ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 07.04 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จออก ณ ตำหนักทิพย์พิมาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทรงบำเพ็ญพระกุศลทรงบาตรพระสงฆ์จากวัดมกุฏคีรีวัน(เขาใหญ่) 9 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 5 ธันวาคม 2559 จากนั้นทรงประกอบอาหารเมนูข้าวผัดญี่ปุ่น ด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบ ดังนี้ ข้าวสวย ไข่ไก่ เนื้อไก่ กระเทียมเจียว เนยสด พริกไทยป่น เกลือ และซอสโชยุ สำหรับวิธีทำนั้น ทรงนำเนยสดลงผัดกับข้าวสวยในกระทะ เติมกระเทียมเจียวและเนื้อไก่ลงผัด ทรงปรุงรสด้วยเกลือ ซอสโชยุ พริกไทย เมื่อส่วนผสมคลุกเคล้าเข้ากันแล้ว ทรงเติมไข่ไก่ลงไปผัดให้เข้ากันจนรสกลมกล่อม
ทั้งนี้ ทรงประกอบอาหารเมนูข้าวผัดญี่ปุ่นทั้งหมด 10 กระทะ เพื่อนำบรรจุใส่กล่อง จำนวน 500 กล่อง โดยมีนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมการพร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาร่วมบรรจุอาหารใส่กล่อง ซึ่งโปรดให้เชิญอาหารพระราชทานไปแจกแก่ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยทรงห่วงใยประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ ทั้งที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะได้รับประทานอาหารพระราชทาน ที่ปรุงสุกใหม่ถูกหลักสุขอนามัย ซึ่งประชาชนสามารถนำอาหารพระราชทานไปรับประทานระหว่างเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อีกด้วย
กระทั่งเวลา 13.30 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ นำอาหารมาพระราชทานให้ประชาชนที่บริเวณเต็นท์จิตรลดาอาสาทำเพื่อพ่อ โดยมีคุณหญิงจามรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการโรงเรียน คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช เป็นผู้รับมอบเพื่อนำอาหารแจกแก่ประชาชน ได้รับความสนใจจากประชาชนที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้
นางสาววรัญญา เจริญพร อายุ 42 ปี และนางนุชนภา บุญขำ อายุ 42 ปี พนักงานบริษัทเอกชน จังหวัดระยอง ซึ่งมาต่อคิวรับอาหารพระราชทาน กล่าวว่า รู้สึกเป็นบุญที่สุดในชีวิตที่ได้รับอาหารพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในครั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน ซึ่งตนและชมรมวิทยุสื่อสารทั่วประเทศนัดกันมาสักการะพระบรมศพ โดยออกจากระยองตั้งแต่ตี 1 และได้เข้าสักการะตอนบ่ายโมง แต่ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเพราะพระองค์ทรงทำให้เรามากกว่านี้ ขนาดว่าเดินทางมาสักการะพระบรมศพ คนก็ยังดูแลเราอย่างดีตลอดที่สักการะ ทำให้รู้สึกตื้นตันมากและจะกลับไปบอกเล่าให้คนที่บ้านได้ฟังด้วย
นอกจากนี้ที่เต็นท์หน่วยแพทย์พระราชทานและอาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ ฝั่งศาลฎีกา มีหน่วยแพทย์และพยาบาล ตั้งโต๊ะบริการดูแลรักษาตรวจโรคเบื้องต้น รวมถึงการปฐมพยาบาลอุบัติเหตุเล็กน้อย ระหว่างเวลา 10.00 -20.00 น. โดยจะมีให้บริการทุกวันกระทั่งครบ 100 วัน
สำหรับวันนี้ มีทีมแพทย์รวม 4 คน พยาบาล 16 คน และเจ้าหน้าที่ 4 คน จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และโรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก ซึ่งเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าวันนี้จะมีคนมาสักการะพระบรมศพจำนวนมาก
ที่มา มติชน