นอกจากข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวานขึ้นชื่อของไทย ก็ไอศกรีมกะทินี่แหละ ที่หวาน มัน อร่อย โดนใจนักท่องเที่ยวเกือบทุกชาติ

ไอศกรีมบ้านแพ้ว ร้านไอศกรีมเจ้าดังที่ตลาดนัดจตุจักร รีวิวแน่น ลูกค้าตอบรับดี ยอดขายทะลุวันละ 3 พันถ้วย เปิดร้านสร้างความอร่อยมายาวนานตั้งแต่ปี 2008 นับรวมตอนนี้กว่า 10 ปี โดย คุณภคมน วรกฤตเวคิน หรือ คุณแมคกี้ อายุ 34 ปี

จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ มาจากการที่คุณแมคกี้อยากหางานเสริมทำช่วงเสาร์–อาทิตย์ สมัยเรียนปริญญาโท คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ถามว่า ทำไมถึงเป็นไอศกรีมกะทิ คุณแมคกี้ บอกว่า แถวบ้านมีร้านไอศกรีมกะทิใส่ถ้วย ใส่ขนมปังขายที่เราเห็นกันทั่วไป คุณพ่อของเธอชอบซื้อมะพร้าวเผามาทานอยู่แล้ว จึงลองซื้อไอศกรีมกะทิมาทานคู่กับมะพร้าวเผา สองอย่างนี้เป็นอะไรที่ลงตัว เป็นแพ็กเกจจิ้งที่น่าสนใจ

จึงรับไอศกรีมกะทิโฮมเมดจากร้านแถวบ้าน เปิดร้านขายที่ตลาดนัดจตุจักร ขายวันแรกผลตอบรับยังไม่ดี

“แมคใช้วิธีให้เพื่อนเป็นหน้าม้ามาซื้อไอศกรีมที่ร้าน วิธีการนี้ดีมาก ได้รับผลตอบรับทันตาเห็น คนเริ่มสนใจเดินเข้ามาซื้อมากขึ้น เลยปรับร้านให้เป็นรูปเป็นร่าง ทำโมเดล วอล์กอัพตั้งโชว์หน้าร้าน ทำป้ายร้านขึ้นมาใหม่”

ขายได้ 6-7 เดือน ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา คุณแมค เปลี่ยนมาผลิตไอศกรีมเอง เพราะไอศกรีมที่รับมาขายเป็นโฮมเมดขนาดเล็ก กำลังการผลิตไม่สามารถรองรับกับยอดขายของทางร้านได้

“แมคเปลี่ยนมาผลิตไอศกรีมเอง โดยที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อน เริ่มศึกษาใหม่หมดทุกอย่าง หาสูตรเองจากอินเตอร์เน็ต ลองทำ สังเกตรสชาติ รับฟังคำติชมจากลูกค้า ปรับมาเรื่อยๆ จนได้รสชาติลงตัว ปัจจุบันมี 4 รสชาติ กะทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ ชาไทย ทุเรียน ซึ่งมีขายตลอดปี”

นอกจากตัวไอศกรีมแล้ว ยังมีท็อปปิ้งให้เลือกอีกหลายอย่าง ทั้ง ถั่วลิสง ฟักทองเชื่อม ถั่วเขียว ลูกชิด มะพร้าว ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโพด ถั่วแดง

ใช้ข้าวเหนียวมูน 3 สี สีขาวจากธรรมชาติ สีเขียวจากใบเตย สีฟ้าจากดอกอัญชัน ในอนาคตมีเพิ่มรสชาติและท็อปปิ้งให้มากขึ้นแน่นอน คุณแมค ว่าอย่างนั้น

จบเรื่องไอศกรีมไปแล้ว ถามต่อถึงมะพร้าว ซึ่งเป็นตัวแพ็กเกจจิ้งที่เป็นจุดเด่นและจุดขายของร้าน คุณแมค เสาะหามะพร้าวจากหลายที่ ผลสุดท้ายลงตัวที่มะพร้าวจากบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพราะเนื้อหอมหวานแตกต่างจากที่อื่น คัดแล้วว่าคุณภาพดีที่สุด

โดยก่อนนำมาใส่ไอศกรีม ต้องปอกเปลือกออกให้เกลี้ยง ทำกันสดๆ ใหม่ๆ ให้ลูกค้าเห็นหน้าร้านทุกวัน เมื่อก่อนจะใช้วิธีเผา แต่ปัจจุบันปรับมาเป็นการต้มแทน เพราะการต้มสะอาดกว่า

ราคาขาย ลูกค้าสามารถซื้อได้ อยู่ที่ 60 บาทต่อถ้วย สามารถเลือกท็อปปิ้งได้ 2 อย่าง (เลือกท็อปปิ้งเพิ่ม 5 บาท) ได้น้ำมะพร้าวฟรี 1 แก้ว หรืออยากกินแบบเป็นขวด ราคา 20 บาท และกินแบบจุใจเป็นลูก พร้อมเนื้อมะพร้าว ลูกละ 60 บาท

ราคาออกงานอีเว้นต์ หรืองานจัดเลี้ยง ไอศกรีมจะอยู่ที่ถ้วยละ 30 บาท ราคาส่ง รสกะทิ กก.ละ 100 บาท รสชาไทย/ มะม่วง กก.ละ 150 บาท และรสทุเรียน กก.ละ 250 บาท

ยอดขายต่อเดือน เฉพาะที่จตุจักรมากถึงหลักล้านต่อเดือน ขายได้วันละ 3 พันถ้วย นอกจากนี้ยังมีรายได้ส่วนที่เป็นซัพพลายเออร์ส่งให้ร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ทั่วประเทศ มากถึงหลักแสนบาท

ถามถึงเรื่องแฟรนไชส์ คุณแมค บอกว่า คำว่า แฟรนไชส์ รูปแบบธุรกิจ คุณภาพสินค้าควรจะเป็นอะไรที่เหมือนกันซึ่งในแต่ละพื้นที่ตัวมะพร้าวที่เป็นวัตถุดิบหลัก แน่นอนว่าไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

“พื้นที่ที่ลูกค้าอยู่อาจไม่มีมะพร้าวเหมือนกับทางร้าน หากลูกค้าอยากขายต้องสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ แล้วรับไอศกรีมจากเราไป”

เปิดมาแล้ว 10 ปี แน่นอนต้องมีคู่แข่งทางธุรกิจ คุณแมคสร้างจุดแข็งให้ตัวเองสู้กับคู่แข่ง ด้วยการผลิตไอศกรีมเอง มีรสชาติของตัวเอง ร้านอื่นอาจจะไปรับไอศกรีมจากที่อื่นมา เวลาทานเข้าไปจะรู้ได้เลยว่ารสชาติไอศกรีมแตกต่างกัน

ท้ายนี้ ให้คุณแมคแนะนำเคล็ดลับความสำเร็จ

“เราดูแลเรื่องความสะอาดและคุณภาพ อย่างไอศกรีมกะทิสดต้องมีความสดจริงๆ ส่วนเรื่องมะพร้าวต้องไม่ใช้มะพร้าวเก่าเก็บ ต้องทำสดใหม่ทุกวัน”

ร้านไอศกรีมบ้านแพ้ว ตั้งอยู่ที่ ตลาดนัดจตุจักร มี 4 สาขา โทรศัพท์ 095-956-5556