ใช้เงินก้อนสุดท้ายตอนออกจากงาน ลุยธุรกิจฟู้ดทรัก 3 ปี สร้างรายได้หลักแสน/เดือน

เรื่องราวของเปิ้ล หรือ นวลปรางค์ คำชื่นวงศ์ วัย 33 ปี ที่ลาออกจากงานเมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมา ใช้เงินก้อนสุดท้ายที่ได้จากการออกจากงาน (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ราว 200,000 บาท บวกกับเงินของสามี ไปลุยธุรกิจฟู้ดทรัก ล้มลุกคลุกคลาน แต่สู้ไม่ถอย ถอยไม่ได้ เพราะยึดเป็นอาชีพสุดท้าย อีกทั้งมีลูกน้อยที่ต้องดูแล กระทั่งปัจจุบันสามารถโลดแล่นอยู่ในวงการ ฟู้ดทรัก อย่างมีความสุข มีงาน มีเงิน เข้าตลอด หลักแสนบาทต่อเดือน หักโน่นนี่ รายจ่ายต่างๆ เหลือเก็บอีกวันละ 2,000 บาท สบายๆ ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาปั้นอยู่กับมัน 3 ปีเต็ม

คำถามแรกคือ ทำไมต้องเป็นฟู้ดทรัก
“3 ปีก่อน กระแสฟู้ดทรัก กำลังมา ก็ปรึกษากับสามีเอาเงินที่มีอยู่มาลงทุนดีมั้ย ก็สรุปว่าไปดาวน์รถมือสองมา 130,000 บาท ตกแต่ง ซื้ออุปกรณ์เข้ารถ รวมๆ แล้ว 200,000 บาท จากนั้นก็เลือกว่าจะขายอะไร เอาเป็นว่าเราเลือกขายอะไรที่เราชอบกินก่อน มีอยู่ช่วงหนึ่งชอบกินข้าวแกงกะหรี่มาก ก็เลยคิดว่าขายอันนี้ดีกว่า”

ทำอาหารญี่ปุ่นเป็นมาก่อนเหรอคะ หรือเริ่มต้นยังไง
“ไม่เป็นเลย พอคิดจะทำ ก็คิดว่าจะทำยังไงให้มันอร่อยเหมือนที่ร้าน เริ่มต้นจากเปิดเว็บดูการทำอาหารญี่ปุ่นแกงกะหรี่ แล้วศึกษาข้อมูล ว่าต้องทำยังไง รสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ เป็นไง คนไทยชอบกินแบบไหน ศึกษาลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน ซื้อรถมาจอดทิ้งอยู่ 3 เดือน”

“สนามแรก ที่เดอะวอลค์ เกษตร-นวมินทร์ ทำเป็นแล้ว มันตื่นเต้น ต้องมาคิดว่าทำไงให้รสชาติมันสม่ำเสมอ แกงกะหรี่เรา ขายๆ ไป ข้นเหมือนไส้ขนมเลยแฮะ ต่อมา ถึงได้รู้ว่า เราต้องเติมน้ำสต๊อก ต้องเลี้ยงรสชาติให้คงที่ ส่วนข้าวญี่ปุ่นซื้อมาหุงครั้งแรก ดูตามข้างซอง ทีนี้มันแฉะเป็นข้าวต้มกุ๊ยเลย ใช้เวลาอยู่ 3 เดือนกว่าจะปรับรสชาติ และมาลองสนามจริงอีก 3 เดือน หลังจากนั้นเราไปได้ก็ได้แล้ว”

“ต่อจากข้าวแกงกะหรี่ มันก็ต้องมีท็อปปิ้งใช่มั้ยคะ มีหมูทอด ไก่ทอด กุ้งชุบแป้งทอด ผักชุบแป้งทอดอะไรแบบนี้ ก็หัดทำท็อปปิ้งไป ทีนี้มีลูกค้าเข้ามากิน 3 คนไม่ใช่ว่า ทั้ง 3 คนกินข้าวแกงกะหรี่ แต่ เราคิดว่าทำยังไง ให้เราได้เงินจากลูกค้าทั้ง 3 คน ก็เพิ่มเมนู ทีนี้เคยเรียนกับศูนย์อบรมอาชีพหรือมติชน อคาเดมี เค้าเปิดสอน อาหารญี่ปุ่น ข้าวหน้าต่างๆ เราก็เลือกเมนูที่คิดว่า ทำจากบ้านได้ ไปหน้างาน อุ่นร้อน พร้อมเสิร์ฟ ไม่เกิน 2 นาที ก็เป็นข้าวหน้าหมู กับข้าวหน้าเนื้อ จริงๆ อาหารญี่ปุ่นมันมีส่วนผสมหลักๆ 3 อย่างคือ มิริน โชยุ และสาเก ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหน ก็มีอยู่แค่นี้ ที่เหลือก็ทำให้รสชาติกลมกล่อม ก่อนเราออกขาย เราก็ทำให้ญาติชิมก่อน พอโอเค ก็เริ่มทำขาย พอลูกค้าเก่าๆ โอเค ทีนี้ก็ไปโลด ส่วนอาหารว่างก็มีเกี๊ยวซ่า ไส้กรอก ประมาณนี้ค่ะ”

