กรุงพนมเปญ นับเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศกัมพูชา โดยตั้งปี พ.ศ.2535 เป็นต้นหลังจาที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดเสรี ยินดีต้อนรับการลงทุนจากทุกขนาดจากนานาชาติ ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ มีอัตราการเติบโตมากขึ้นตามลำดับ กระทั่งเป็นศูนย์รวมของโรงแรม ภัตตาคาร บาร์ และสิ่งก่อสร้างมากมาย

เมื่อไม่นานมานี้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้เยี่ยมชมย่านการค้าสำคัญในกรุงพนมเปญ โดยเริ่มจาก Night Market ซึ่งอยู่ติดกับถนนเลียบแม่น้ำ  ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวตะวันตก

ฟู้ดคอร์ท ขแมร์ไสตล์

บรรยากาศความน่าสนใจของ “ตลาดถนนคนเดิน ขแมร์ สไตล์” นี้ ถ้าเทียบกับบ้านเรา คงต้องบอกตรงๆว่ายังห่างไกลกันอยู่มาก เพราะเท่าที่สำรวจด้วยสายตาจากสินค้าที่วางขาย แทบหาไม่เห็นว่าจะมีสินค้าเชิงไอเดียสร้างสรรค์ หรืองานทำมือของคนในท้องถิ่น

ส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชุดชั้นใน รองเท้ามือสอง  ขณะที่ ของที่ระลึก อย่าง พวงกุญแจ ดอกไม้แห้ง ฯลฯ เข้าใจว่าน่าจะนำเข้าจากไทยหรือไม่ก็เวียดนาม เป็นหลัก

วันรุ่งขึ้น มีโอกาสแวะที่ ตลาด Central Market หรือตลาดนัดแหล่งใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงพนมเปญ อีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกชาติ ต้องแวะจับจ่าย ทำให้การจราจรบริเวณดังว่า คลาคล่ำไปด้วยรถราและผู้คน จนไกด์ท้องถิ่น ต้องย้ำนักย้ำหนาให้เพิ่มความระมัดระวังทรัพย์สินมีค่าของตัวเองไว้ให้ดี ซึ่ง ประเด็นแบบนี้คงไม่หนีบ้านเราเท่าไหร่

สำหรับพื้นที่ชอปปิ้ง ภายใน Central Market มีทั้งแบบเอาท์ดอร์-อินดอร์ กว้างขวางเดินสบาย ไม่ถึงกับเบียดเสียด พ่อค้าแม่ขายอัธยาศัยยิ้มแย้มเรียกลูกค้ากันตลอด

แต่สินค้ายังไม่มีความหลากหลายมากนัก เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เห็นเครื่องประดับประเภทเครื่องเงิน พลอยสี มีให้เลือกอยู่หลายเจ้า แต่ถ้าไม่เก๋าหรือตาไม่ถึงจริง ไม่แนะนำให้ซื้อกลับ เพราะอาจช้ำใจได้ของไม่แท้กลับบ้าน

สำหรับสินค้าที่ “พี่สุวรรณ-ไกด์ท้องถิ่น” แนะนำให้ลองเลือกหาติดไม้ติดมือกัน เห็นจะเป็นรองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อดังหลายยี่ห้อ ซึ่งมีราคาถูกกว่าราคาตามห้างหลายเท่าตัวและไม่ใช่ของก๊อป แต่เป็น “ของแท้-มีตำหนิ” ซึ่งถูกส่งออกมาขายจากโรงงานรับจ้างผลิต ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชานั่นเอง