ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมโครงการจัดทำแผนที่ดินแห่งภูมิภาคเอเชียฯ

ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมโครงการจัดทำแผนที่ดินแห่งภูมิภาคเอเชียฯ

ไทยได้รับเกียรติจาก AFACI เป็นเจ้าภาพประชุมโครงการจัดทำแผนที่ดินแห่งภูมิภาคเอเชียฯ พัฒนาที่ดินจับมือกรมวิชาการเกษตร จัดเต็มเปิดเวทีใหญ่ประชุมพร้อมดูงาน 6-11 ส.ค. 66

กรมพัฒนาที่ดินจับมือกรมวิชาการเกษตร เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการประเมินโครงการจัดทำแผนที่ดินแห่งเอเชียและระบบข้อมูลดินแห่งชาติ หลัง AFACI ให้เกียรติไทยจัดเวทีประชุมทั้งกรุงเทพฯ พร้อมพาดูงาน 2 โครงการสำคัญที่เพชรบุรีและราชบุรี ระหว่าง 7-11 ส.ค. 66 อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินชี้เป็นประโยชน์กับการพัฒนาที่ดินของไทย

นายอาทิตย์ ศุขเกษม รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า โครงการจัดทำแผนที่ดินแห่งภูมิภาคเอเชียและระบบข้อมูลดินแห่งชาติ หรือ Development of the Soil Atlas of Asia and National Soil  Information Systems : SOIL เป็นความร่วมมือทางวิชาการระดับภูมิภาค ที่จะพัฒนาระบบข้อมูลดินเพื่อสนับสนุนการตัดสินในการจัดการดินอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย 14 ประเทศ

ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ราชอาณาจักรภูฏาน ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐคีร์กีซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประทศมองโกเลีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างศักยภาพนักวิชาการ ในเป้าหมาย 4 ประการ คือ หนึ่ง การจัดทำแผนที่ดินระดับประเทศเพื่อเชื่อมต่อเป็นแผนที่ดินของภูมิภาคเอเชีย สอง การจัดทำข้อมูลหน้าตัดดิน และแผนที่สมบัติดินของประเทศ สาม การพัฒนาระบบข้อมูลดินระดับประเทศ และ สี่ การพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้านดินระดับประเทศ ซึ่งการร่วมมือพัฒนาข้อมูลดินในระดับภูมิภาคเอเชียนี้ จะนำไปสู่การประสานเป็นส่วนหนึ่งของระบบฐานข้อมูลดินระดับโลก

อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินโครงการ SOIL อยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือของ Asian Food and Agriculture Cooperation Initiative (AFAC) สาธารณรัฐเกาหลี และสมัชชาความทรัพยากรดินแห่งภูมิภาคเอเชีย (Asian Soil Partnership : ASP) ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบัน AFACI in Rural Development Administration (RDA) สาธารณรัฐเกาหลี และสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก (Global Soil Partnership : GSP)

มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 และจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2566 นี้ ซึ่งในแผนงานดำเนินการได้กำหนดให้มีการประเมินความสำเร็จของผลงานก่อนสิ้นสุดโครงการ ในการนี้ AFACI ได้เสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินความสำเร็จของโครงการฯ

“กรมพัฒนาที่ดิน ในฐานะผู้แทนของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการฯ จึงร่วมกับกรมวิชาการเกษตรในฐานะผู้แทนของประเทศไทย และเป็นหน่วยงานประสานงานหลักในกรอบความร่วมมือ AFACI กำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้น ระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม 2566 วัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินการจัดทำแผนที่ดินและพัฒนาระบบข้อมูลดินแห่งชาติของประเทศสมาชิก และเพื่อประเมินความสำเร็จของโครงการจัดทำแผนที่ดินและระบบข้อมูลดินในภูมิภาคเอเชีย

รวมถึงเพื่อร่วมกันหาแนวทางสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายและยกระดับมาตรฐานระบบข้อมูลดินให้ภูมิภาคเอเชียเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยอย่างยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นักวิชาการจากกรมพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร ผู้แทนจากภาคีเครือข่ายด้านดินของประเทศสมาชิก, AFACI, FAO และ RDA และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานรัฐ และองค์การระหว่างประเทศ รวม 56 คน” อธิบดีกรมพัฒนาดิน กล่าว

รองอธิบดีกรมพัฒนาดิน กล่าวอีกว่า ตลอดการประชุมทั้ง 5 วัน มีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การประชุมเชิงปฏิบัติการประเมินโครงการจัดทำแผนที่ดินแห่งเอเชียและระบบข้อมูลดินแห่งชาติ หรือ Project Evaluation  Workshop on SOIL ในวันที่ 8-9 สิงหาคม ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น กรุงเทพมหานคร และการศึกษาดูงานที่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี และโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดราชบุรี

“สำหรับประโยชน์ที่ได้รับ จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของกรมพัฒนาที่ดิน และประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านทรัพยากรดินของภูมิภาคเอเชีย รวมถึงได้พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระดับภูมิภาคเอเชีย  ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับ รวมถึงเกิดการขับเคลื่อนแผนงาน กิจกรรมของ FAO/GSP/ASP และ CESRA อีกทั้งข้อมูลและองค์ความรู้ที่ได้จากการประชุม สามารถนำมาประกอบการกำหนดแผนปฏิบัติราชการ กิจกรรม และแนวทางการดำเนินงานของกรมพัฒนาที่ดิน ให้สอดคล้องกับความต้องการระดับภูมิภาคและสากล” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวในที่สุด