สูตรลับ “เดอะวอฟเฟิล” แตกโมเดล-เพิ่มไลน์สินค้าโตรอบทิศ

แม้ก่อนหน้านี้จะมีแบรนด์ขนมอบ “วัฟเฟิล” ทั้งไทย-เทศตบเท้าเข้ามารับโอกาสนับไม่ถ้วน ทว่าร้านที่ยืนหยัดอยู่อย่างแข็งแรงจนถึงปัจจุบันคือแบรนด์เอสเอ็มอีไทยอย่าง “เดอะวอฟเฟิล” ที่วันนี้นอกจากจะมีแผนพัฒนาสินค้า โมเดลร้านใหม่ ๆ ให้ทันกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งยังเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนแตกไลน์สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ในโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้

“สุทธิชัย พนิตนรากุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย จำกัด เจ้าของสิทธิแฟรนไชส์ร้านวัฟเฟิลสัญชาติไทย เปิดเผยถึงแนวคิดในการทำธุรกิจ ทิศทางการตลาด และก้าวต่อไปของธุรกิจนับจากนี้ไปของ “เดอะวอฟเฟิล”


กระโดดสู่ “บลูโอเชียน”

“สุทธิชัย” เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่ที่เขาภูมิใจว่ากลิ่นหอมของวัฟเฟิลที่โชยมาแตะจมูกระหว่างเดินห้างเมื่อ12ปีก่อน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาตัดสินใจหันหลังให้กับโรงเพาะกุ้ง แล้วกระโดดเข้ามาในธุรกิจเบเกอรี่ เพื่อปั้นแบรนด์ “เดอะวอฟเฟิล” ขายวอฟเฟิลอบสดทั้งที่ไม่มีความรู้ในแวดวงนี้มาก่อน

ด้วยแรงจูงใจง่าย ๆ เขาเห็นว่าวัฟเฟิลเป็นขนมหน้าตาดีที่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าตลาดชัดเจน สินค้าใหม่มาก การแข่งขันก็น้อย เป็นบลูโอเชียนแห่งใหม่ที่สามารถกำหนดราคาขายได้เอง แต่ด้วยความรู้เรื่องเบเกอรี่เป็นศูนย์ จึงออกสตาร์ตด้วยการลองผิดลองถูก เรียนรู้จากการลงมือทำจริง ปรึกษา ขอความรู้จากบริษัทที่ซื้อวัตถุดิบด้วยเป็นประจำ นวดแป้งสาลีทุกเช้าเย็น ไม่อร่อยก็ทิ้งแล้วทำใหม่ ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 3 เดือน จนได้แป้งวัฟเฟิลสูตรเฉพาะของตัวเอง

“สุทธิชัย” ประเดิมด้วยการตั้งร้านที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ขายวัฟเฟิลชิ้นละ 15 บาท พร้อมโปรโมชั่น 3 ชิ้น 39 บาท

ผลตอบรับดีเกินคาด จนขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ที่วันนี้กระจายตัวไปทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ทั้งในห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แหล่งชุมชนต่าง ๆ รวมยอดขายล้านชิ้น/เดือน ทั้งยังมีสาขาเปิดใหม่ 2-5 สาขา/เดือน

ปัจจุบันมีเพียง 3 สาขาที่เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย บริหารเองได้แก่ ซีคอนสแควร์, บีทีเอส อโศก และปั๊ม ปตท.ถนนเสรีไทย เพื่อศึกษาโอกาส และปัญหาของร้านในทำเลที่แตกต่างกัน ซึ่งปั๊มน้ำมันถือเป็นทำเลใหม่ล่าสุดที่เริ่มนำร่องมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยเป็นทำเลที่ค่าเช่าไม่สูง คู่แข่งไม่มาก เพิ่มโอกาสการขายกลุ่มคนเดินทาง เพราะจากเดิมเปิดในโมเดิร์นเทรดอย่างเซ็นทรัล บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส ฯลฯ เป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้ คอนเซ็ปต์ของเดอะวอฟเฟิลจะเน้นเข้าถึงลูกค้ากลุ่มแมส ด้วยคีออสก์ขนาดเล็กเพื่อให้ค่าเช่าที่ ค่าบริหารจัดการต่ำ ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ด้วยการรักษาคุณภาพสินค้าให้คงที่ พัฒนาแป้งให้เก็บรักษาได้นานไม่มีต้นทุนเสียเปล่า ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์แพ็กเกจจิ้ง โดยขายแพ็กเกจจิ้งบางตัวให้กับแฟรนไชซีต่ำกว่าทุนเพื่อให้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

