ลูกชาวนาเข้าเมืองมาใช้แรงงาน พลิกชีวิตสู่เถ้าแก่ร้านขายส่งผลไม้นอก รายรับพุ่งหลักแสนทุกวัน

ลูกชาวนาเข้าเมืองมาใช้แรงงาน พลิกชีวิตสู่เถ้าแก่ร้านขายส่งผลไม้นอก รายรับพุ่งหลักแสนทุกวัน
ลูกชาวนาเข้าเมืองมาใช้แรงงาน พลิกชีวิตสู่เถ้าแก่ร้านขายส่งผลไม้นอก รายรับพุ่งหลักแสนทุกวัน

ลูกชาวนาเข้าเมืองมาใช้แรงงาน พลิกชีวิตสู่เถ้าแก่ร้านขายส่งผลไม้นอก รายรับพุ่งหลักแสนทุกวัน

จังหวะชีวิตมีอยู่จริง ทุกวันของทุกคนสามารถเปลี่ยนไปได้เสมอ เช่นเรื่องราวของ เฮียปาย หรือ คุณเอกรินทร์ เตชะวดี จากลูกชาวนา เป็นแรงงานส่งของรายได้ 250 บาทต่อวัน พลิกชีวิตสู่เถ้าแก่ร้านขายส่งผลไม้นอก ร้านพรประสิทธิ์ (ปาย)

“เงิน 5,000 บาทในวันนั้น อาจจะเป็นเพียงครั้งเดียว โอกาสเดียวที่เราจะได้รับมัน ครั้งแรกที่ตัดสินใจลองซื้อผลไม้นอกมาขาย ก็สามารถพลิกชีวิตให้มีวันนี้ได้” นี่คือคำบอกเล่าของเจ้าของร้านผลไม้ ร้านเล็กๆ เพียง 1 คูหาที่ไม่เน้นทำกำไรหนัก แต่ใช้กลยุทธ์น้ำซึมบ่อทราย ขอกำไรน้อยๆ แต่ซื้อนานๆ รักษาฐานลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ

เฮียปาย หรือ คุณเอกรินทร์ เตชะวดี
เฮียปาย หรือ คุณเอกรินทร์ เตชะวดี

ลูกชาวนาหนีความจน เข้าเมืองกรุง มาใช้แรงงาน

วัยเด็กของเฮียปาย เติบโตมากับท้องไร่ท้องนา ก่อนตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาหางานทำ โดยมุ่งหน้าไปที่ตลาดสี่มุมเมือง จนได้ทำงานเป็นลูกจ้างแผงค้าขายผลไม้ฤดูกาล ได้รับค่าแรง 250 บาทต่อวัน เงินจำนวนนี้ไม่มากมาย แต่เมื่อเก็บหอมรอบริบก็ทำให้มีจำนวนมากพอในการตั้งตัว

“พออายุ 20 กว่าๆ พ่อกับแม่ก็บอกว่า ถ้ายังอยู่แบบนี้อนาคตก็เป็นได้แค่ชาวนาที่พอทำนาได้ผลผลิตปีชนปี เพราะเราไม่ได้มีความรู้ไปทำอาชีพอื่น ถ้าอยากเติบโตก็ต้องออกไปดูโลกภายนอก ตอนนั้นเลยตัดสินใจว่าต้องออกไปตายเอาดาบหน้า ผมพุ่งเป้ามาที่ตลาดสี่มุมเมือง เพราะได้ยินว่าเป็นตลาดใหญ่น่าจะหางานทำไม่ยาก พอมาแล้วก็ได้งานจริงๆ

งานแรกเป็นแรงงานเสื้อม่วงลูกจ้างแผงค้าขายผลไม้ฤดูกาล ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ทำมา 2 ปี จนพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง ก็เอามาลงทุนเปิดแผงขายมะม่วงและน้อยหน่า ตอนนั้นขายดีมากๆ ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วอีกขั้น สำหรับตัวเองที่เป็นลูกชาวนา ไม่มีต้นทุนอะไรนอกจากแรงกายและเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ แต่ในใจก็ยังรู้สึกว่ามันต้องไปได้อีก”

เฮียปายขายมะม่วงกับน้อยหน่าอยู่ประมาณ 2-3 ปี แต่ด้วยทั้ง 2 อย่างเป็นผลไม้ที่ขายค่อนข้างมีระยะเวลาจำกัด ขายได้แค่ช่วงฤดูกาล พอหมดฤดูแผงก็ว่างไม่มีของขาย ทำให้เฮียปายต้องเริ่มศึกษาผลไม้นอก โดยอาศัยประสบการณ์จากการเป็นลูกจ้างแผงผลไม้ สรรหาผลไม้นอกมาขายสลับชนิดกันไป ทำให้ไม่ต้องปล่อยแผงว่าง

“ผมลองลงทุนเงินก้อนแรก 5,000 บาท ซื้อแค่แอปเปิ้ล 10 กล่อง และส้มนอก 5 ตะกร้า แค่นี้เองครับเปลี่ยนชีวิตผมเลย พอเอามาลงขายใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีของหมดเกลี้ยง นี่เลยเป็นการจุดประกายความคิดขายผลไม้นอกของผม” เจ้าของร้านผลไม้นอก เล่าให้ฟัง

