เผยแพร่ |
---|
จากโปรกอล์ฟ สู่ เจ้าของร้านกาแฟ ขยาย 19 สาขา กับแนวคิด “ไม่ฝากชีวิตไว้ในตะกร้าใบเดียว”
คุณก๊อต-อภินัย วรรณไพโรจน์ เจ้าของร้าน Hey! coffee และโรงคั่วกาแฟ กล่าวบนเวที Restech Talk เจาะลึก จับเทรนด์ร้านอาหารปี 2024 หัวข้อ แก้เกมยังไงในวันที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป ว่า พฤติกรรมลูกค้า ในช่วงก่อนโควิดผู้คนใช้ชีวิตกันสบายๆ ชิลๆ ไม่เร่งรีบ และด้วยเป็นร้านที่ขาย Specialty Coffee จึงมองว่าเป็นไปได้ยากที่ลูกค้าจะสั่งดีลิเวอรี เพราะกว่าจะถึงมือลูกค้าคุณภาพไม่เหมือนเดิมแล้ว
แต่เมื่อต้องเผชิญกับโควิดจริงๆ โลกเปลี่ยน ทุกคนต่างมุ่งเข้าแพลตฟอร์มดีลิเวอรี เรียกว่าปรับตัวกันอย่างหนัก สุดท้ายร้านก็ต้องปรับตัว และสามารถสร้างยอดขายดีลิเวอรีเติบโตเกือบ 50% ในบางสาขา
และด้วยโมเดลร้านที่ส่วนใหญ่ให้บริการแบบสแตนด์อโลน ลูกค้ายังโหยหาความสุนทรีเล็กๆ น้อยๆ ในขณะที่ห้างปิด การที่ไม่ได้เอาชีวิตไปฝากไว้ในตะกร้าใบเดียวในห้างเยอะเกินไป จึงทำให้ยอดขายไม่ได้ตกลง
ในการวางกลยุทธ์ของร้าน Hey! Coffee “เราต้องเข้าใจผู้บริโภคให้มากขึ้น ต้องยอมรับว่าคนรุ่นพ่อแม่ที่เป็นกำลังซื้อหลัก สุดท้ายจะบริโภคได้น้อยลง คนรุ่นใหม่ต่างหากที่จะเป็นลูกค้าที่เราต้องโฟกัส เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจว่าคนกลุ่มนี้เขาชอบอะไร ต้องการอะไร ก็พยายามเอาใจคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น วางกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อให้ยั่งยืน”
และจะทำอย่างไรให้อยู่รอด ท่ามกลางการแข่งขัน ที่ใครก็สามารถเปิดธุรกิจร้านกาแฟได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง Specialty Coffee ก็มีราคาแก้วละ 100 บาท และสูงขึ้นอีก
คุณก๊อต ตอบว่า “ในมุมของผม เราให้ความสำคัญเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะอยู่ในธุรกิจร้านกาแฟมา 14 ปี เห็นอยู่แล้วว่าการเข้ามาและจากไปของคู่แข่งมีตลอดเวลา เลยต้องบริการจัดการองค์กร และโฟกัสไปที่การขายกาแฟ ในส่วนของการขยายตลาดใหม่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าอีกเยอะที่ยังไม่เคยได้ลอง Specialty Coffee เราทำโรงคั่วกาแฟที่สามารถขายได้ทั้ง B2B และ B2C อีกส่วนต้องรอบคอบเรื่องการลงทุน ไม่ได้ใช้เงินกู้ในการขยายร้าน แต่ใช้ Cash Flow เป็นหลัก และบางจังหวะก็เอาเงินส่วนตัวมาใช้ด้วย และค่อยๆ ขยายตามจังหวะและโอกาสที่มั่นใจ”
“ทุกธุรกิจไม่มีคำว่าตลอดไป เราต้องหาตลาด หาช่องทางใหม่ ไปพร้อมๆ กับที่เราบริหารธุรกิจตัวเดิม ลองศึกษาดูธุรกิจเราว่าอยู่ใน State ไหน ปรับตัวในจังหวะที่เรายังแข็งแรง”
อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นของ Hey! Coffee มาจาก คุณก๊อตอยากมีรายได้เสริมจากงานหลัก นั่นคือนักกอล์ฟมืออาชีพ รวมถึงเป็นโค้ชให้นักกอล์ฟอีกหลายๆ คน จึงได้เปิดร้านกาแฟ โดยเปิดสาขาแรกที่พระราม 9 ก่อนขยายต่อสู่สาขา 3 และได้รู้จักกับ Specialty Coffee จากที่ไม่ได้จริงจังกับกาแฟมากนัก
ปัจจุบัน เปิดให้บริการ 18 สาขา และกำลังจะเปิดสาขา 19 ที่พัทยาในเร็วๆ นี้ โดยสาขาทั้งหมดมีทั้งแฟรนไชส์และเป็นเจ้าของเอง
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก torpenguin, NopPongsatorn
___________________________________________