เริ่มหางานยังไง ที่เราจะไปออกร้านในตลาดนัด หรืออีเว้นต์ต่างๆ
“อันดับแรก ที่เราได้งานคือ รถของเราเป็นรถโฟล์ค เป็นรถเก่าคลาสสิค ออร์แกไนซ์ก็ชอบ คือรถเรามักจะถูกเลือกเสมอ เราไม่มีที่ประจำค่ะ ส่วนใหญ่ไปออกงานกับอีเว้นต์ เช่น เฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แล้วเลิกเลย หรือ ทุกศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์ เป็นเวลา 4 เดือนอะไรอย่างนี้ หรือไปออกงานเหมา เช่นเหมามา 100 จาน เราก็คิดตามราคา เช่น เราขายจานละ 80 บาท ก็ 8,000 บาท คือเราไม่โกงเค้า เหมามา 100 จาน เราก็ทำไป 100 จาน ไม่หมกเม็ด ให้เยอะ ให้เค้ากินอิ่ม คือไม่ให้เค้ามานินทาเราทีหลังได้ ชื่อเราคือ อิ่มหมีฟู้ดทรัก เราต้องการให้เค้าอิ่มจริง”

หลายคนถาม ไม่มีตลาดประจำ แล้วจะอยู่ได้เหรอ
“อยู่ได้ค่ะ เพราะมีที่ลงทุกวัน มีคอนเน็กชั่นกับออร์แกไนซ์ มีไลน์กลุ่มกัน อย่างที่ไหน ค่าที่แพงมาก ก็ลองไป ไปเพื่อให้ได้รู้ แต่บอกตัวเลขไว้เลยค่ะ ถ้าค่าที่วันละ 800 บาทนี่จะอยู่ได้สบายๆ เราอาจจะได้ค่าที่ถูกกว่านี้แต่คนน้อย เพราะเค้าก็ไม่ได้การันตียอดขายให้เรา อาจจะต้องการให้เราไปเป็นสีสันอะไรอย่างนี้”

ย้อนกลับไปถาม ทำไมถึงลาออกจากงาน
“คืองานเดิมที่ทำอยู่ ค่อนข้างหนัก ทีนี้เราท้อง สามีบอก งั้นก็ลาออกเถอะ ไปอยู่บ้าน รอคลอด จากนั้น ค่อยว่ากัน ช่วงระหว่างทิ้ง ก็เคยขายข้าวขาหมู ขายอยู่ 2 เดือน ก็หยุดไปคลอด พอคลอดเสร็จ ก็มาเริ่มที่ ฟู้ดทรัก เป็นเรื่องเป็นราว”

จากที่เคยทำงานประจำ ทำงานออฟฟิศมา 9 ปีเศษ มาถึงตอนนี้วิถีชีวิต เปลี่ยนไปไหม

“จากที่เคยทำงานประจำ งานมันก็รูทีนนะคะ คือบางครั้งก็มีแรงเฉื่อย แต่พอมาเป็นงานแบบนี้ เวลาไม่แน่นอน อย่างงานไกลบ้าน บางครั้งต้องเผื่อเวลาเดินทาง ออกจากบ้านเช้ามากๆ แต่เราก็ได้เจอลูกค้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่งานประจำไม่มีนะคะ แต่ตอนนี้เรามีภาระ มีลูก มีรถที่ต้องผ่อน ถ้าเราทำดีๆ ไปไหนใครก็อ้าแขนรับ แม้ว่าตอนนี้ จะเกร่อ คนจะทำกันเยอะ แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้เราได้ทำ เพราะเอาจริงๆ งานอีเว้นต์ก็เยอะมากๆ”

รายได้ เป็นอย่างไรบ้าง

“รายได้คือหลักแสนต่อเดือนค่ะ คิดง่ายๆ ว่าเราทำงาน 26 วันต่อเดือน หยุด 4 วันต่อเดือน เมื่อหักค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ผ่อนรถ นมลูก ค่าบ้าน น้ำ ไฟ อะไรทุกอย่างแล้ว เราจะเหลือวันละ 1,000 บาทต่อวัน/คัน ตอนนี้มีรถฟู้ดทรัก 2 คันแล้ว ก็ได้เป็น 2,000 บาท ต่อคันต่อวัน คือพอมี 2 คัน การเตรียมวัตถุดิบ ก็เตรียมเหมือนกัน พร้อมกัน เพียงแต่เพิ่มปริมาณ แล้ววิ่งแยกขาย ตัวเองคันหนึ่ง สามีอีกคันหนึ่ง”

คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจ
“ถ้าคุณลาออกจากงานมา ออกมาต่อสู้ คุณต้องมีความอดทนที่สูงมาก ยิ่ง 6 เดือนแรก ยังไม่มีเงินเข้าบ้านเลย และเงินก้อนสุดท้ายมันหมดไปแล้ว ยิ่งต้องอดทน เก็บหอมรอมริบ เรารอเงินใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ต้องลองอีกๆๆๆๆ ทิ้งไปเยอะ หม้อไหม้ก็มี แต่ไม่ท้อหรอก เพราะเป็นอาชีพเดียวที่มี เรายิ่งต้องไปให้รอด อย่างงานแรกที่ได้ เราทำให้เค้าสุดใจเลย จากนั้นเค้าก็เรียกใช้เราตลอด”
และนี่เป็นเรื่องราวของอดีตมนุษย์เงินเดือน ที่ใช้เวลา 3 ปี กว่าจะลุกขึ้นมายืนได้อย่างมั่นคง แต่ก็แน่นอนว่า ต้องแลกมาด้วยความอดทน และต่อสู้ อย่างชนิดที่เรียกว่า ได้มาเพราะหนึ่งสมองและสองมือจริงๆ

ปัจจุบันคุณเปิ้ล มีบ้านอยู่ที่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ติดต่อสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณเปิ้ลได้ที่ 0832431144

สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งภาพและเนื้อหา ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต