สุวรรณภูมิ ชี้ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ เผยเบื้องหลังหนูน้อยซิมบับเว ติดในสนามบินมาแล้ว 3 เดือน

แหล่งข่าวระดับสูงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่ามีเด็กชาวซิมบับเวและครอบครัวติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 3 เดือน เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศไม่สงบ ว่า กรณีผู้โดยสารพักรอภายในสนามบินนั้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ เกิดขึ้นบ่อยต่อเนื่อง เนื่องจากจะมีผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยที่ต้องติดอยู่ในสนามบินของประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งกรณีนี้ คือประเทศไทย ไม่เฉพาะแค่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากเกิดปัญหาความวุ่นวายภายในประเทศที่ผู้โดยสารจะเดินทางไป เช่น ปัญหาความขัดแย้งภายใน ปัญหาทางการเมือง ปัญหาเรื่องความปลอดภัย เป็นต้น

โดยหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบดูแลผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวคือสายการบินที่ผู้โดยสารเดินทางมาและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆ กรณีนี้ก็คือ ตม.ของประเทศไทย จะต้องรับผิดชอบดูแลอาหารและที่พักอาศัยให้กับคนกลุ่มดังกล่าวให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ให้พักรอภายในสนามบินจนกว่าจะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้

“ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว ไม่ใช่ผู้โดยสารที่ทำผิดกฎหมาย หรือถูกดำเนินคดีอะไร แค่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ในขณะนี้ เพราะเกิดปัญหาขึ้นในประเทศ เช่น ปัญหาการเมือง ปัญหาเรื่องความปลอดภัย ขณะที่ประเทศปลายทางก็ไม่สามารถให้เข้าประเทศได้ เพราะบางคนก็ไม่มีเอกสาร ตม. จึงให้เข้าประเทศไทยไม่ได้ จึงจำเป็นต้องให้พักรออยู่ภายในสนามบิน ซึ่งตามระเบียบกำหนดให้สายการบินและ ตม.จะต้องร่วมกันรับผิดชอบดูผู้โดยสารกลุ่มนี้ จัดหาอาหารที่พักรอให้ โดยบางคนก็อยู่แค่สัปดาห์เดียว บางคนก็อยู่ในสนามบินนานหลายเดือน รอจนกว่าเหตุการณ์จะปกติ และเดินทางต่อไปได้” แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว

แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวต่อว่า ทอท. หรือ สนามบินสุวรรณภูมิไม่ได้รับผิดชอบดูแลผู้โดยสารกลุ่มนี้โดยตรงจึงไม่ทราบว่าปัจจุบันมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน จากประเทศไหนบ้าง และมีการพักรอที่สนามบินนานแค่ไหน ซึ่งรายละเอียดส่วนนี้จะอยู่ที่ ตม.และสายการบิน สนานบินจะทำหน้าที่เพียงจัดหาพื้นที่ภายในสนามบินให้ ตามที่ ตม.และสายการบินร้องขอ เพื่อจัดทำเป็นห้องพักรอที่มีชื่อทางการว่า “ห้องผู้โดยสารต้องกลับ” ซึ่งปัจจุบัน ทอท. ก็มีการจัดห้องผู้โดยสารต้องกลับ ไว้ภายในสนามบินทั้ง 6 แห่งของ ทอท. เพื่อเอาไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารพักรอ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าแต่ละประเทศในโลกจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น