ผ้าไหมไทย Soft Power ตัวจริง เร่ง “อุ๊งอิ๊ง” ส่งเสริมให้มีที่ยืนในเวทีสากล

ผ้าไหมแบรนด์ไทย Soft Power ตัวจริง เร่ง “อุ๊งอิ๊ง” ส่งเสริมให้มีที่ยืนในเวทีสากล 

เมื่อเร็วๆ นี้ ผ้าไหมพรีเมียมแบรนด์ “Chayanna” ของ ดร.ชญณา ศิริภิรมย์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “Bangkok Uncovered & Beyond” ซึ่งโรงแรมสุโขทัยได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมี นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง และ นายสุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดังของเมืองไทย เข้าร่วมงาน พร้อมกับสวมเสื้อผ้าไหมแบรนด์ “Chayanna” ด้วย

ดร.ชญณา ศิริภิรมย์

ดร.ชญณา ย้อนความให้ฟังถึงที่มาที่ไปของผ้าไหมพรีเมียมแบรนด์ “Chayanna” ว่า เกิดจากความรักในผ้าไหมของคุณแม่ ที่เก็บสะสมมากว่า 40 ปี ทำให้ท่านมีผ้าไหมนับร้อยผืน ที่มีลวดลายงดงาม สีสันเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น วันหนึ่งได้ไปเปิดตู้ พบกรุผ้าไหมของคุณแม่ เห็นแล้วชอบในทันที ยิ่งเมื่อได้สัมผัสเนื้อผ้า ที่มีความนุ่มนวล เย็นสบาย ยิ่งทำให้หลงรัก

หลังจากนั้น จึงได้นำผ้าของคุณแม่มาออกแบบตัดเย็บเป็นชุด ในแบบที่ทันสมัย สวมใส่ออกงานได้ ใช้ในชีวิตประจำวันก็โก้เก๋ ไม่ซ้ำใคร คนเห็นต่างทักว่าสวย หลายคนขอซื้อ และเมื่อมีโอกาสนำผ้าไหมไปจัดแสดงในงานต่างๆ คนเริ่มสอบถามแล้วว่าเป็นแบรนด์อะไร สามารถหาซื้อได้ที่ไหน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ชื่นชอบผ้าไหมไทยเป็นพิเศษ

ทำให้เกิดความคิดว่า เราควรจะนำผ้าไหม ซึ่งเป็น “ศิลปะแห่งภูมิปัญญา” มีเรื่องราวในทุกผืนผ้า มาพัฒนาเป็นแฟชั่น ที่สามารถสวมใส่ได้หลากสไตล์ ลงตัวในทุกโอกาส ในแบบที่เป็นตัวเอง และสามารถทำตลาดได้ทั่วโลก

“ผ้าไหมที่คุณแม่สะสมไว้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราเริ่มศึกษาผ้าไหมอย่างจริงจัง ตั้งแต่การลงพื้นที่เฟ้นหาเส้นไหมคุณภาพ เลือกสรรวัตถุดิบย้อมสีธรรมชาติปราศจากสารเคมี จากพืชพรรณ น้ำ และดิน ที่มีกลิ่นอายท้องถิ่นอีสาน หลอมรวมเข้าด้วยกัน จนเป็นแบรนด์ “Chayanna” ผ้าไหมมัดหมี่พรีเมียม เริ่มพิถีพิถันตั้งแต่การตัดสรรเส้นไหมที่มีคุณภาพสวยงานคงทน มัดลวดลายร่วมสมัย ย้อมสีสัน”

ผ้าไหมแบรนด์ไทย

“โดดเด่นจากส่วนผสมของดิน แมลง พรรณไม้ที่สีสันแตกต่างตามฤดูกาล อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านการทอมืออย่างประณีตของสมาชิกกลุ่มทอผ้าในอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีสมาชิกหลากหลายอายุตั้งแต่เยาวชนที่เราเน้นส่งเสริมให้เข้ามาในอาชีพนี้ จนถึงพ่อแก่แม่เฒ่าผู้มาถ่ายทอดวิชา” ดร.ชญณา กล่าว

และว่า ผ้าไหมมัดหมี่ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาเนื้อเนียนนุ่มแน่นเงางามไม่ต้องปูกาวก็สวยเป็นทรงดูพลิ้วธรรมชาติ และยังคงทนเพราะคุณภาพไหม และการทอละเอียดแน่น และที่สำคัญ เย็นสบายระบายอากาศดีเหมาะกับการใช้งานในเมืองร้อน หรือ ใน office เพราะลวดลายเกิดจากการทอมือไม่ใช่การพิมพ์ลาย จึงถือเป็น Craftsmanship ที่ใช้ฝีมือ เวลา และความศรัทธาจริงๆ

ดร.ชญณา กล่าวด้วยว่า แบรนด์ “Chayanna” ถูกออกแบบตัดเย็บอย่างประณีตทุกขั้นตอน จากช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้ผู้ที่สวมใส่ สวย เรียบหรู มีความร่วมสมัย มีรสนิยม สวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกโอกาส ฉีกทุกข้อจำกัดที่เคยมีมา มี 4 ลวดลายที่สร้างสรรค์จากลายโบราณนำมาประยุกต์เพิ่มเติมให้มีเอกลักษณ์และเรื่องราว คือ