“กำไรต่อชิ้นไม่สูง แต่ขายได้มาก เลยมีกำไรดี เพราะเราออกแบบธุรกิจให้มีลูกค้าถาวร ไม่ได้เป็นแค่แฟชั่น ด้วยการทำโปรดักต์ให้ดี ตั้งราคาให้เหมาะสม ทำตลาดในกลุ่มลูกค้าที่ถูกต้อง แล้วไปแข่งกันที่คุณภาพ และรสชาติสินค้า ในทำเลที่ใช่”

เพิ่มไลน์เจาะโมเดิร์นเทรด

“สุทธิชัย” เล่าต่อว่าปัจจุบันมีสินค้า 3 ช่วงราคา ได้แก่ 16 บาท 19 บาท และ 25 บาท และกำลังพัฒนาสินค้าที่พรีเมี่ยมมากขึ้น ชิ้นละ 30-40 บาท สำหรับเปิดตัวร้านวอฟเฟิลแบรนด์ใหม่ที่จะเป็น

ร้านขนาดใหญ่ เจาะกลุ่มลูกค้าบีถึงเอ มีที่นั่งรับประทานในร้าน เป็นโมเดลที่ปรับปรุงพัฒนาจากร้านใหญ่ที่เคยเปิดที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เมื่อ 5 ปีก่อน คาดว่าจะเปิดร้านต้นแบบสาขาแรกได้ภายในปีหน้า และมองโอกาสนำไปเปิดต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดโรงงานใหม่ย่านสมุทรสาครเสริมจากโรงงานเดิมที่ศรีนครินทร์ เพื่อเพิ่มไลน์ผลิตวัฟเฟิลอบสำเร็จรูปแบรนด์ใหม่ที่จะเข้าไปปูพรมขายในช่องทางร้านสะดวกซื้อ-ไฮเปอร์มาร์เก็ตคาดว่าจะได้เห็นในปีหน้าเพื่อเพิ่มโอกาสการขาย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น

“ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่หดหายไปตามสภาพเศรษฐกิจแต่เราไม่กระทบมากเพราะคนยังซื้อขนมชิ้นละ 10-20 บาท ที่เขารู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะจ่าย ตอนนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องดูแลตัวเองก่อน เตรียมแผนธุรกิจให้พร้อม เพราะปีหน้าจะเป็นโอกาสของคนที่แข็งแรงที่จะไปต่อได้”

โฟกัสตลาดจีนเสริม ตปท.

นอกจากนั้น “สุทธิชัย” ยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุกมากขึ้นในช่วง 1 ปีต่อจากนี้ โดยเตรียมทีมงานที่ดูแลตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ พัฒนาสินค้า อาทิ เดอะวอฟเฟิลไส้ทุเรียนหมอนทองที่คนจีนนิยมรับประทาน และหาช่องทางขายในประเทศใหม่ ๆ ด้วยการออกบูทในงานต่างประเทศร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือทำบิสซิเนสแมชชิ่ง โดยมุ่งเน้นเจาะตลาดจีนที่มีประชากรจำนวนมาก ทั้งยังมีพฤติกรรมหลายอย่างคล้ายกับคนไทย

“ตอนนี้มีสาขาในอินโดนีเซีย 4 สาขา ฟิลิปปินส์ 1 สาขา ลาว 2 สาขา และดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) 2 สาขา ต่างประเทศเราไม่ได้ต้องการปริมาณ แต่ต้องการให้ทุกสาขาที่เปิดทำกำไร ซึ่งจีนเราอยู่ระหว่างหาพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสม คาดว่าจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพการขยายที่ดี โดยจะวางราคาขายชิ้นละ 5 หยวน (ราว 25 บาท) ที่น่าจะเข้าถึงลูกค้าจีนได้ในวงกว้างเหมือนกับในไทย”

แม้แบรนด์จะเติบโตเข้าสู่ปีที่ 12 แต่ผู้บริหาร เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย บอกว่า นี่อาจเป็นเพียงช่วงเวลาเริ่มต้นที่ต้องวางรากฐานให้ดี รองรับการเติบโตของ “เดอะวอฟเฟิล” ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า”เพราะเราต้องคิดให้ใหญ่ ไปข้างหน้าด้วยความเชื่อที่ว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้าตั้งใจจริง”