ลงทุนครั้งแรก 500 บาท “น้ำญาใจ” น้ำยาล้างจานออร์แกนิก เริ่มธุรกิจจากความเจ็บป่วยของคนในบ้าน

ลงทุนครั้งแรก 500 บาท “น้ำญาใจ” น้ำยาล้างจานออร์แกนิก เริ่มธุรกิจจากความเจ็บป่วยของคนในบ้าน

แน่ล่ะ ถ้าใครสักคนในบ้านของเราเจ็บป่วยความกระวนกระวายใจเป็นสิ่งที่ทรมานเกินกว่าจะรับไหว เช่นเดียวกับ คุณนก-ผศ.ณิชยา ศรีสุชาติ CEO และ Co-Founder น้ำญาใจ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับครอบครัว เห็นถึงความทุกข์ทรมานของแม่ที่มือลอกจากการแพ้สารเคมีในน้ำยาล้างจาน

นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการให้ แบ่งปัน บอกต่อ และกลับมาเป็นธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมให้กับโลกใบนี้

คุณนก-ผศ.ณิชยา ศรีสุชาติ CEO และ Co-Founder น้ำญาใจ
คุณนก-ผศ.ณิชยา ศรีสุชาติ CEO และ Co-Founder น้ำญาใจ

ช่างมือฉันเถอะ

คุณนก เล่าว่า น้ำญาใจ เริ่มต้นหลังจากช่วงที่เธอมีลูกสาวซึ่งคุณแม่จะเป็นผู้ดูแลอาหารต่างๆ ในแต่ละวัน และวันหนึ่งๆ เวลาทำอาหารก็ต้องล้างนั่นล้างนี่เป็นเรื่องปกติ จบด้วยการใช้น้ำยาล้างจานเก็บทำความสะอาด

วันหนึ่งคุณแม่ของเธอยื่นมือที่ลอกแตกเป็นขุยแสบๆ มาให้เธอดูพร้อมกับพูดว่า “ช่วงนี้ทำอาหารให้เธอกินตอนท้อง มือแม่แตกหมดเลย สงสัยจะเป็นน้ำยาล้างจาน แต่ช่างมือฉันเถอะ ฉันทำเพื่อหลาน”

จุดเริ่มต้นน้ำยาล้างบาปก็เกิดขึ้น (คุณนกเรียกฉายานี้ไว้เพื่อเตือนตัวเอง)

น้ำญาใจ

การไถ่บาปถือเป็นเรื่องที่คุณนกต้องการมากที่สุด จึงตัดสินใจทำน้ำยาล้างจานขึ้นมาเอง ด้วยส่วนผสม 3 สิ่งคือ ส้มเกลี้ยง มะกรูด และสับปะรด สมุนไพรไทยออร์แกนิกที่เริ่มต้นลงทุนแค่ 500 บาท

“สาเหตุที่ตั้งชื่อแบรนด์ว่าน้ำญาใจ เพราะเราตั้งใจและใช้ใจในการทำ ญา ที่สะกดด้วย ญ ผู้หญิง เพราะอยากจะสะท้อนพลังของผู้หญิง 3 เจเนอเรชันซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ ในครอบครัว และอยากจะเป็นสะพานใจให้กับคนอื่นๆ และธรรมชาติ”

ทั้งหมดทั้งมวลแบรนด์ “น้ำญาใจ” จึงมี 3 Co-Founder ผู้ก่อตั้ง ตัวคุณนก ลูกสาว และคุณแม่

จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการใช้เองในครอบครัวเพื่อสุขภาพคนในบ้าน เมื่อแบ่งปันก็เกิดการซื้อขาย

คุณนก เล่าว่า หลังจากที่เริ่มทำไปได้สักระยะหลังลองผิดลองถูกน้ำญาใจออร์แกนิก ได้มีการแบ่งปันให้กับเพื่อบ้าน ครอบครัว ญาติพี่น้อง จนถึงจุดหนึ่งตัดสินใจกัน 3 คนเพื่อขาย ก็เกิดวิกฤตโรคระบาด สิ่งนั้นก็ต้องชะงักไป

