พลิกชีวิตด้วยปัญญา สร้างอนาคตด้วย “โอกาส”

นางสนิท  ทิพย์นางรอง หรือ น้าน้อย เป็นหญิงชาวบ้านที่เกิดในชุมชนบ้านลิ่มทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จบ ป.4 มีอาชีพทำนาโดยแขวนโชคชะตาไว้กับฟ้าฝน ปีไหนฝนฟ้าไม่ดีก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ทำไปทำมาหนี้สินพอกพูนงอกงามยิ่งกว่าข้าวในนาเสียอีก ก็เลยชักชวนสามีไปเช่าที่นาเพื่อทำเพิ่มจากเดิม 7 ไร่ เป็น 60 – 70 ไร่ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งขาดทุนมากขึ้น หลังปลูกข้าวก็ไปรับจ้างตัดอ้อย สามีก็บ่ายหน้าเข้ากรุงเทพฯ ขายแรงงานแต่ไม่เคยได้กำไรแถมบาดเจ็บกลับบ้านทุกที

และแล้วสิ่งที่รอคอยมาตลอดชีวิตก็มาถึง นั่นคือ โอกาส

          ด้วยนิสัยรักการเรียนรู้และมีความเชื่อเสมอว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน ทำให้น้าน้อยมีโอกาสได้เข้าอบรมการทำบัญชีครัวเรือน นับว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน แรกๆ ก็เริ่มทำบัญชีด้วยการเขียนและจิ้มเครื่องคิดเลขด้วยมือ เพื่อทราบรายรับรายจ่ายเท่านั้น

          แต่หลังจากได้เข้าร่วมโครงการตามแนวทางการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญากับมูลนิธิไทยคม ปี 2544 (Constructionism หรือทฤษฎีทางการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา เป็นทฤษฎีการเรียนรู้ที่ให้ความสำคัญกับการลงมือปฏิบัติจริง เมื่อรู้จริง ปฏิบัติจริง จะเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้และอยู่ได้อย่างยั่งยืน) น้าน้อยมีโอกาสได้ไปดูงาน เรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือนด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ทำให้พบปัญหาค่าใช้จ่ายในบ้านและต้นทุนการปลูกข้าวกับรายรับจากการขายผลผลิตไม่สมดุลกันเลย แต่ด้วยโปรแกรมเดียวกันนี้เองที่ช่วยน้าน้อยวางแผนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน คำนวณต้นทุนและกำไรของการเพาะปลูก ช่วยให้ครอบครัวสามารถปลดหนี้ได้ภายในเวลา 2 ปี (2544-2546) น้าน้อยพูดกับคนในชุมชนเสมอว่า “คำว่าโอกาสที่มองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉัน”

อุทิศที่ดินของตัวเองสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต

          เพราะเชื่อว่าความรู้คือหัวใจของความสำเร็จและสิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งดี มีประโยชน์ น้าน้อยจึงตั้งใจทำจนสำเร็จเพื่อเป็นตัวอย่างและช่วยให้คนในหมู่บ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น น้าน้อยได้อุทิศที่ดินของตัวเองสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ของเยาวชนและชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจากมูลนิธิไทยคม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการต่างๆ เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

กว่า 14 ปีแล้วที่น้าน้อยและมูลนิธิไทยคมได้ร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านลิ่มทองอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำชุมชน โครงการรักษ์ผืนดิน โครงการเพิ่มคุณค่าผืนนาชุมชน น้าน้อยใช้เวลา 3 ปี(25532555) ในการคัดสายพันธุ์ข้าวจิ๊บ ให้บริสุทธิ์โดยไม่ใช้สารเคมี‘ข้าวจิ๊บ’  เป็นข้าวเมล็ดเล็ก ลักษณะเรียวยาว  เป็นข้าวกล้องพันธุ์พื้นเมือง ที่เพิ่งถูกค้นพบในวงวิชาการ  และถือเป็นข้าวเอกลักษณ์ของชุมชนบ้านลิ่มทอง เนื่องจากพบในแถบอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หุงขึ้นหม้อ มีกลิ่นหอม สามารถขายเป็นข้าวสารบรรจุแพ็คกิโลกรัมละ 60 บาท สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

          และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความอุตสาหะ ความมานะพากเพียรและรักที่จะเรียนรู้ นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของชีวิตได้เสมอ ขอเพียงแค่คำว่า “โอกาส”