สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง กรอ.พระราชพิธีแจง วิธีปฏิบัติของประชาชนที่จะเข้าพื้นที่ในวันพระราชพิธี เผยรักษาความปลอดภัย ขั้นสูงสุด ขอความร่วมมือถอดเคสโทรศัพท์มือถือสีสันฉูดฉาดไม่เหมาะสม ส่วนไม้ถ่ายรูปเซลฟี่ กล้องติดเลนส์ชนิดซูม ไม่อนุญาตให้นำเข้าไป สำนักนายกฯเผย เข็มที่ระลึกงานพระราชพิธี 4 หมื่นชิ้นขายหมดรวดเร็ว เร่งผลิตเพิ่มแล้วและจะผลิตอีกเรื่อยๆ ตามจำนวนผู้สั่งจอง ขอประชาชนอย่ากังวล รัสเซีย ส่งรองประธานสภาผู้แทนร่วมพระราชพิธี

ในหลวงเสด็จราชพิธีออกพระเมรุ

วันที่ 23 ต.ค. สำนักพระราชวังเผยแพร่หมายกำหนดการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ในพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 25 ต.ค. เวลา 15.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ทรงประเคนพัดกรองที่ระลึกงานออกพระเมรุแด่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะที่จะถวายพระธรรมเทศนา และพระราชาคณะที่จะสวดศราทธพรต 30 รูป พระสงฆ์ที่จะสดับปกรณ์ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ที่จะสวดพระอภิธรรม 8 รูป บรรพชิตจีนและญวน 20 รูป

พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา ถวายไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศนา พระสงฆ์สวดศราทธพรต พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา บรรพชิตจีนและญวนสวดมาติกา สดับปกรณ์ และถวายอนุโมทนา ทรงจุดธูปเทียนที่แท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม เสด็จพระราช ดำเนินกลับ

เหรียญที่ระลึก 4 หมื่นขายหมด

วันที่ 23 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาลนาย สมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการเปิดการจำหน่ายเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จำนวน 40,000 ชิ้น เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าจำหน่ายหมดสิ้น สำนักงานปลัดสํานักนายกฯ (สปน.) จึงได้เร่งผลิตเข็มที่ระลึกดังกล่าวเพื่อนำออกจำหน่ายอีก และจะเปิดให้ประชาชนสั่งจองได้เร็วที่สุดปลายเดือนพ.ย.นี้ หรือตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. โดยในกรุงเทพฯ มีสถานที่เปิดรับจองได้แก่กองคลัง ในอาคารสำนักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ส่วนต่างจังหวัด สปน. กำลังหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าอาจจะเป็นที่ศาลากลางจังหวัด หรือที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สปน.จะรีบแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ แม้การรับสั่งจองจะไม่จำกัดจำนวน แต่ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าเข็ม ดังกล่าวจะหมด เพราะผลิตอยู่เรื่อยๆ ตามจำนวนที่สั่งจองเข้ามา

รองปลัด สปน.กล่าวอีกว่า จากกรณี สปน.พบเบาะแสการขายเข็มที่ระลึกเกินราคา และการทำปลอมแปลง ขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อและซื้อ โดยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตรวจสอบเพื่อจับกุมแล้ว

รองปลัด สปน.กล่าวว่า ขอย้ำว่าเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีลักษณะรูปทรงหกเหลี่ยม พื้นเป็นสีเหลืองทอง ด้านหน้าเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภปร มีพระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมีประดิษฐาน อยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างจารึกอักษรคำว่า “พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ๒๕๖๐” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อ ของปลอม และอย่าทำปลอมแปลงเพื่อมาหลอกขาย เพราะถือเป็นความผิดทางอาญา และเป็นสิ่งที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง

แจงแนวทางปฏิบัติปชช.

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณี สปน.ระบุมีการจำหน่ายและปลอมเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ว่า หากมีการขายเข็มเกินราคาถูกจับอยู่แล้ว เพราะมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคการขายของเกินกว่าราคาที่กำหนด หากประชาชนพบเห็นเหตุที่เกี่ยวข้องกับตราสัญลักษณ์หรือเข็มที่ระลึกดังกล่าว แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ได้ทันที

วันเดียวกัน ที่ศูนย์สื่อมวลชน กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ (กรอ.พระราชพิธี) แถลงสรุปภาพรวมผล การปฏิบัติการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางการปฏิบัติวันที่ 26 ต.ค.2560

