โควิด ไม่จบง่ายๆ เชื้ออยู่บนมือถือ ได้นาน 3-7 วัน นวัตกรรมฆ่าเชื้อยอดขายพุ่ง

คุณวิษณุ จินตนาศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีฟคลีน เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำและผู้ผลิตแผ่นฆ่าเชื้ออันดับหนึ่งของไทย เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซีทัช ในปี 2565 ว่า มีแผนในการขยายธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่มสินค้าที่เป็นไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเด่นด้านนวัตกรรมการฆ่าเชื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากฆ่าเชื้อ เสื้อผ้า และสินค้าภายในบ้าน ฯลฯ

ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ให้สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยตัวเอง (Self-Cleaning Innovation) ด้วยเทคโนโลยีสมาร์ทนาโนไอออน (Smart Nano Ion) และเพิ่มอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อให้เหมาะสมและครอบคลุมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวังในเรื่องการระบาดและการติดเชื้อจากโคโรนาไวรัส

โดยปัจจุบันซีทัช มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะสร้างยอดขายรวมในปี 2565 ได้สูงถึง 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนในการเปิดรับแบรนด์สินค้าและผู้สนใจที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับซีทัช โดยผลิตภัณฑ์ที่จะพัฒนาร่วมกันนั้น ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของนวัตกรรมด้านความสะอาดและปลอดเชื้อ เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดสำหรับผู้ใช้งาน

ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับซีทัชแล้วมากกว่า 10 แบรนด์ ทั้งกลุ่มเครื่องสำอาง เทคโนโลยี เครื่องใช้ภายในบ้าน และอุปกรณ์เสริม (Gadget) ฯลฯ

โดยล่าสุด ทางซีทัช ได้จับมือกับ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำในการจำหน่ายอุปกรณ์และสินค้าไอที ซึ่งมีแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน โดยต้องการสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน เนื่องจากมีข้อมูลรายงานตรงกันว่าเชื้อโคโรนาไวรัส สามารถอยู่บนโทรศัพท์มือถือได้นานถึง 3-7 วัน

และองค์กรเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย (CSIRO) ได้วิจัยเชื้อโคโรนาไวรัส ที่เป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 พบว่า สามารถมีชีวิตเกาะบนพื้นผิว เช่น ธนบัตร หน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือ สเตนเลส ได้ถึง 28 วัน โดยที่ยังสามารถแพร่เชื้อได้

ผลความร่วมมือกับ คอมมี่ ในครั้งนี้ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ คอมมี่ เอ็กซ์ ซีทัช ไฮโดรเจล (Commy x Z-TOUCH Hydrogel) ฟิล์มไฮโดรเจลสำหรับโทรศัพท์มือถือ ที่มีคุณสมบัติเด่นในการฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิว โดยใช้เทคโนโลยีสมาร์ทนาโนไอออน ซึ่งประจุไอออนของโลหะจะเข้าไปทำลายผนังเซลล์ของไวรัสและแบคทีเรีย

ทำให้ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ได้มากถึง 99.9% ภายในเวลา 30 นาที และยังมีอายุการใช้งานนานถึง 1 ปี ซึ่งผลทดสอบประสิทธิภาพหลังเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 1,000 ครั้ง พบว่า ยังคงประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อได้ 99.9%

นอกจากนั้น ยังได้รับการรับรองผลการฆ่าเชื้อจากหลายสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น Q-TEC จากประเทศญี่ปุ่น, FONDEREPHAR จากประเทศฝรั่งเศส, CE MARK จากยุโรป, SGS สถาบันชั้นนำระดับนานาชาติ และ KMUTT มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นต้น ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่การร่วมมือกันทำให้คนไทยได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ในราคาที่จับต้องได้

ด้าน คุณชวลิต มโนวิลาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า คอมมี่ (COMMY) เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์และสินค้าไอที รวมถึงเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายแบตเตอรี่อันดับหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนั้น ยังพัฒนาสินค้าใหม่และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ ฟิล์มกระจกกันรอย อุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือ ฟิล์มไฮโดรเจล ฯลฯ

และจากการมองเห็นแนวโน้มเรื่องความใส่ใจในสุขภาพของผู้บริโภคและการเติบโตของสินค้ากลุ่มสุขภาพ ทางบริษัทจึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้ากลุ่มสุขภาพมากขึ้น โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายสินค้ารวมทุกกลุ่มสินค้าในปี 2565 อยู่ที่ 200 ล้านบาท