เผยแพร่ |
---|
เปิดเทคโนโลยีใหม่จาก LINE ที่นักพัฒนาไทยห้ามพลาด จากงาน LINE Conference Thailand 2023
ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่กับครั้งแรกในประเทศไทย ของงาน LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 งานสัมมนาด้านเทคโนโลยีสุดยิ่งใหญ่จาก LINE ประเทศไทย กับการเผยวิสัยทัศน์ ทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก LINE สำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะ มุ่งสู่การเป็น “Open Platform” หรือ แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย นอกจากเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจได้ต่อยอดนำเทคโนโลยีบน LINE สร้างการเติบโตแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสครั้งใหญ่สำหรับนักพัฒนาไทย ในการสรรค์สร้างโซลูชันใหม่ๆ มาเชื่อมต่อกับ LINE ได้สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพขึ้น
ภายในงานเต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการอัปเดตโรดแมปผลิตภัณฑ์ของ LINE ที่หลากหลายผลิตภัณฑ์หรือบริการ มีการคิดค้นโดยทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตลาดไทยโดยฉพาะมาแล้ว เช่น เครื่องมือ MyCustomer, บริการ LINE SHOPPING และ LINE MELODY เป็นต้น โดยในช่วงปี 2023-2024 LINE มีโรดแมปใหม่ๆ มากมาย ที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาไทย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ในด้าน API & Plug-in ซึ่งมุ่งเน้นเปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้ครอบคลุมและหลากหลาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโซลูชันใหม่ตอบโจทย์เฉพาะด้านได้มากขึ้น อาทิ
1. LINE SHOPPING API เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานของนักพัฒนาไทยที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบสินค้าของร้านค้าบน LINE SHOPPING ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบการขายได้ดียิ่งขึ้น ผ่าน 4 API ได้แก่
- Product API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบคำสั่งจัดการบริหารข้อมูลสินค้า อัปเดตสินค้าจำนวนมากเข้าสู่หน้ารายการสินค้าได้โดยอัตโนมัติ
- Inventory API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบคำสั่งจัดการบริหารสต๊อกสินค้า เติมสินค้าเข้าหน้าร้านโดยอัตโนมัติเมื่อสินค้าหมดสต๊อก
- Order API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบการเข้าถึงข้อมูลออร์เดอร์ได้ เพื่อเข้าดูข้อมูลออร์เดอร์โดยละเอียด
- Webhook Order ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบการแจ้งเตือน ส่งแจ้งเตือนสถานะการสั่งซื้อไปยังผู้ขายหรือแอดมิน เช่น สั่งซื้อแล้ว, จ่ายเงินแล้ว ฯลฯ ได้โดยอัตโนมัติ
โดยในอนาคต LINE มีแผนพัฒนา API ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การทำงานให้นักพัฒนาไทยที่ต้องการจัดการระบบการขายบน LINE SHOPPING ได้ดียิ่งขึ้นอย่าง Chat Invoice API ให้นักพัฒนาสามารถสร้างลิงก์ชำระเงินของสินค้าบน LINE SHOPPING ส่งให้ลูกค้าผ่านช่องทางใดก็ได้ เพื่อกลับมายังหน้าการซื้อขายบน LINE SHOPPING อีกครั้งได้โดยอัตโนมัติ เป็นต้น
2. LINE OA Plus Plug-in Store ต่อยอดการพัฒนาจาก LINE OA Store เพื่อเป็นช่องทางให้นักพัฒนาภายนอกองค์กรสามารถพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มเครื่องมือภายใต้ LINE OA Plus ไม่ว่าจะเป็น MyShop, MyCustomer และ MyRestaurant โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมนำเสนอให้กับนักการตลาด หรือแบรนด์ที่มองหาโซลูชันเฉพาะด้าน
3. New Messaging API เพิ่มประสิทธิภาพ Messaging API เพื่อขยายศักยภาพการพัฒนาโซลูชันบนแชต LINE ให้นักพัฒนาไทย ตัวอย่างเช่น
Audience Created for Step Messages เปิดให้นักพัฒนาไทย สามารถนำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ได้จากการใช้งาน Messaging API มาประยุกต์ใช้กับการส่งข้อความหากลุ่มลูกค้าผ่านฟีเจอร์ Step Messages บน LINE OA ได้
Quote messages ฟังก์ชันใหม่ในการพัฒนาแชตบอต ให้ทั้งผู้ใช้และบอตสามารถส่งข้อความตอบกลับโดยอ้างอิงจากข้อความก่อนหน้าในห้องแชทได้
Rich Menu Link/Unlink Batch อำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาไทย สามารถออกชุดคำสั่งเปลี่ยน Rich Menu แบบ Personalize ใน LINE OA ให้แสดงผลสู่กลุ่มเป้าหมายจำนวนมากขึ้นได้ ด้วยชุดคำสั่งเดียว
อัปเดตฟังก์ชันใหม่ๆ ในการสร้างข้อความรูปแบบ Flex Message เช่น การขยายขนาดของกล่องข้อความให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น นักพัฒนาสามารถเลือกได้ตามต้องการ และความสามารถในการกำหนดขนาดตัวอักษรและไอคอน ให้แสดงผลตามการตั้งค่าในแอป LINE ของผู้ใช้แต่ละคนได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ LINE ยังได้เปิดตัวบริการใหม่อย่าง LON หรือ LINE Official Notification ข้อความแจ้งเตือนผ่านเบอร์โทรศัพท์ให้ผู้ใช้งานด้วยการแสดงผลผ่าน LINE OA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างแบรนด์หรือองค์กร ไปยังลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและมั่นใจด้านความปลอดภัย ด้วยความหลากหลายของรูปแบบข้อความแจ้งเตือนให้นักพัฒนาได้เลือกใช้ โอกาสของนักพัฒนาไทยในการสร้างโซลูชันการแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น พร้อมลดปัญหาข้อความสแปม
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาไทย จากงาน LCT23 เพื่อการต่อยอดสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ให้ตอบโจทย์ในหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอกย้ำถึงจุดมุ่งหมายของ LINE ในการเป็นองค์กรเทคฯ ที่ส่งเสริมความแข็งแกร่งให้เหล่านักพัฒนาไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อน เพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทย ให้เติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์