หนุ่มศรีสะเกษ หัวใจรักสัตว์ อาสาปวารณาตัว ทำดีถวายในหลวง ร.9 แปลงโฉม-ตัดขนฟรี สุนัขจรจัด

นับเป็นอีกคนที่มีจิตอาสาทำดีเพื่อสังคม ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 สำหรับ “เกรียงไกร ธาตวากร” หรือ แอ๊ดดี้ ชายหนุ่มวัย 43 ปี เกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ที่เสียสละชีวิตส่วนตัวมาตระเวนตัดขนสุนัขจรจัด แปลงโฉมหมามอมแมมสกปรกให้กลายเป็นตูบน่ากอด หวังเพียงให้บรรดาสัตว์เลี้ยง 4 เท้าเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นับเป็นการตอบแทนน้ำใจให้กับผู้ที่รับสุนัขจรจัดมาเลี้ยงอีกรูปแบบหนึ่ง

เปิดชีวิตจิตอาสา แปลงโฉมให้สุนัขจรจัด
เปลี่ยนชีวิตให้ตูบ 4 ขา มีคุณภาพชีวิตที่ดี

คุณแอ๊ดดี้ จิตอาสาเปลี่ยนโฉมให้สุนัขจรจัด ดีกรีไม่ธรรมดา จบปริญญาบัตร 2 ใบ แถมเกียรตินิยมอันดับ 1 อีก 1 ใบ ซึ่งปริญญาตรีใบแรก ได้จากวิทยาลัยการโรงแรมดุสิตธานี ใบที่สอง จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านกรูมมิ่ง OH!MyDog อาบน้ำ ตัดขนสุนัข ที่จังหวัดศรีสะเกษ

จุดเริ่มต้นที่เป็นแรงบันดาลใจให้ชายหนุ่มทำความดีนั้น มาจากความสงสารสุนัขจรจัด และเพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่คนรักที่ล่วงลับไปแล้ว เขาเข้าสู่วงการตัดขนสุนัขเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ด้วยการไปเรียน ได้ความรู้เรื่องเทคนิคการใช้ปัตตะเลี่ยน การอาบน้ำ ตัดเล็บ ฝึกฝีมือด้วยการไปตัดขนหมาตามสถานที่ต่างๆ ตัดให้ฟรี จากนั้นก็ช่วยงานจิตอาสาตัดขนสัตว์เรื่อยมา

“ผมจะเลือกตัดขนเฉพาะสุนัขจรจัดเท่านั้น เพราะคือความภูมิใจที่สามารถเปลี่ยนหมาเน่าๆ ให้กลายเป็นหมาสวยๆ และพอหมามีสภาพที่ดี บางครั้งก็จะมีคนรับไปเลี้ยง ชีวิตสุนัขจรจัดก็ดีขึ้น”

สำหรับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตคุณแอ๊ดดี้ให้กลายเป็นจิตอาสาและที่พึ่งพาของบรรดาหมาสภาพแย่ มาจากการรู้สึกสำนึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาตลอด เขาจึงตอบแทนด้วยการเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือสังคม

“ปี 2557 ผมมีโอกาสไปบ้านสุนัขจรจัดพี่จิ๋ม ตั้งอยู่จังหวัดชลบุรี สถานที่แห่งนี้เจ้าของรับเลี้ยงสุนัขจรจัดไทยพันทางเกือบ 1,000 ตัว แต่ละตัวสภาพดี แต่บางตัวเล็บยาวฝังในเนื้อ บางตัวขนยาว ผมอาสาอาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บ จากนั้นก็ตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ ศูนย์พักพิงสุนัขอีกมากมายนับไม่ถ้วน”

กว่าจะชนะใจครอบครัว–เสียรายได้
ทำดีเพื่อสังคมต่อไปจนกว่าจะแก่

แต่ละสถานที่ แต่ละจังหวัดที่คุณแอ๊ดดี้ไปนั้น ไม่ได้กินอยู่สบาย ตรงกันข้าม เขาต้องนอนวัด ต้องออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางเอง และต้องเสียสละปิดร้านขาดรายได้ ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยความลำบาก ผู้ชายคนนี้ก็ยอม

“ผมมีอุดมการณ์แล้วว่าจะต้องช่วยสุนัขจรจัด ในตามความถนัดของตัวเอง ซึ่งก็ดั้นด้นไปมาแล้วหลายจังหวัด บางครั้งต้องนอนวัดป่า นอนติดเมรุเผาศพ ต้องกินข้าววัด สิ่งเหล่านี้ไม่ถือเป็นความลำบาก ตรงกันข้าม พระทุกวัด  ชาวบ้านในละแวกนั้นให้การต้อนรับดี ก็หายเหนื่อย”

การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เรื่องค่าใช้จ่าย และการปิดร้านสูญเสียรายได้ ตรงนี้คุณแอ๊ดดี้ บอกว่า ทุกครั้งที่ตระเวนไปตัดขน ตัดเล็บสุนัขจรจัดจะใช้เงินตัวเอง มีบางครั้งที่ขอรับบริจาคเป็นค่ารถ ส่วนการปิดร้านเคยปิดร้านนานที่สุด 30 วัน ไม่มีรายได้เลย อาศัยว่าไม่มีหนี้สิน และมีหน้าร้านให้เช่าที่จังหวัดศรีสะเกษ เลยพอมีรายได้เข้ามาบ้าง

ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ชายหนุ่มเสียสละชีวิตส่วนตัวมาทำดีเพื่อสังคม กว่าจะได้การยอมรับจากครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย เขาบอกว่า ด้วยหน้าที่ลูกชายคนโตของครอบครัวซึ่งมีธุรกิจร้านอาหาร พ่อแม่หวังจะให้เข้ามาสืบทอดกิจการ แต่ตอนนี้กลายเป็นจิตอาสารับใช้สังคม ในช่วงแรกก็มีปัญหา กว่าจะชนะใจที่บ้านได้ใช้เวลาร่วม 2 ปี

ในอนาคต คุณแอ๊ดดี้ ตั้งปณิธานไว้ว่า จะตระเวนไปให้บริการตามศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้เพราะเท่าที่เขาสำรวจมายังขาดจิตอาสา โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต นครศรีธรรมราช

“ผมตั้งใจแล้วว่าจะช่วยเหลือสุนัขจรจัดไปตลอด จนกว่าจะจับปัตตะเลี่ยนไม่ไหว โดยมีในหลวง ร.9 และ คุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงในพระองค์ เป็นพลังให้อยากทำความดีตอบแทนสังคมในสิ่งที่เป็นความถนัดของตนเอง”

โดยส่วนตัว คุณแอ๊ดดี้ชอบคุณทองแดงมาก สุนัขจรจัดที่ในหลวง ร.9 ทรงนำมาเลี้ยง ที่ร้านของเขาจะมีภาพถ่ายในหลวง ร.9 กับสุนัขทรงเลี้ยงตัวนี้ เขาบอกว่า ชอบดูรูปเวลาท่านอยู่กับสุนัข รู้สึกมีความสุขทุกครั้ง และเชื่อว่าหมาจรจัด ก็คือ บรรดาลูกหลานของคุณทองแดง นั่นเอง