เปิดประวัติ ทิพย์เกสร แบรนด์ยาดมสมุนไพร-รักษาโรค ส่งต่อสูตรลับ ตำรับยา รุ่นสู่รุ่นมากว่า 90 ปี แตกไลน์ แฉล้ม เจาะตลาดสตรี คงคอนเซ็ปต์ ยาดี ราคาไม่แพง 

หากจะพูดถึง ยาสมุนไพรไทย ในตลาดนั้นมีมากมายหลากหลายแบรนด์นัก หนึ่งในแบรนด์ที่เรียกว่า อยู่ยงคงกระพัน มานานกว่า 90 ปี อย่าง ทิพย์เกสร รู้ไหมว่ากว่าจะมาเป็น ทิพย์เกสร อย่างทุกวันนี้ เกิดมาจาก การสูญเสียมารดาและน้องน้อยอันเป็นที่รัก ของ หมอมิ่ง

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ หมอติ-อนุสิฐษ์ แฉล้ม เจ้าของรุ่นที่ 3 ได้เล่าให้ฟังว่า ทิพย์เกสร ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีก่อน โดย หมอมิ่ง แนบเนียน ที่ประสบกับเหตุการณ์สูญเสียมารดาและน้องที่อยู่ในครรภ์ของมารดาไป เมื่อตอนท่านอายุได้ 10 ขวบ เนื่องจากเด็กในท้องขวางท้องทำให้คลอดยาก

“สมัยเมื่อ 100 กว่าปีก่อน การแพทย์และสาธารณสุขในไทยยังไม่เจริญเท่าไหร่ เวลาป่วย จะคลอด จะอะไรก็ต้องพึ่งพวกหมอตำแย หมอสมุนไพร อะไรประมาณนี้ แล้วแม่ของคุณตา (หมอมิ่ง) กำลังจะคลอดน้องของคุณตา แต่เด็กขวางท้องทำให้คลอดยาก ย่าทวดก็เหนื่อยอ่อนกับการเบ่งเด็กออกแล้ว สุดท้ายท่านก็สิ้นใจไปพร้อมกับน้องไปต่อหน้าต่อตาของคุณตาเลย”

“จากเหตุการณ์นั้น คุณตาเสียใจมาก ท่านเลยตั้งปณิธานอยากจะเป็นหมอมาช่วยคน เลยไปเรียนวิชาแพทย์จนจบหลักสูตรการแพทย์แผนไทย ได้ใบประกอบโรคศิลปะ การบำบัดโรคทางยา จากสภาการแพทย์ ตอนปี 2475 ท่านเลยมีความรู้และความชำนาญเรื่องโรคสตรีเป็นอย่างมาก มีทักษะสามารถใช้มือกลับหัวเด็กที่ขวางครรภ์ และความรู้ทางการแพทย์ทั่วไปที่สามารถช่วยรักษาชาวบ้านด้วยยาสมุนไพร โดยไม่เรียกร้องเงินทอง จนมีชื่อเสียง ท่านก็มีมรดกตำรับยาและศาสตร์การแพทย์มากมายที่ส่งต่อให้สืบทอดมาจนปัจจุบัน” หมอติ เล่าให้ฟังอย่างนั้น

หลังจากหมอมิ่งได้เสียชีวิตไป ลูกสาวผู้เป็นทายาท ได้รับการถ่ายทอดจากหมอมิ่งโดยตรงอย่าง หมอจันทร์ แนบเนียน ได้เข้ามาดำเนินการต่อ แต่เนื่องจากสมุนไพรเริ่มหายากขึ้น ของเริ่มแพงขึ้น จากเดิมที่รักษาแบบ ยาขอ หมอวาน (ยาก็ขอฟรี หมอก็รักษาฟรี) ไม่เก็บเงิน จึงต้องเปลี่ยนมาเรียกเก็บบ้าง 10-20 บาท เพื่อนำกลับไปซื้อยาตัวใหม่แล้วนำมาผลิต ใช้รักษาคนไข้รายอื่นต่อ

กระทั่ง หมอติ ผู้เป็นทายาทรุ่นหลานที่คลุกคลีกับการเก็บยาทำยามาตั้งแต่เด็กๆ ได้เข้ามาดูแลต่อ

“ตอนเด็กๆ เห็นคุณตารักษาคน มันก็มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เราจำได้ไม่ลืม ทุกครั้งที่คุณตาไปเก็บสมุนไพร เราก็จะตามท่านไปด้วย ท่านเก็บไปก็สอนไป บางทีก็โดนท่านหลอกให้กินบอระเพ็ดด้วย เราก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ก็ได้ซึมซับมาแต่เด็ก มันทั้งมีความสุขและภาคภูมิใจในตัวคุณตาของเรามากๆ ท่านช่วยทั้งคนทั้งสัตว์ยื้อจากความตาย ไม่เลือกปฏิบัติเลย เราเลยมีความรู้สึกว่า คุณตาคือซูเปอร์ฮีโร่ของเราและหลายๆ คน เลยอยากเป็นเหมือนคุณตาบ้าง คุณตามาเสียตอนผมเรียนอยู่ ม.3 เราอยากเป็นหมอเหมือนตา แต่ก็ชอบเล่นดนตรีเหมือนพ่อ ก็เลยเรียนเกี่ยวกับดนตรี และมาสอบเป็นหมออนามัย”

