จบ ป.โท ไม่สนอาชีพลูกจ้าง เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว รสกะปิ โดนใจวัยรุ่น

ก๋วยเตี๋ยวบนรถ เมนูเดียว ขายได้ดี
คุณสรวิชญ์ คูเกษมรัตน์ หรือ คุณตี๋ ผู้ประกอบการร้านรสเตี๋ยว เล่าเท้าความไปเมื่อครั้งยังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี จวบจนก้าวสู่ระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างเรียนก็ได้ใช้เวลาทำงานในร้านอาหาร และโรงแรม จนกระทั่งได้เป็นผู้ช่วยเชฟ
“พอได้ทำงานในครัว ก็เหมือนจุดประกายความคิด อยากเป็นนายตัวเอง ส่วนที่เลือกเมนูก๋วยเตี๋ยว เพราะมองว่าถูกปากคนไทย สามารถปรับสูตรให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของเราได้ ผมจึงนำพื้นฐานความชอบปรุงมาพัฒนารสชาติก๋วยเตี๋ยว ซึ่งตอนแรกทำออกมาเมนูเดียวคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาว ส่วนหน้าร้านตอนนั้นผมเลือกแบบฟู้ดทรัก โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นไปประมาณ 550,000 บาท”

 

 

การตกแต่งรถที่ดึงดูดสายตาผู้พบเห็น บวกรสชาติก๋วยเตี๋ยว ส่งผลให้เกิดลูกค้าบอกต่อตามมา และแม้จะมีเมนูบริการแค่รายการเดียว ก็สามารถดึงยอดขายให้มีกำไรกลับมาสู่ธุรกิจได้
ระยะเวลาก้าวผ่านราวครึ่งปี การจัดระเบียบพื้นที่ขายใหม่ ส่งผลกระทบต่อทำเลที่ตั้ง ถึงคราวนั้นคุณสรวิชญ์ เริ่มมองหาทำเลใหม่
“จุดประสงค์ที่ผมเลือกขายก๋วยเตี๋ยวบนรถ เพราะมองว่าขับไปขายตรงไหนก็ได้ แต่ในความจริงคือ จอดไม่ได้ ต้องหาทำเลแน่นอน จึงว่าถ้าอย่างนั้นหาทำเลรูปแบบร้านเลยดีกว่า กระทั่งมาได้ย่านประชาอุทิศ โดยหวังจับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา”

เปิดหน้าร้านรองรับ  จับลูกค้าหลากหลาย
ถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่กับทำเลหน้าร้าน แต่แล้วปัญหาก็มีตามมา โดยเฉพาะพื้นที่ตั้งร้านไม่อยู่ริมถนน ปิดกั้นระยะมองเห็น คุณสรวิชญ์จึงต้องใช้สื่อออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กช่วย และเตรียมจัดทำแผ่นพับใบปลิวแจกในละแวกใกล้เคียง  ด้วยเพราะมองกลุ่มเป้าหมายหลักนักศึกษา รูปแบบการตกแต่งร้าน รวมไปถึงเมนูอาหาร จึงต้องดึงดูดสายตา

“ร้านจะเป็น 2 ชั้น รองรับลูกค้าได้ประมาณ 50 คน มีพนักงานประจำร้าน 3 คน แต่จะให้ดีควรมี 4 คน เราทำร้านเล็กๆ แต่ให้น่านั่ง ซึ่งก่อนจะมองทำเลสแตนด์อะโลน ผมเคยเข้าไปติดต่อพื้นที่ในห้าง ค่าเช่าสูงถึง 80,000 บาท ไหนจะต้องเสียค่า GDP สูงอีก และทุกอย่างต้องทำตามกรอบ แต่ว่าก็มีข้อดีตรงไม่ต้องทำการตลาดมาก ด้วยเพราะทำเลเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว”


สำหรับเมนูอาหารปรับเพิ่ม อย่าง ก๋วยเตี๋ยวมี 5 สูตร ซึ่งยังคงต้องแปลกแตกต่าง อย่าง ก๋วยเตี๋ยวกะปิ ที่นำกะปิมาเป็นส่วนผสม หลายคนอาจคิดว่ากลิ่นแรง แต่พอได้ทานแล้วแทบไม่ได้กลิ่น ด้วยเพราะผสมเครื่องปรุงอื่นลงไปให้เกิดรสชาติโดดเด่น จนกลายเป็นเมนูถูกใจวัยรุ่นไปแล้ว หรืออย่างก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้น ก็ให้กลิ่นสมุนไพรเตะจมูก

นอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีเมนูเอาใจกลุ่มเป้าหมายหลัก วัยรุ่น วัยศึกษา ที่ชอบสังสรรค์ อย่าง หม้อไฟ อาทิ หม้อไฟลาวาชีส หม้อไฟสไตล์เกาหลี หรืออาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อย อย่าง ไก่ทอดสูตรเฉพาะ เฟรนช์ฟรายด์ หรือจะตบท้ายด้วยน้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น ที่คุณสรวิชญ์ ว่า จุดเด่นของเมนูหวานเย็นนี้คือการนำผลไม้สดมาเชื่อมเอง ให้ได้ท็อปปิ้งน้ำเชื่อมผลไม้ราดลงบนน้ำแข็งเนื้อละเอียดเนียน เหมาะกับภูมิอากาศร้อนบ้านเรา

ร้านให้บริการคงที่  มีรถเคลื่อนที่ออกงาน

ราคาขายตั้งไว้สมเหตุสมผล เริ่มต้น 50 บาท ไปจนถึง 300 กว่าบาท (หม้อไฟ) สามารถเรียกลูกค้าให้เดินทางมาอุดหนุนจนทำให้เกิดรายได้วันละประมาณ 9,000-15,000 บาท
นอกจากนั้น ยังเพิ่มยอดขายด้วยบริการรับออกงาน จัดเลี้ยง สัมมนา และอีเว้นต์ต่างๆ นอกสถานที่ ในรูปแบบฟู้ดทรัก โดยกำหนดขั้นต่ำกับยอดสั่งซื้อจำนวน 100 ชามขึ้นไป บวกค่าระยะทางให้บริการ

คุณสรวิชญ์ ยังกล่าวถึงเป้ายอดขายวางไว้วันละ 15,000 บาท ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 1 ปีครึ่ง ส่วนการลงทุนในรูปแบบร้านนั้นใช้งบประมาณไปราวๆ 700,000 บาท โดยหลักๆ จะมีค่าตกแต่ง และอุปกรณ์เพิ่มเติม ส่วนเงินทุนหมุนเวียนต่อวันก็ประมาณ 5,000 บาท
นอกจากลูกค้าแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดช่วง ยังมีผู้สนใจติดต่อขอร่วมธุรกิจเป็นจำนวนมาก
สำหรับผู้สนใจต้องการติดต่อธุรกิจ หรือเดินทางไปลิ้มรส ไปได้ที่ เลขที่ 115/13 ถนนประชาอุทิศ (ระหว่างซอย 43/1-45) แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ (086) 383-8863, (084) 244-2646 หรือ www.facebook.com/rodtiew