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วยเลขานุการ กอร.พระราชพิธี กล่าวว่า ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะปิดการจราจรอย่างเต็ม รูปแบบ ประชาชนที่จะเข้าพื้นที่สามารถ นั่งรถสาธารณะที่บริการฟรีมาลงในจุดจอด รับส่ง 5 พื้นที่ ได้แก่ สนามม้านางเลิ้ง หน้า บ้านมนังคศิลา แยกเมอรี่คิงส์ แยกอรุณอมรินทร์ และแยกวิสุทธิกษัตริย์ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน ซึ่งระหว่างทางจะมีจุดอำนวยความสะดวกและมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดเพื่อให้ประชาชน มีความสบายใจ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสายสืบปะปนมากับประชาชนเพื่อ เฝ้าติดตามบุคคลที่อาจเข้ามาสร้างความ ปั่นป่วน

รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ในส่วนของ การเข้าแถวต่อคิวตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 25 ต.ค.นั้น ทั้ง 9 จุดคัดกรองจะประเมินจำนวนประชาชน หากจุดคัดกรองใดมีประชาชนเข้ามาใกล้เต็มพื้นที่และรองรับประชาชนได้อีกไม่มาก แต่มีประชาชนรอเข้าแถวหนาแน่น ก็จะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เหลือไปยังจุดคัดกรองอื่น หรือไปร่วมพิธีที่พระเมรุมาศจำลองจัดไว้ให้ และในส่วนของการให้ประชาชนเข้ามาวางดอกไม้สักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังไม่มีกำหนดปิดแต่อย่างใด ซึ่งจะบริหารพื้นที่เพื่อไม่ให้ประชาชนมาปะปน ในส่วนของประชาชนที่จะเข้ามาจับจองพื้นที่เข้าชมริ้วขบวน

เปิดเพิ่ม 3 เส้นทางน้ำ

ด้านพล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รรท. ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กล่าวว่า การเดินทาง ทางน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินทางมายังจุดคัดกรอง มีมติให้เปิด เส้นทางน้ำเพิ่มเติม ได้แก่ 1.ลงเรือข้ามฟากจากท่าเรือศิริราชไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า 2.ลงเรือจากท่าเรือวัดอรุณมายังท่าเรือราชินี และท่าเรือยอดพิมาน และ 3.เปิดท่าช้างสำหรับเรือด่วนเจ้าพระยาตั้งแต่วันนี้จนถึงเวลา 18.00 น. วันที่ 25 ต.ค.

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า ในวันที่ 26 ต.ค.นี้จะปิดเส้นทาง การจราจรระดับ 3 ใน 42 เส้นทาง ขอ ฝากไปยังประชาชนไม่ควรนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่ เพราะไม่มีที่จอดรถในบริเวณ ใกล้เคียง

ห้ามเคสสีฉูดฉาด-ไม้เซลฟี่

ด้านนายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ กรมประชา สัมพันธ์กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติของประชาชนและสื่อมวลชนในงานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพ ว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่พบคือเคสโทรศัพท์มือถือของประชาชน บางส่วน โดยเฉพาะผู้หญิง ที่เป็นสีฉูดฉาด เช่น สีชมพู สีแดง ขอความร่วมมือประชาชนให้ถอดออก เพราะดูไม่เหมาะสมและแตกต่างจากประชาชนผู้อื่น ในส่วนของความเป็นระเบียบในการก้มกราบริ้วขบวนนั้น ยังไม่พร้อมเพรียง ก็จะจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม 50 คนประจำตามอัฒจันทร์ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำและชี้แจงเรื่องการวางตัวและกิริยาต่างๆ เช่น เวลาหุบร่ม เวลาก้มกราบ ฯลฯ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องสุขา จุดบริการพยาบาลขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ด้วย

นายพรพิทักษ์กล่าวอีกว่า สำหรับไม้ถ่ายรูปเซลฟี่และกล้องหรือเลนส์ชนิดซูมของประชาชน ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความรำคาญและรบกวนต่อบุคคลรอบข้าง และเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองจะไม่รับฝากสิ่งของใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการภาพถ่ายระยะใกล้ จะมีภาพส่วนกลางให้ประชาชนดาวน์โหลดได้ใน www.kingrama9.com โดยสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน 1441 ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีประชาชนใช้บริการวันละ 1,400-2,500 คน หรือแอพพลิเคชั่นไลน์ @hotline1441 ซึ่งมีสมาชิกแล้วกว่า 35,000 คน

เผยสถานที่รองรับ ปชช.

นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพ มหานคร (กทม.) กล่าวถึงภาพรวมผลการปฏิบัติการอำนวยความสะดวกและการดูแลประชาชนระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. ว่า กทม.ได้จัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้บริการประชาชนตามพระเมรุมาศจำลองและซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ทั้งหมด 113 แห่ง รวมถึงตามวัดและโรงเรียนในพื้นที่ 50 เขต รวมมากกว่า 6.5 ล้านชุดต่อวัน คาดว่าจะเพียงพอต่อพสกนิกรที่จะเดินทางมาร่วมพระราชพิธี ในส่วนของรถสุขารวม 70 คันและตู้สุขาเคลื่อนที่ 150 ตู้ จะกระจายอยู่รอบพื้นที่ โดยจะมีประชาชนจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ฝ่าย สิ่งแวดล้อมดูแลความสะอาดอย่างต่อเนื่อง

ผู้ช่วยปลัด กทม.กล่าวอีกว่า สำหรับ สถานที่รองรับประชาชน กทม.ได้จัดเตรียมพื้นที่ในกรุงเทพฯ จำนวน 164 แห่ง สามารถรองรับประชาชนได้วันละ 27,210 คน ประกอบด้วย 1.อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกทม. ไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง วันละ 600 คน 2.ศูนย์เยาวชนบางขุนเทียน วันละ 100 คน 3.บ้านอิ่มใจ บริเวณแยกแม้นศรี วันละ 60 คน 4.สถานที่พักสำหรับพระสงฆ์ 2 แห่งในพื้นที่ห้วยขวาง คือ โรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษกและพระราม 9 กาญจนาภิเษก 5.ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6.สถานศึกษาและวัดในพื้นที่กรุงเทพฯ 158 แห่ง รองรับได้วันละ 26,450 คน ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสงค์เข้าพักติดต่อโดยตรงพร้อมนำบัตรประชาชนติดตัวมาด้วย สอบถามข้อมูลได้ที่ www.prbangkok.com หรือสายด่วนกทม.โทร 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง

“ขณะนี้มีประชาชนสนใจและเดินทาง เข้ามาติดต่อจองพื้นที่ละแวกใกล้เคียง เกือบเต็มทั้งหมดแล้ว เช่น วัดสุทัศน์ เป็นต้น โดยขอความร่วมมือประชาชนที่ต้องการ พักค้างยังสถานที่กทม.จัดไว้ ให้เตรียมของ ใช้จำเป็นและถุงนอนมาด้วย” นายเกรียงไกรกล่าวและว่า ปัจจุบันกทม.มีความพร้อมใน ทุกด้านในการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมพระราชพิธี ได้แก่ การ ให้บริการรถไฟฟ้าฟรีช่วงส่วนต่อขยาย เรือโดยสารของกทม. รถโดยสารประจำ ทางด่วนพิเศษ(บีอาร์ที) ดอกไม้จันทน์ บริการประชาชนตามจุดรวม 13 ล้านดอก จอแอลซีดีและโทรทัศน์เพื่อถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย มาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) เพิ่มเติม 1,177 ตัวและรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ประมาณ 53,000 ตัวด้วย

หมอเตือนเตรียมร่างกายให้พร้อม

ทางด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้จัดหน่วยบริการทางการแพทย์ทุกซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ได้จัดเตรียมทุกหน่วยประจำจุดถวายดอกไม้จันทน์ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่รอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง มีจุดบริการพยาบาลซึ่งเป็นจุดส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งสิ้น 21 จุด และมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตามหน่วยย่อยรอบพื้นที่ อยากให้ประชาชนเตรียมร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะการพักผ่อนให้เพียงพอและการดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี ส่วนประชาชนที่มีโรคประจำตัวให้นำยาติดตัวมาด้วย

เริ่มงานประณีตศิลป์แทงหยวก

วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่โรงเรียน พระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง ช่างกองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง พร้อมด้วยช่างแทงหยวกท้องถิ่น 4 ภูมิภาค เริ่มแทงหยวกประดับพระจิตกาธานใน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็น วันแรก

