จากยอดขาย 15 แก้ว สู่ COFFEELISM ยอดขายปังๆ 3 ล้านต่อเดือน 

จากยอดขาย 15 แก้ว สู่ COFFEELISM ร้านกาแฟไทยโดนใจชาวออฟฟิศ ยอดขายปังๆ 3 ล้านต่อเดือน 

หากพูดถึง ร้านกาแฟขวัญใจชาวออฟฟิศ แล้วล่ะก็ คงจะมีชื่อ COFFEELISM ติดโพลมาด้วยอย่างแน่นอน โดย คุณทราย-กันตพัฒน์ ทับทิมธงไชย นักธุรกิจสาวมั่น เจ้าของร้านกาแฟ COFFEELISM ที่หนุ่มสาวชาวออฟฟิศ รู้จักกันดี เล่าว่า COFFEELISM เริ่มต้นจากความชื่นชอบส่วนตัวที่ชอบทานกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ และฝันอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง

พอสบโอกาสออกจากงานประจำและเริ่มวางแผนใช้ชีวิตครอบครัว จึงได้เซ้งร้านกาแฟเล็กๆ มาเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ แต่การที่ไม่มีความรู้ด้านกาแฟอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้การลงทุนครั้งนั้นไม่สำเร็จ ต่อมาจึงได้เริ่มศึกษาเรียนรู้เรื่องธุรกิจกาแฟอย่างจริงจัง โดยเริ่มเรียนหลักสูตร Q Arabica Grader และได้ผ่านการรับรองจาก Coffee Quality Institute (CQI) จากประเทศอเมริกา ในปี 2017

ต่อมาคุณทรายมีโอกาสเดินทางไปทำงานร่วมกับเกษตรกรบนภาคเหนือของประเทศไทย จึงได้ทราบปัญหาหลายอย่างที่เกษตรกรเจอ เช่น การกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ส่งผลกับรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรเป็นอย่างมาก รวมถึงการขาดความรู้ที่ถูกต้องในการแปรรูป ทั้งที่แหล่งกาแฟของไทยบนภาคเหนือ สามารถที่จะทำผลผลิตที่มีคุณภาพได้มากกว่าที่เป็นอยู่

คุณทราย-กันตพัฒน์ ทับทิมธงไชย เจ้าของร้านกาแฟ COFFEELISM

“ถึงเราจะสามารถพัฒนาผลผลิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นได้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้คุณภาพชีวิตของคนบนดอยสูงดีขึ้นได้ ถ้าไม่สามารถขายผลผลิตที่มีคุณภาพได้ในราคาที่ควรเป็น ทรายเลยเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์กาแฟที่ชื่อ COFFEELISM ขึ้นมา เพื่อการส่งต่อกาแฟไทยที่ดี สะอาด ถึงมือผู้บริโภคโดยการรับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกร ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางภายใต้แนวคิด คุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คืออยากให้คนได้กินกาแฟไทยที่ดี สะอาด และเกษตรกรต้นทางก็ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย” คุณทราย ว่าอย่างนั้น

COFFEELISM ร้านแรกเกิดขึ้นที่หมู่บ้านอารียา ถนนลาดปลาเค้า เกษตร-นวมินทร์ โดยการปรับปรุงร้านกาแฟแรกที่เซ้งต่อมาจากเจ้าของเดิม แต่ยอดขายไม่ได้ดีเท่าที่ควร จึงเริ่มหาทำเลเพิ่ม โดยตั้งกลุ่มลูกค้าเป็น คนทำงานออฟฟิศ ที่ใช้ชีวิตในเมือง และเสพกาแฟเป็นพลังงานในชีวิตประจำวัน จึงเลือกทำเลย่านธุรกิจ และมีออฟฟิศเป็นจำนวนมากในย่านสาทร อยู่ที่สาทร ซอย 8 เป็นร้านลักษณะ Stand ขนาดเล็ก มีพื้นที่ 6 ตร.ม. และสายอาชีพเดิมที่ทำงาน

“ในช่วงเดือนแรกที่เปิดร้าน เรามียอดขายแค่วันละ 15 แก้ว ในเดือนต่อๆ มา หลังจากพวกอินฟลูเอนเซอร์มาชิมกาแฟที่ร้านแล้วถ่ายรูปลงโซเชียล ยอดขายเราก็เพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือนเป็น 150 แก้ว 300 แก้ว 500 แก้ว และมียอดขายสูงสุดถึง 1,400 แก้วใน 1 วัน” คุณทราย กล่าว