“แล้วก็ต่อ ป.ตรี จากนั้นก็ทำงานในอนามัยที่ตัวเมืองสุพรรณฯ ก็ได้สัมผัสกับชาวบ้าน ผู้เจ็บป่วย มีประสบการณ์ด้านสุขภาพมากมาย แม่ป่วยก็ศึกษาสมุนไพรมาปรุงยาให้แม่กิน จนเมื่อป้าหมอจันทร์เสีย ผมก็ลาออกจากราชการ ทำตามความตั้งใจ ตั้ง คลินิกศรีประจันต์การแพทย์แผนไทย ที่ขออนุญาตอย่างถูกต้อง เป็นศูนย์เรียนรู้แพทย์พื้นบ้าน หมอมิ่ง ผลิตยาสมุนไพร และให้ความรู้ฟรีกับกลุ่มคนที่สนใจ แทบตลอดชีวิตที่เป็นหมอมา ไม่รู้หรอกการตลาดคืออะไร ใครมารักษาก็จ่ายยาตามสมควร ถูกแพงก็ว่าไปตามเนื้อผ้า”

“ส่วนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทิพย์เกสร เกิดจากการให้ คือตอนที่คนไข้มารักษาที่คลินิก ผมก็ได้ทำยาดมสมุนไพรแจกทุกคนฟรีๆ แล้วมีคนไข้ที่เป็นมะเร็งคนหนึ่ง เขาชอบยาดมของผมมาก เขาก็ดมตลอดจนเขาตายไป ลูกๆ คนไข้เขาเห็นว่าตอนยังมีชีวิตเขาชอบยาดมของผม ก็เลยมาขอให้ช่วยทำไปแจกคนที่มางานศพให้หน่อย จำนวน 500 ขวด แต่มันตั้งชื่อว่ายาดมไม่ได้ เพราะขึ้นทะเบียนไม่น่าทันแจก เลยเปลี่ยนชื่อเป็น เครื่องหอมสมุนไพร แล้วคิดว่าควรจะมีคำว่า ทิพย์ ให้ดูขลังๆ ชวนชมเป็นดอกไม้ที่ที่บ้านเราชอบ เป็นไม้มงคล เป็นดอกไม้มีเกสร ก็เลยเอามาผสมกันจนได้เป็น ทิพย์เกสร และใช้ดอกชวนชมเป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” หมอติ ว่าอย่างนั้น

ทิพย์เกสร มีการแบ่งกลุ่มงานออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1. ด้านบริการ 

1.1 ให้บริการตรวจโรค-รักษาโรค ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทย กับ คลินิกศรีประจันต์แพทย์แผนไทย

1.2 จำหน่ายยาสมุนไพร และผลิตยาสมุนไพร

1.3 การอบรมพนักงาน ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และเปิดให้ศึกษาดูงาน แก่ผู้ที่สนใจศาสตร์แพทย์แผนไทย ฟรี

2. ด้านการผลิต

2.1 การปลูก และแปรรูปสมุนไพร

2.2 ผลิตยาสมุนไพร และผลิตสมุนไพรไทย ที่ต่อยอดจากภูมิปัญญาเรื่องสมุนไพร ของ หมอมิ่ง แนบเนียน

2.3 พัฒนายาสมุนไพร การวิจัย ทดลอง หายาใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับคนไทย เพื่อสาธารณประโยชน์

“เนื่องจาก ทิพย์เกสรที่เป็นยาสมุนไพร ใช้สำหรับรักษาโรคได้ทุกเพศทุกวัย มีตำรับยากว่า 100 รายการ อีกทั้งความชำนาญเกี่ยวกับโรคสตรี ที่เราได้รับการถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่นโดยตรง ซึ่งนอกจากภายในก็มีปัญหาภายนอก เลยเป็นไอเดียในการแตกแบรนด์ออกมา เพื่อทำให้ผู้หญิงทุกคนมีความงดงามจากภายใน คือความ แฉล้ม แช่มช้อย สวยสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ เราจึงคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ปัญหาสตรี ภายใต้แนวคิด วิถีธรรมชาติ เพื่อคุณผู้หญิง จึงเกิดเป็น แฉล้ม ออร์แกนิก แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ASPAR และพวกเครื่องสำอางขึ้น”

“ในปัจจุบัน มีสินค้ากว่า 142 SKU แยกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในคลินิก 120 SKU และมีการผ่านมาตรฐาน อย. วางจำหน่าย 22 SKU ปัจจุบันเราจำหน่ายผ่านทางหน้าร้าน ที่ ร้านทิพย์เกสร ร้านขายยา ขายของฝากต่างๆ และ ออนไลน์ อย่าง ไลน์ ช้อปปี้ ลาซาด้า ของบริษัท นอกจากนี้ เราก็มีตัวแทนรับไปขายเช่นกัน แผนต่อไปในอนาคตก็มองเรื่องการส่งออกและวางแผนจะควบคุมห่วงโซ่อุปทาน ดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกพืชสมุนไพรแบบออร์แกนิก การผลิตมาตรฐานสากล การกระจายสินค้า ไปถึงมือผู้บริโภค ให้คนทั่วประเทศได้กินได้ใช้ มีสุขภาพดีๆ ด้วยยาดีๆ ของคุณตา” หมอติ ว่าอย่างนั้น

สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @tipgaysorn1932 และ เฟซบุ๊ก ทิพย์เกสร สมุนไพร tipgaysorn