นายบุญชัย ทองเจริญบัวงาม นักจัดการงานในพระองค์ชำนาญการ กองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง เปิดเผยว่า ช่างจากกองศิลปกรรมและช่างแทงหยวกท้องถิ่น 4 ภูมิภาค รวม 37 นาย ได้ร่วมพูดคุยหารือเกี่ยวกับการแทงหยวกประดับพระจิตกาธาน ทั้งรูปแบบ ลวดลาย การจัดสรรขนาดกาบที่กำหนดไว้ รวมทั้งการประเมินทุกอุปสรรค เช่น กรณีกาบบางไปหรือแข็งไปจะต้องแก้ไขอย่างไร ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มแทงหยวกจริง โดยฐานของพระจิตกาธานชั้นเรือนไฟ ชั้นรัดเอว เป็นการถวายงานจากช่างจากจ.สงขลา แทงหยวกลายกลีบบัวจงกล 5 ชั้น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการแทงหยวกระยะยาว ชั้นรัดเกล้า เป็นการถวายงานจากช่างฝั่งธนบุรี วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร

นายบุญชัยกล่าวด้วยว่า ชั้นเรือนยอด 9 ชั้น เป็นการถวายงานจากช่างเพชรบุรี ขณะที่ช่างจาก จ.มหาสารคามและอุบล ราชธานี ถวายงานการแทงหยวกลายกระจังทิศ กระจังเจิม ซึ่งอยู่ทุกมุมของพระจิตกาธาน ส่วนลายเถาไขว้เลขเก้าไทย อาจารย์กฤษณะ เฟื่องฟู ช่างราชสำนักที่คิดลายนี้เป็นผู้รับ ผิดชอบ โดยทุกกระบวนการของงานแทงหยวกจะต้องทำออกมาให้สมบูรณ์แบบถูกต้องตามโบราณราชประเพณี

นายบุญชัยกล่าวต่อไปว่า ในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักศึกษาวิชาช่างแทงหยวกจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (ชาย) ซึ่งคัดเลือกมา 50 คนเข้าร่วมถวายงานด้วยส่วนต้นกล้วยตานีที่นำมาประกอบในงาน แทงหยวกนั้น ได้คัดสรรเป็นอย่างดีมาจากจ.จันทบุรี 50 ต้น เป็นต้นกล้วยต้นเอกที่มีความสำคัญที่จะใช้ในการแทงหยวกบริเวณเรือนยอดชั้นที่ 9 ชั้นสูงสุด ด้วยลายลูกฝักช่องกระจก รวมทั้งจากจ.เพชรบุรี 40 ต้น นนทบุรี 9 ต้น และอ่างทอง 9 ต้น รวมทั้งหมด 108 ต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำบริสุทธิ์หล่อเลี้ยง ให้ต้นกล้วยมีความชุ่มชื้นเสมอ

เผยแนวคิดสร้างสรรค์

นายบุญชัยกล่าวว่า สำหรับงานช่าง แกะสลักของอ่อน และงานช่างดอกไม้ประดิษฐ์ประดับพระจิตกาธานปาริชาตแล้วเสร็จประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นงานฝีมือที่ต้องมีความละเอียดอ่อน อย่างเช่นในการประดิษฐ์ดอกปาริชาตที่เป็นดอกไม้ ในตำนานบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เปรียบเสมือนพสกนิกรชาวไทยที่ขอระลึก ถึงพระองค์ผู้สถิตในดวงใจ ดอกปาริชาต ดอกไม้เฟื่องและดอกไม้ไหวมีทั้งหมด 70 ดอก สื่อถึง 70 ปีแห่งการครองราชย์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้กลีบดอกสีเหลืองที่เป็นสีประจำวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ และสีชมพูอมแดงเป็นสีกำลังวัน ขณะที่เถาของต้นปาริชาตเย็บด้วยใบแก้วสด และ ในส่วนประกอบของเครื่องประดับอื่นๆ ยังมีเมล็ดพันธุ์งาดำ งาขาว ปีกแมลงทับ ที่ ชาวบ้านจากอุบลราชธานีและมุกดาหาร ร่วมถวายรวม 3 กิโลกรัม ในส่วนของแมลงภู่ ใช้ดอกหญ้า และเมล็ดงาในการตกแต่ง ซึ่งทุกขั้นตอนของการทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธานนั้น ประชาชนจิตอาสารวมทั้งช่างฝีมือทุกคน ล้วนมีความตั้งใจทำงานถวายเป็นครั้งสุดท้าย

