เทรนด์สุขภาพและความงามที่คนไทยกำลังให้ความสนใจอย่างถ้วนทั่ว คือ “เทรนด์ธรรมชาติบำบัด” จนทำให้สินค้าเพื่อสุขภาพต่างๆ ได้รับการยอมรับและนิยมอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงามบำรุงผิวพรรณทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย

เฉกเช่น ถ่านไม้ไผ่(Bamboo Charcoal) คือ ถ่านที่ได้จากการเผาไม้ไผ่ในอุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส มีความบริสุทธิ์ของธาตุคาร์บอนสูงคุณสมบัติเด่นช่วยดูดซับกลิ่น ดูดซึมความอับชื้น และช่วยขจัดพิษตกค้างในร่างกาย บางงานวิจัยยังบอกอีกว่า ช่วยขับสารเคมีตามผิวหนัง ผิวหนังจึงสะอาด ปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์ความงามที่ใช้ถ่านไม้ไผ่ออกมามากมาย อาทิ สบู่ ครีมบำรุงผิว แชมพู ครีมนวดผม

“Manee” (มานี) คือ สบู่สำหรับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของถ่านไม้ไผ่คุณภาพสูงนำเข้าจากเกาหลี มาผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย เจาะตลาดกลุ่มผู้มีปัญหาสิว ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย คือ “วรากร สุทธิปริญญานนท์” หรือ ปิง เด็กหนุ่มวัยเพียง 26 ปี

คุณปิง จบภาควิชาพืชไร่ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาเคยทำครีมลดริ้วรอยขายเฉพาะในเฟสบุ๊ก ใช้เงินลงทุน 5 แสนบาท แต่ครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ เลยถอยมาตั้งหลัก กระทั่งมองเห็นช่องว่างในตลาดผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว เลยนำเอาความรู้ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ มาประยุกต์ หนที่สุดกลายเป็นสบู่ถ่านไม้ไผ่

“ผมทำงานอยู่แวดวงเคมีภัณฑ์ เลยให้ความสำคัญเรื่องการเลือกส่วนผสม จึงนำเอาความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าและทดลอง เข้าห้องแล็บเพื่อวิเคราะห์ถึงคุณประโยชน์ของสารต่างๆ ที่จะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์กำจัดสิว โดยเฉพาะถ่านไม้ไผ่ ช่วยขจัดพิษตกค้าง ลดแบคทีเรีย และเพื่อผ่อนคลาย”

คุณปิง เสริมว่า สินค้าที่ทำมาจากธรรมชาติกำลังเป็นเทรนด์สุขภาพที่คนไทยกำลังให้ความสนใจ ต่างจากเมื่อก่อนเรื่องความสวย ความงาม ต้องยกให้เกาหลี พวกไวท์เทนนิ่งเพิ่มความขาว แต่ทว่าคนบางกลุ่มก็เริ่มเข้าใจว่าสารเคมีให้ความสวยไม่ยั่งยืน บางคนเกิดอาการแพ้ สุดท้ายแล้วธรรมชาติต่างหากที่ให้ผลดี

ราวต้นปี 59 “สบู่” ที่ใช้ “ผงถ่านไม้ไผ่” หรือที่เรียกกันติดปากว่าชาร์โคล (Charcoal) ถูกผลิตออกมาสำเร็จ ตั้งชื่อเเบรนด์ว่า MANEEช่วยปรับสภาพผิว โดยอาศัยการปล่อยประจุลบและแร่ธาตุในถ่านออกมาขับล้างสารพิษตกค้าง และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งประจุลบที่ถ่านไม้ไผ่ปล่อยออกมาจะทำปฏิกิริยาเปลี่ยนอนุมูลอิสระเป็นออกซิเจน และดูดซับสิ่งสกปรกออกจากใบหน้าได้

สำหรับจุดเด่นของสบู่ถ่านไม้ไผ่ เจ้าของธุรกิจ บอกว่า  อยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ โดยถ่านไม้ไผ่ที่เลือกใช้นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี เลือกใช้เกรดดีมีคุณภาพ เน้นความละเอียดกว่าผงถ่านไม้ไผ่ทั่วไปถึง 9 เท่าตัว ผ่านการอบความร้อนสูงถึง 1,200 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดรูพรุนจำนวนมากและสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ใช้แล้วไม่แพ้ เมื่อเลิกใช้ก็ไม่มีผลข้างเคียง ขณะที่ขนาดของสบู่อยู่ที่ 40 กรัม แม้ก้อนไม่ใหญ่มาก แต่ละลายช้าสามารถใช้ได้นานถึง 45 วัน

ด้านช่องทางจำหน่าย คุณปิง ยังคงเลือกขายผ่านเฟสบุ๊ก เจ้าตัว เผยว่า ช่วงทำออกมาขายแรกๆ ขายได้เพียงวันละ 2 ก้อน บางวันก็ขายไม่ได้ด้วยซ้ำ อาศัยว่าลูกค้าบอกปากต่อปาก ยอดขายและชื่อเสียงจึงเริ่มดีขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยซื้อโฆษณาด้วยซ้ำ

“กลุ่มลูกค้าของผมส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่ใช้เฟสบุ๊ก คนที่ใช้แล้วมักเห็นผล เกิดการบอกต่อทั้งในกลุ่มเด็กด้วยกัน และผู้ใหญ่ก็ซื้อมาใช้ ล่าสุดเริ่มมีตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดแล้ว โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ก้อนละ 100 บาท และขายส่งให้ตัวแทนจำหน่ายที่ก้อนละ 70 บาท รวมถึงเริ่มมีตัวแทน ที่ จังหวัดนนทบุรี”

ปัจจุบันกำลังการผลิตสบู่ดำ เฉลี่ยเดือนละ 3, 000-5,000 ก้อน สำหรับแผนการตลาด คุณปิง ระบุว่า อยากให้แบรนด์ MANEE อยู่ในใจของคนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ผลิตจากธรรมชาติจริง ๆ โดยไม่มีส่วนผสมของสารเคมี

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต ชายหนุ่มเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า พร้อมหาตัวแทนหลักในระดับภูมิภาคเพื่อช่วยดูแลการตลาดและจำหน่ายสินค้า และเขาจะมุ่งไปที่การผลิต และการทำตลาดในภาพรวมเป็นหลัก โดยเชื่อว่าตลาดสบู่ถ่านไม้ไผ่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง