เผยแพร่ |
---|
วิทยาลัยนานาชาติ DPU เดินหน้าเปิดสอนหลักสูตรวิชาภาษาตะวันออก หลังจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น แห่ลงทุนไทย คาดอนาคตไทยจะเป็น HUB ที่ชัดเจนมากขึ้น ส่งผลทุกสถานประกอบการมีความต้องการบุคลากรที่มี Skill ภาษาที่ 3 เป็นจำนวนมาก
วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ผศ.ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้แถลงถึงความคืบหน้าการลงทุนในประเทศไทย ช่วง 7 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจ จำนวน 377 ราย เม็ดเงินลงทุนกว่า 58,950 ล้านบาท
โดยประเทศที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน และเยอรมนี ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC มูลค่าการลงทุน 12,348 ล้านบาท ประเทศที่เข้ามาลงทุน 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังไฟเขียวเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือใหม่เชื่อมต่อเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงเป็นศูนย์กลางจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าของสายการเดินเรือทั่วโลก โดยเส้นทางเดินเรือใหม่จะช่วยย่นระยะเวลาเดินทาง ลดเวลาการขนส่งสินค้า ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง สำหรับมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ในอีก 7 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2573) หากโครงการฯนี้เปิดให้บริการ ประเทศไทยจะกลายเป็น Hub หรือจุดศูนย์กลางในด้านต่างๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะด้าน Education Hub, Tourism Hub , Medical Hub, Logistic Hub รวมถึง Hub ด้านอื่น ๆ อีกด้วย
ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าวว่า จากข้อมูลข้างต้นหลังจากที่ไทยเป็น Hub ของการขนส่งสินค้า หรือ Hub ในด้านต่างๆ ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันออกจะเข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน และคาดว่าหลายองค์กรต้องการบุคลากรที่มีความสามารถในการสื่อสารได้หลากหลายภาษา
ดังนั้นเพื่อเป็นการติดอาวุธด้านภาษาให้นักศึกษา รวมถึงเป็นการเตรียมผลิตบุคลากรให้ตรงความต้องการของสถานประกอบการ วิทยาลัยนานาชาติ DPU จึงได้เปิดสอนในหลักสูตรวิชาภาษาตะวันออก ประกอบด้วย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งใน ทักษะด้านภาษาที่ 3 เนื่องจากภาษาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผู้มีความสามารถด้านนี้ อีกทั้งยังเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดแรงงานด้วย
“ต้องยอมรับว่า Soft Power ของจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ยังมีความนิยมอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นการเจริญเติบโตของภาษาทางตะวันออกมีความเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้น ทางวิทยาลัยฯ จึงเปิดหลักสูตรภาษาตะวันออกขึ้นมา เพราะมองว่าในอนาคตทุกสถานประกอบการมีความต้องการคนที่มีสกิลด้านนี้สูงมาก สุดท้ายนี้การพัฒนาบุคลากรในด้านภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากใครที่มีสกิลดังกล่าวจะมีโอกาสในการทำงานมากกว่าคนอื่น หรืออาจเรียกได้ว่าเรียนภาษาเพื่อให้มีภาษีหรือมูลค่าในตัวเองมากกว่าคนอื่น” คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ DPU กล่าวในตอนท้าย
วิทยาลัยนานาชาติ DPU เปิดสอนหลักสูตรพิเศษ 2 โครงการเป็นครั้งแรก ได้แก่ 1. หลักสูตรวิชาภาษาตะวันออก ประกอบด้วย เกาหลี ญี่ปุ่น (หลักสูตรปริญญาตรี) และควบคู่กับการเปิดหลักสูตรระยะสั้น 15 ชั่วโมงและ 30 ชั่วโมง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้บุคคลทั่วไป หรือผู้ที่ทำงานอยู่แล้วได้มีการพัฒนาทักษะทางภาษาเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มเปิดสอนปลายเดือนตุลาคมนี้
2. หลักสูตรภาษาจีน (หลักสูตรปริญญาตรี) สำหรับผู้ที่จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย (เรียนเสาร์-อาทิตย์) สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรี และ ปวส.(เรียนวันอาทิตย์) เริ่มเปิดสอนเดือนมกราคม ปี 2567 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.dpu.ac.th/