ด้านการออกแบบ คุณทรายดีไซน์ร้านออกมาให้แตกต่างจากร้านทั่วไปในบริเวณนั้น และสร้างเอกลักษณ์ของร้านออกมาให้โดดเด่น ในสไตล์มินิมอล คือความเรียบง่าย แต่ใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง ตั้งแต่บริเวณนอกร้าน ต้องสามารถมีที่ให้ลูกค้าถ่ายรูปได้ และฟังก์ชันภายในร้านที่เหมาะกับการทำงานในรูปแบบ Speed Bar เพื่อให้สอดคล้อง กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเวลาที่รวดเร็วในการซื้อเครื่องดื่มหลังทานข้าวเที่ยง หรือช่วงเช้าที่รีบเข้าออฟฟิศเพื่อทำงาน

“จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีในร้าน คือ COFFEELISM เราใช้กาแฟไทยที่สะอาดผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี และวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เช่น ชาไทย Blackcocoa ชาเขียวมัตฉะ 100% COFFEELISM มีทีมงาน R&D ที่มีคุณภาพพร้อมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพราะสำหรับธุรกิจกาแฟในปัจจุบัน บางครั้งถูกมองว่ามีการแข่งขันที่สูง และมีคู่แข่งจำนวนมาก แต่สิ่งที่ธุรกิจจะอยู่รอดได้คือ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและต่อตัวเอง”

“เราเชื่อว่า ลูกค้า คือคนที่จะชี้วัดว่าเราจะอยู่รอดหรือไม่ ถ้าเราทำของดี เขาไว้ใจที่จะกินของของเรา พนักงานบริการดี แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้ ธุรกิจก็จะอยู่รอด โดยมีลูกค้าช่วยดูแล ตอนนี้ ร้านกาแฟเกิดขึ้นเยอะมาก แต่บางครั้งก็อยากทำเพราะกระแส แต่ไม่ได้ทำเพราะความเข้าใจ พอถึงวันหนึ่งตัวจริงเท่านั้นที่จะอยู่ในธุรกิจได้ เพราะเขาเข้าใจและพัฒนาไปข้างหน้าด้วยความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง” คุณทราย ว่าอย่างนั้น

จากร้านที่โดดเด่น และคุณภาพของกาแฟที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี จึงทำให้สาขาสาทร มีกลุ่มลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรที่แวะเวียนมาซื้อเครื่องดื่มและถ่ายรูปคู่กับร้าน นำไปลงในสื่อ Online ต่างๆ ทั้งส่วนตัว และเพจสาธารณะ เป็นที่รู้จักในวงกว้างโดยใช้เวลาไม่นาน ในเวลาต่อมาจึงขยายสาขาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยเริ่มอยู่บนห้างสรรพสินค้า และทำเลต่างๆ ในกรุงเทพฯ

ในช่วงวิกฤตโควิด ที่ผ่านมา ร้าน COFFEELISM ต้องปิดตัวลงถึง 4 สาขาจากการปิดห้างสรรพสินค้า และพื้นที่หลายจุด ไม่สามารถเปิดขายหน้าร้านได้ สิ่งที่คุณทรายทำได้ คือการรักษาพนักงานทั้งหมดไว้ เพื่อให้อยู่รอดไปพร้อมกัน

“เราสามารถผ่านวิกฤตนั้นมาได้เพราะลูกค้า ซึ่งแม้หน้าร้านบางสาขาจะเปิดบริการไม่ได้แต่ลูกค้ายังสนับสนุนเราด้วยการสั่งดีลิเวอรี โดยเราใช้พนักงานบางสาขาที่ปิด มาส่งดีลิเวอรี เพื่อลดต้นทุนค่าส่วนแบ่งการขายให้แพลตฟอร์มดีลิเวอรีต่างๆ และนำเงินส่วนต่างนั้นไปช่วยเรื่องเงินเดือนพนักงาน จนในวันนี้ ร้าน COFFEELISM ทั้ง 8 สาขา สร้างรายได้ได้เดือนละ 3 ล้านบาท” คุณทราย เล่า

สำหรับ ร้าน COFFEELISM ปัจจุบันมี 8 สาขา คือ

  1. หมู่บ้านอารียา ลาดปลาเค้า
  2. สาทร ซอย 8
  3. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4
  4. รัชดาภิเษก ซอย 20
  5. ตลาดรวมทรัพย์ อโศก
  6. ธนาคารแห่งประเทศไทย
  7. ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคาร B
  8. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต (บางใหญ่) และมีบริการออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ

ปัจจุบัน ร้าน COFFEELISM เปิดบริการมาแล้วขึ้นปีที่ 7 และมีแผนขยายสาขาในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และที่สำคัญ เพื่อเพิ่มการส่งต่อกาแฟไทยที่ดีและสะอาดจากเกษตรกรบนดอย ถึงมือผู้บริโภคให้มากขึ้น ตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์

เฟซบุ๊ก : COFFEELISM หรือ โทร. (084) 664-5564