ร้านพรประสิทธิ์ (ปาย)
ร้านพรประสิทธิ์ (ปาย)

ก่อนเล่าต่อว่า ลูกค้ามีตัวเลือกมากมายจากร้านผลไม้แผงต่างๆ แต่ทำไมร้านผลไม้นอกพรประสิทธิ์ ถึงเป็นร้านที่ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับแรกๆ

“ที่ร้านขายดีมันมีหลายปัจจัย ปัจจัยแรกและคิดว่าสำคัญที่สุด คือราคาสินค้าไม่แพง บวกกำไรแค่หลักสิบต่อกล่องพอ เน้นระบายของไว เพราะผลไม้เป็นของสด ยิ่งค้างสต๊อกนานราคาก็จะตก สอง คือการเลือกสินค้ามาขาย จะไม่เลือกแบรนด์ดัง เพราะคำว่าแบรนด์ราคาก็จะสูง แต่ทางร้านจะสรรหาสินค้าเกรดคุณภาพ ไซซ์ เเละความพรีเมียมเทียบเท่าผลไม้แบรนด์มาขาย เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าในราคาไม่แพง ยังอร่อย สวย และดูพรีเมียมไปขายต่อได้ เลยทำให้เรามีลูกค้าประจำเหนียวแน่น

ปัจจุบันผลไม้ที่ขายดีจะเป็นผลไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน เพราะราคาไม่สูงมาก แพ็กเกจ คุณภาพ และรสชาติยังเทียบแบรนด์พรีเมียมได้สบาย นอกจากนี้ ก็มีผลไม้นำเข้าจากออสเตรเลีย นิวซีเเลนด์ และเกาหลี บ้างเป็นบางช่วง”

ร้านพรประสิทธิ์ (ปาย)
ร้านพรประสิทธิ์ (ปาย)

โดยลูกค้าที่มาซื้อ ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยรับไปขายต่อตามตลาดนัด ตลาดสด รถเร่ รถเข็นผลไม้ กำลังซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทต่อคน โรงเรียนและโรงเเรมซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท ส่วนพ่อค้าแม่ค้ารายใหญ่ที่ซื้อไปขายส่งต่อตามตลาดต่างจังหวัด เช่น ตลาดชลบุรี-ระยอง จะเข้ามาซื้อทุก 2-3 วัน เฉลี่ยต่อรอบการซื้ออยู่ที่ 20,000-30,000 บาท

ส่วนสินค้าขายดีสุดของร้าน และแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ซื้อไปขายต่อคือ แอปเปิ้ล (ฟูจิ), สาลี่ (น้ำผึ้ง, ทองญี่ปุ่น, หิมะเกาหลี), องุ่น (ไซมัสคัต, คิมสัน), แตงทิเบต (ฮามิกัว, ปาลิ่ว), ทับทิมตูนีเซีย, ทับทิมมรกตและทับทิมน้ำผึ้ง ทั้งหมดเป็นผลไม้ที่ซื้อง่ายขายคล่อง เป็นที่ต้องการของตลาด

“ถ้าเป็นช่วงปกติเฉลี่ยรายรับจะอยู่ที่วันละประมาณ 100,000 บาท หรือต่อเดือนประมาณ 3,000,000 บาท รายรับนี้ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายและต้นทุน ถ้านับเป็นจำนวนจะขายได้ประมาณ 400-500 กล่อง แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลยอดขายจะเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว และรายรับจะอยู่ที่ 200,000-300,000 บาทต่อวัน ส่วนจำนวนจะทะลุไปถึง 1,500-1,800 กล่องต่อวัน”

เฮียปาย-หรือคุณเอกรินทร์ เตชะวดี
เฮียปาย-หรือคุณเอกรินทร์ เตชะวดี

และสำหรับลูกค้าคนไหนซื้อไปแล้วเจอของไม่ดี ทางร้านยินดีเคลมให้ เรียกว่าเป็นเคล็ดลับมัดใจลูกค้าที่เฮียปายใช้มาตั้งแต่เปิดร้าน

“โดยปกติ ก่อนที่ลูกค้าจะรับสินค้าไป ทางร้านจะตรวจเช็กเบื้องต้นให้ทุกกล่องทุกตะกร้า แต่ถ้ามีผลไม้ไม่ได้ตามมาตรฐานปะปนไป ร้านเรารับประกันสินค้าให้ คือถ้ามีผลไม้เน่าเสีย เคลมได้หมด ไม่ว่าจะเปลี่ยนสินค้า หรือคืนเงิน ร้านเรายินดีรับผิดชอบ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกค้าต้องเสียความรู้สึกเสียเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดขึ้นทางร้านก็ยินดีที่รับผิดชอบ เพื่อความสบายใจของผู้ซื้อ” เฮียปาย บอกอย่างจริงจัง

สำหรับใครที่สนใจสั่งสินค้า แวะไปได้ที่ร้านพรประสิทธิ์ (ปาย) พิกัด ตลาดสี่มุมเมือง โซนตลาดผลไม้ต่างประเทศ เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง โทร. 084-604-9529

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566