ยูโอบี จับมือ บิ้ว ทรี เทคโนโลยี ดันธุรกิจเอสเอ็มอีสู่ความยั่งยืน ผ่านโซลูชันการเงินสีเขียว

(จากซ้ายไปขวา) นางสาวปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการดิจิทัล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย นางสาวนัชชา เลิศหัตถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ้วทรี เทคโนโลยี จำกัด และ นายวรากร จิรการุณย์พงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท บิ้วทรี เทคโนโลยี จำกัด

ยูโอบี จับมือ บิ้ว ทรี เทคโนโลยี ดันธุรกิจเอสเอ็มอีสู่ความยั่งยืน

ผ่านโซลูชันการเงินสีเขียว

กรุงเทพฯ, 5 กุมภาพันธ์ 2567 – เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท บิ้ว ทรี เทคโนโลยี จำกัด สตาร์ตอัปไทยด้านเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศ (Climate Tech) และผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbonwize) สนับสนุนให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กรก่อนขออนุมัติสินเชื่อสีเขียวจากธนาคารในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ร่วมผลักดันการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันกระบวนการเปลี่ยนผ่านการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีไปสู่ความยั่งยืนต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก รายงานการศึกษา UOB Business Outlook Study 2023 ประเทศไทย พบว่า ร้อยละ 96 ของธุรกิจเอสเอ็มอีใส่ใจแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน แต่มีเพียงร้อยละ 47 นำแนวคิดนี้มาใช้ ร้อยละ 29 ให้เหตุผลว่าขาดความช่วยเหลือด้านการเงินจึงไม่สามารถนำแนวคิดนี้มาปฏิบัติได้อย่างจริงจัง [1] ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จึงจับมือกับ บิ้ว ทรี เทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางการเงินในการเดินหน้าธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน

บริษัทสามารถสมัครบริการสินเชื่อสีเขียวจากธนาคารยูโอบีในเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี โดยต้องทำการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กรบนแพลตฟอร์ม Carbonwize ซึ่งจะช่วยคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของธุรกิจด้วยระบบอัตโนมัติ และแสดงผลข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้องค์กรวางแผนกลยุทธ์ในการลดก๊าซเรือนกระจกในองค์กร เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ การติดตั้งระบบควบคุมความเย็นภายในอาคาร หรือโซลูชันทำน้ำร้อนแบบประหยัดพลังงาน ธนาคารจะนำข้อมูลที่ได้รับการประเมินตามมาตรฐานสากลจากแพลตฟอร์มนี้มาประกอบการพิจารณาก่อนอนุมัติสินเชื่อให้แก่ธุรกิจ

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Head of Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “บิ้ว ทรี เทคโนโลยี เป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ของธนาคารภายใต้โครงการ Sustainability Innovation ที่จัดขึ้นร่วมกับ เดอะฟินแล็บ เพื่อสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเดินหน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยเราได้นำเสนอแพลตฟอร์ม Carbonwize แก่ธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการกว่า 200 ราย เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนได้อย่างตรงจุด ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการเดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการปล่อยสินเชื่อสีเขียวเพื่อช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมีความรับผิดชอบ”

นางสาวนัชชา เลิศหัตถศิลป์​ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ้ว ทรี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจต้องเติบโต แต่การเติบโตของธุรกิจนั้นต้องเติบโตอย่างยั่งยืนและไม่สร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อม และตอบรับกระแสผู้บริโภคยุคใหม่หันมาให้ความสำคัญ และสนับสนุนสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยี Climate Tech เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถประเมินและบริหารจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านแพลตฟอร์มการบริหารจัดการคาร์บอนอย่างครบวงจร ที่ช่วยลดขั้นตอนการเก็บข้อมูล เครื่องคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นต์อย่างอัตโนมัติ และให้รายงานสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานทั้งไทยและสากล ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยในการเปลี่ยนผ่านจากความรับรู้สู่การลงมือทำ Vision to Action ให้ผู้ประกอบการไทยสามารถที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ และเข้ามามีส่วนร่วมในการพาประเทศไทยไปสู่เป้าการลดก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 40 ในปี 2573 อีกด้วย”

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website www.carbonwize.io

 

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี

ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์

ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศวรรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนให้เติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค

เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และการศึกษา

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 147 สาขา และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 343 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติงส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))

 

[1] UOB Business Outlook Study 2023 ผู้ตอบ : ธุรกิจเอสเอ็มอีจากภาคอุตสาหกรรมหลักในประเทศไทย N=322