การพอมีพอใช้ คุณนกและครอบครัวได้ทำการส่งต่อผ่านการให้ ให้ด้วยหัวใจทั้งหมด

“พอตัดสินใจจะขาย โควิดมาทุกอย่างปิดเราเลยรู้สึกว่าเราขายไม่ลง เพราะคนตกงานเยอะไปหมดทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ทุกอย่างปิดไปหมดเลย เรา 3 คนเลยตัดสินใจที่จะทำแจกไม่ต้องขาย ถือเป็นการทำบุญ ซึ่งเรามอบให้ดรงพยาบาลสนาม ส่งไปให้ทางวัดและสถานปฏิบัติธรรมในต่างจังหวัด รวมถึงเพื่อนบ้านญาติพี่น้อง ตามกำลังที่สามารถให้ได้ไม่มาก การให้ของเราในครั้งนี้เลยเป็นการได้รับฟีดแบ็กผลตอบรับของตัวสินค้าโดยที่เราไม่ได้คิดมาก่อน หลังจากนั้นก็มีคนมาติดต่อขอสั่งซื้อน้ำญาใจของเรา”

3 Co-Founder ผู้ก่อตั้งน้ำญาใจ ตัวคุณนก ลูกสาว และคุณแม่
3 Co-Founder ผู้ก่อตั้งน้ำญาใจ ตัวคุณนก ลูกสาว และคุณแม่

เพื่อนรู้ใจ

การให้ คือสิ่งสำคัญของทุกสิ่งทุกอย่างโดยเฉพาะการให้ด้วยหัวใจ และยืนหยัดเพื่อเป็นเพื่อนรู้ใจว่าชีวิตที่ดีเป็นแบบไหน

คุณนก เล่าว่า กลวิธีการทำให้ธุรกิจเติบโตคือการเดินไปด้วยกัน โดยคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เพื่อนรู้ใจ”

“ ‘เพื่อน’ คือการหาพาร์ตเนอร์หรือเพื่อนมาร่วมทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ ซึ่งเพื่อนที่ให้โอกาสและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในตอนนี้คือ KTC U Shop นอกจากจะเอาสินค้าไปวางขายให้แล้วยังมีการเก็บกำไรให้อีกด้วย พร้อมทั้งให้ความรู้และแนะนำการเติบโตของธุรกิจอีกด้วย 

‘รู้’ คือ ในการทำการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ แต่เริ่มลงทุนด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้น ต้องตระหนักและเพิ่มความรู้ ดังนั้น ตัวสินค้าจำเป็นต้องมีนวัตกรรมเข้ามาช่วย เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ส่วนในเชิงการตลาดนั้นจะเน้นทำคอนเทนต์การให้ความรู้แก่ตัวลูกค้าด้วยความจริงใจ

สุดท้ายเป็นเรื่องของ 

‘ใจ’ ที่เรียนรู้จากการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้าและได้รับฟีดแบ็กกลับคืนมา ทำให้ทางแบรนด์ต้องเข้าใจเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าจึงจะเริ่มผลิตสินค้าออกมา”

สำหรับผลิตภัณฑ์ของน้ำญาใจ มีทั้งหมด 2 รูปแบบคือ ถุงรีฟิลและขวดปั๊ม 

ถุงรีฟิลมีขนาด 900 ml สามารถเติมใส่ขวดได้ 2 รอบ สามารถล้างจานได้ประมาณ 300 ครั้ง 

ขวดปั๊มมีขนาด 450 ml ซึ่งราคาทั้ง 2 รูปแบบเริ่มต้นที่ราคา 150 บาท 

ทางด้านกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือผู้ที่ชื่นชอบสินค้าออร์แกนิก และสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มคือ

1. ผู้ที่ซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพให้กับพ่อแม่หรือครอบครัว

2. พ่อแม่และครอบครัวเลือกซื้อสินค้าที่ไม่มีสารเคมีส่งผลเสียให้กับลูกของตนเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณนก ได้เล่าเสริมว่า สินค้านี้ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ

สุดท้าย น้ำญาใจ มีการตลาดออนไลน์เป็นหลักเพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงเข้าร่วมกับ KTC U Shop ที่เปิดโอกาสให้นำสินค้าไปวางขายและทำโปรโมชันร่วมกัน