“ตู้ยาเพื่อชุมชน” สำรองยามฉุกเฉิน สร้างจิตแบ่งปัน ลดช่องว่างฐานะ

โครงการ “ตู้ยาไบโอฟาร์มเพื่อชุมชนปีที่ 3” ของบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ยังคงเดินหน้าเติมยาให้กับชุมชนต่างๆ ของโครงการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ไปทำกิจกรรมกับชาวชุมชนสมุทรสาคร  ซึ่ง เภสัชกรบุญสม เกษจันทร์ทิวา ผู้จัดการฝ่ายประสานงานองค์กร เป็นตัวแทนบริษัท ไปให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งมอบยาและเวชภัณฑ์เบื้องต้นให้กับเทศบาลนครสมุทรสาคร เพื่อส่งต่อยาคุณภาพไปยัง 32 ชุมชน โดยบางชุมชน อาทิ ชุมชนท้ายตลาด ทางไบโอฟาร์ม มีโอกาสไปเติมยายังจุดติดตั้งตู้ยาด้วยตัวเองและได้พูดคุยเกี่ยวกับความจำเป็นในการใช้ยาของชาวชุมชนด้วย

เภสัชกรบุญสม กล่าวว่า เป้าหมายของบริษัท คือ อยากให้ชุมชนมีโอกาสเข้าถึงยาคุณภาพมากยิ่งขึ้น มียาใช้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งยาที่นำไปมอบก็เป็นยาพื้นฐานเบื้องต้น เช่น ยาแก้ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ แต่หากชุมชนใดอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ เช่น ใกล้นิคมอุตสาหกรรมหนัก ก็อาจต้องการพวกยาแก้แพ้เพิ่มเติม

สำหรับภาพรวมสุขภาพของคนไทยนั้น เภสัชกรบุญสม สรุปให้ฟังว่า ภาพรวมคนไทยมีอายุยืนขึ้น เพราะวิวัฒนาการทางแพทย์พัฒนาขึ้น ทำให้รู้ตัวเร็วว่าป่วยเป็นโรคอะไร รวมถึงยามีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเองสามารถผลิตยาบางชนิดที่มีคุณภาพทัดเทียมต่างประเทศได้แล้ว อีกทั้งคนไทยยังหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น  ออกกำลังกายมากขึ้น เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น

แต่สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ให้ระวังเรื่องการขาดสารอาหาร เพราะจำกัดในการบริโภค อาจต้องทานอาหารเสริมชดเชยสารอาหารที่ขาดหายไป ส่วนผู้สูงอายุ แนะนำให้ทานกล้วยน้ำว้าสุกก่อนนอน ก็จะช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงออกกำลังกายประเภทโยคะหรือยืดเส้น ก็จะดีสำหรับผู้สูงอายุ

 

คุณพรวดี  ศรีจันทรา กรรมการกองทุนหมู่บ้าน ชุมชนท้ายตลาด 1 ใน 32 ชุมชนของเทศบาลนครสมุทรสาคร ที่ได้รับมอบตู้ยาจากโครงการ “ตู้ยาไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน” กล่าวว่า นี่คือตู้ยาตู้แรกของชุมชนท้ายตลาด ที่นี่มีกันอยู่ประมาณ 700 ครัวเรือน ส่วนใหญ่จะเข้ามาขอยาบรรเทาเบื้องต้น พวกยาแก้ปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้องหรือไม่ดึกๆ ก็เคยมีมาเคาะประตูขอยาลดไข้สำหรับเด็ก เพราะดึกแล้วคลินิกก็ปิด จะไปโรงพยาบาล อาการก็ยังไม่มาก ถ้าได้กินยาก็น่าจะช่วยได้ ถือว่าได้ช่วยเหลือคนที่ขาดแคลน ช่วยลดค่าใช้จ่ายของชาวชุมชนได้บ้าง

ส่วนชุมชนอื่นๆ ของเทศบาลนครสมุทรสาคร อาทิ นรราชอุทิศ ท่าปรง นรสิงห์ วัดแหลมสุวรรณาราม คลองกระโจน ฯลฯ ต่างก็ให้ความคิดเห็นเช่นเดียวกับตัวแทนชุมชนท้ายตลาดว่า นอกจากยาพื้นฐานที่ได้รับ สามารถช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยที่ขาดแคลนในชุมชนได้แล้ว การที่ไบโอฟาร์มนำตู้ยามาติดตั้งที่ชุมชน ยังทำให้คนในชุมชนเกิดความรู้สึกอยากแบ่งปันและช่วยกันนำยามาเติมไม่ให้ตู้ยาว่างอีกด้วย อย่าง บางคนที่พอมีฐานะเมื่อไม่สบายไปหมอ หลังจากหายป่วย พวกยาลดไข้ทานไม่หมด ก็นำมาเติมในตู้ยา หรือบางครั้งได้รับยาทาแก้ปวดเมื่อยมาจากโรงพยาบาล ก็เอามาแบ่งปันไว้ในตู้ยาของชุมชนที่ทางบริษัทไบโอฟาร์มได้นำมาติดตั้งไว้ให้ ถือว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการนี้อย่างแท้จริง