ชื่นชม

ลายดวงใจดอกแก้ว ประยุกต์จากลายประจำกระทรวงมหาดไทยให้ละมุนอ่อนช้อยสะดุดตาขึ้น ลายบัวหลวง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการบูชาคุณความดี ลายกุหลาบเล่นไฟ ที่มีความสวยสะดุดตา และลายคั่นนาคพิง ประยุกต์การใส่เทคนิคหมี่คั่นโบราณให้เห็นถึงความมีไสตล์ผู้มาก่อนกาลของคนโบราณ

และได้นำลายทั้ง 4 มาออกแบบเป็น 3 คอลเล็กชันให้เหมาะกับทุกคน คือ

1. Nirvana หรือ นิพพาน สะท้อนถึงความอิ่มเอมในชีวิต ให้ความหมายของชีวิตตัวเองด้วยตัวเอง สงบเย็นสบายชุดจึงถูกออกแบบให้เป็น “KIMONO ROBE” บ่งบอกถึง Unisex Dress มีความทันสมัย โดดเด่น ในแบบที่เป็นตัวเอง

2. Diplomat เป็นการนำคุณค่าของผ้าไหมไทย มาออกแบบให้เป็น Luxury Dress สุภาพ เรียบหรู สามารถสวมใส่เป็นทางการได้ ให้ความรู้สึก Business ที่ยังคงความ Friendly เข้าถึงได้

และ 3. MetrOriental นำความเป็นไทยของผ้าไหม มาออกแบบให้มีกลิ่นอายของความเป็นคนเมืองในแบบเอเชีย หรือ Oriental ใส่ความมีชีวิตชีวา สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.chayannasilk.com มีวางจำหน่ายที่ โรงแรมสุโขทัย The Sukhothai Bangkok

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า ด้วยคุณสมบัติของผ้าไหม ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามีความงดงาม แต่ที่ผ่านมา เวลาจะซื้อผ้าไหมที่มีการออกแบบตัดเย็บในแบบที่ทันสมัย มักจะต้องพึ่งพาแบรนด์ต่างชาติ แต่วันนี้ สิ่งที่เรารอคอยก็มาถึง เพราะแบรนด์ “Chayanna” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทย ซึ่ง ดร.ชญณา ได้นำผ้าไหมไทยที่ผ่านกระบวนการตามธรรมชาติจากท้องถิ่น มาออกแบบแนวประยุกต์เพื่อให้ผ้าไหมไทยอยู่ในชีวิตยุคปัจจุบันได้มากขึ้น

2 นายแบบกิตติมศักดิ์

หลายคนมักมองผ้าไหม เป็นสินค้าที่เข้าถึงยาก ทั้งรูปแบบการตัดเย็บ ที่เฉพาะกลุ่มและค่อนข้างเป็นทางการ การที่ ดร.ชญณามาออกแบบในรูปแบบที่มีดีไซน์มากขึ้น ตนใส่แล้วรู้สึกถึงความเย็นสบาย ไม่อึดอัดเหมาะกับอากาศบ้านเรา อยากให้ทุกคนลองเปิดใจมาใช้ผ้าไหมไทย จากภูมิปัญญาไทย และเป็นแบรนด์ของคนไทย คือ Soft Power ที่รัฐบาลควรให้การสนับสนุน

“ผมเห็นแบบนี้แล้วนึกถึงคุณอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะที่เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่ประกาศเอาจริงเอาจังกับการสร้าง Soft Power เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนตัวมองว่า ผ้าไหมไทยที่มีกระบวนการผลิตจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่กำลังจะหายไปเพราะหาคนทำยาก”

“เมื่อมีใครนำมาประยุกต์ และสนับสนุนให้ชาวบ้านรักษาภูมิปัญญาโดยการผลิตผ้าไหมเกรดพรีเมียม ออกแบบตัดเย็บได้อย่างวิจิตรแบบนี้ รัฐควรต้องตีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้ผ้าไหมไทยของเราไปถึงชาวโลกได้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเริ่มจากคนไทยให้การสนับสนุนก่อน และมีรัฐบาลช่วยส่งเสริม” นายกรณ์ กล่าว

สอดคล้องกับ นายสุทธิพงษ์ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดังเจ้าของวลี “Local สู่เลอค่า” มองว่า ในความเป็นไทยเรื่องของเอกลักษณ์ความเป็น Soft Power ทั่วโลกให้การยอมรับผ้าไหมไทย แต่เวลาพูดถึงผ้าไหมคนมักจะมองว่าเป็นของจับต้องยาก เหมาะกับคนสูงวัยและต้องใช้ในงานที่เป็นทางการเท่านั้น แต่เข้าใจคนรุ่นใหม่ และมีความร่วมสมัย จึงได้ออกแบบผ้าไหมในทุกรายละเอียด ให้เหมาะกับคนทุกวัย ทุกสไตล์