ด้านนายพาวุธ ด้วงฝั่งเหนือ คณะสกุล ช่างแทงหยวกฝั่งธนบุรี วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร เปิดเผยว่า ทีมของตน 4 คน ได้รับมอบหมายในส่วนของชั้นรัดเกล้า ซึ่งจะ เป็นลายแทงหยวกลายกระจังและลายเฟื่อง ขั้นตอนจะเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกหยวกกล้วย ซึ่งเป็นกล้วยตานีเพราะมีช่องน้ำเลี้ยงกว้าง เก็บน้ำเลี้ยงได้มาก ทำให้ไม่เหี่ยวง่าย ทั้งยังมีความเหนียว ไม่กรอบแตกง่ายเหมือนกล้วยชนิดอื่นๆ และกาบมีสีขาว เรียบเนียน ไม่มีรอยด่าง เมื่อลอกกาบออกมาแล้ว ก็จะนำแต่ละกาบมาแทงลายต่างๆ อาทิ ลายฟัน 1 ลายฟัน 3 ลายฟัน 5 เป็นต้น จากนั้นจะนำแต่ละกาบมารวมติดกันโดยใช้วัสดุต่างๆ เช่นไม้เสียบลูกชิ้น เป็นเครื่องมือยึดติดไว้ เพื่อประกอบเป็นหนึ่งเดียวกัน

รองปธ.สภาฯ รัสเซียร่วมราชพิธี

วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงว่า นางโอลกา อีพิฟาโนวา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย หรือสภาดูมา จะเป็นผู้แทนของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 26 ต.ค.นี้

เจ้าชายนายกฯ บาห์เรนเสด็จ

ด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ณ วันที่ 23 ต.ค. 2560 มีรายพระนามเพิ่มเติมเสด็จ ร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คือ เจ้าชาย คอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน โดยเสด็จถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 20.50 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเครื่องบินส่วนพระองค์ ซึ่งมีพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ และพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาล ต้อนรับ

น.ส.บุษฎีกล่าวอีกว่า ณ วันที่ 23 ต.ค. 2560 มีผู้แทนร่วมงานพระราชพิธี 33 ประเทศ และยังมีเพิ่มเติมอีก

สวนนงนุชมอบดาวเรืองหมื่นต้น

วันเดียวกัน บริเวณหน้าประตูเทวาภิรมย์ พระบรมมหาราชวัง ถนนมหาราช เขตพระนคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานรับมอบต้นดาวเรืองจาก นายกำพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา จำนวน 1 หมื่นต้น ในกิจกรรม “น้อมถวายดาวเรือง เพื่อพ่อหลวงของเรา” พร้อมนำต้นดาวเรืองที่ได้รับมอบไปวางประดับเป็นรูปเลข ๙ ด้านหน้าประตูเทวาภิรมย์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพ มหานคร คณะ ผู้แทนกองทัพเรือ คณะผู้บริหารสวนนงนุชพัทยา และจิตอาสาตามโครงการ “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ร่วมรับมอบ

พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า การเตรียม การในช่วงพระราชพิธี ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีเรื่องน่ากังวล เพราะกทม.ได้จัดเตรียมมานานแล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์ที่จะจัดให้ประชาชนได้รับความสะดวก สะอาด และปลอดภัย และด้วยพื้นที่นี้อยู่ภายใต้การดูแลของราชนาวีสโมสร ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวถึงการรับมอบดอกดาวเรืองในครั้งนี้ว่า สวนนงนุชพัทยาได้นำดอกดาวเรือง 1 หมื่นต้นมามอบให้กับกทม. เพื่อนำไปตกแต่งในส่วนที่จะนำไปเพิ่มเติมจากที่กทม.เตรียมไว้แล้ว 2 ล้านต้น ซึ่งก็อยาก ให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วม เป็นการถวายดอกไม้เป็นครั้งสุดท้ายด้วย

โขนพระราชทานซักซ้อมเวทีจริง

วันเดียวกัน บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้เป็นวันแรกของการซักซ้อมการแสดงโขนพระราชทานบนเวทีจริง หนึ่งในการแสดงมหรสพในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

นายสุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการแสดงโขนพระราชทานแสดงในชุดรามาวตารทศกัณฐ์รบสดายุ หนุมานถวายพล และชุดขับพิเภก ใช้เวลา 2 ช.ม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแสดงดังกล่าวจะจัดแสดงในเวทีที่ 1 ด้านทิศเหนือของมณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมการแสดงทั้ง 3 เวที โดยเริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ จนถึงเวลา 06.00 ของวันรุ่งขึ้น และจะหยุดการแสดงเมื่อมีพระราชพิธีในพระเมรุมาศ

“ในหลวง”ทรงบำเพ็ญกุศล23 ต.ค.

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ต.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมราชานุสรณ์พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต ทรงวางพวงมาลาถวายราช สักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระอัฐิสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ออกประดิษฐานร่วมในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระสงฆ์ 57 รูป สวดพระพุทธมนต์จบแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ 57 รูป และพระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