่มีเงินเก็บสำหรับค่ารักษาใดๆ มีเพียงเงินจากลูกที่อยู่ไกลส่งมาให้เป็นครั้งคราวเท่านั้นเอง