“เซเว่น”อัพไซซ์6คูหาดันยอดเท่าตัว เดินหน้าผุดโมเดลใหม่-ดีลิเวอรี่รับสะดวกซื้อแข่งดุ

เซเว่นฯผุดโมเดลร้านห้องแถว 6 คูหา เพิ่มวาไรตี้สินค้า-มุมอาหาร ดันยอดขาย-ลูกค้าโตเท่าตัว พร้อมเดินหน้าโมเดลใหม่ ๆ ตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งขยายมุมกาแฟ “ออลล์ คาเฟ่” มุมอาหารปรุงสด”ฟู้ดเพลส” เติมที่นั่งทานในร้าน เผยปีหน้าเปิดครบหมื่นสาขา ลุยดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมัดใจคนรุ่นใหม่

นอกจากจะสยายปีกสาขาอย่างต่อเนื่องทุกปีเติมจุดแข็งจำนวน “สาขา” ที่มากกว่าคู่แข่ง และตอกย้ำจุดขายเรื่อง “ความสะดวก” ในการเข้าถึงแล้ว อีกความเคลื่อนไหวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของร้านสะดวกซื้อ”เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่มีการขยับตัวอย่างมากในแง่ของการเติมเต็มสินค้าที่มีรายการใหม่ ๆ มาวางขายและสร้างความประหลาดใจให้กับผู้บริโภคตลอดเวลาอาทิ ถั่วต้ม ข้าวโพดต้ม ข้าวเหนียวเปียกลำไย ยำแหนม โจ๊ก รวมถึงโมเดลใหม่ ๆ อาทิ บริการซักรีด มุมออลล์มีลและฟู้ดเพลสขายอาหารตามสั่ง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจร้านเซเว่นฯสาขาสุขุมวิท 79 ที่มีขนาดใหญ่เป็นโมเดลห้องแถวขนาด 6 คูหาอยู่ริมถนน ภายในครบเครื่องด้วยเชลฟ์สินค้าใหญ่ขึ้น มีมุมฟู้ดเพลสจำหน่ายเมนูอาหารต่าง ๆ ให้เลือกสั่ง มุมกาแฟออลล์คาเฟ่ มุมทรูช็อปจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ พร้อมรถเข็นและตะกร้าไว้บริการ ทั้งนี้ในหลาย ๆ สาขา โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ย่านอาคารสำนักงาน อาทิ ย่านรัชดาฯ เยาวราช สาทร ได้เพิ่มมุมออลล์มีล ฟู้ดเพลส โดยแต่ละสาขายังมีกลยุทธ์ด้านบริการตอบโจทย์ลูกค้าแตกต่างกัน อาทิ สาขาเอไอเอ รัชดาฯมีบริการดีลิเวอรี่ช่วง 11.00-12.30 น. และ 15.00-19.00 น.

ผุดโมเดลใหม่ 6 คูหา

แหล่งข่าวจากซีพี ออลล์เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โมเดลร้านที่มี 6 คูหายังมีจำนวนไม่ถึง 10 แห่ง และมีความหลากหลายของสินค้า ซึ่งอาจจะยังไม่เคยเห็นในสาขาอื่น ๆ ทำให้สามารถสร้างยอดขายต่อวันให้เติบโตขึ้นอีกเท่าตัวและเพิ่มลูกค้าเข้าร้านต่อวันได้อีกเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดใหญ่จึงมีข้อจำกัดเรื่องการหาพื้นที่เปิดร้านยากและใช้งบลงทุนสูงกว่าสาขาปกติ

พื้นที่ร้านอาจจะมากขึ้นถ้ามีความจำเป็น เพราะการบริหารของเซเว่นฯจะยึดลูกค้าเป็นที่ตั้ง ซึ่งปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงจะเห็นพัฒนาการของร้านเซเว่นฯที่มีโมเดลใหม่ ๆ ออกมา รองรับความต้องการของลูกค้า อาทิ ขนาดพื้นที่ร้านใหญ่ขึ้น แต่ยังคงไม่เกิน 300 ตร.ม. มีการปรับโพรดักต์มิกซ์และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ การเพิ่มพื้นที่นั่งทานในร้านเฉลี่ย 5-10 ที่นั่งไว้รองรับลูกค้าเข้ามาทานอาหารเช้า มีมุมฟู้ดเพลสขายอาหาร การเปิดสาขาสแตนด์อะโลนมีที่จอดรถหน้าร้าน ทั้งนี้แต่ละทำเลยังจะมีฟอร์แมตหรือการวางสินค้าที่แตกต่างกัน อาทิ ทำเลอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย คอนโดฯ ตลาด สถานีขนส่ง สถานศึกษา ทำเลรถไฟฟ้า เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าแตกต่างกัน

“ปีหน้าจะครบ 1 หมื่นสาขาตามเป้าหมายปัจจุบันเซเว่นฯมีสาขาครอบคลุมทุกจังหวัด เกือบทุกอำเภอ ขาดแค่ 8-9 อำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนและอำเภอทางตะวันออก เช่น เกาะกูด ซึ่งจำนวนประชากรยังไม่มาก เซเว่นฯยังขยายเข้าไปในตำบล ทุกวันนี้เซเว่นฯยังเปิดร้านได้ตลอด ยังมีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาที่ร้าน เพราะเราศึกษาความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังมีโอกาสและความสามารถตอบสนอง อย่างสาขาย่านสำนักงานก็จะมีสินค้ากลุ่มเบเกอรี่เยอะ มีที่นั่งทานในร้าน เมื่อเรามีสิ่งที่ต้องการ ทำให้ลูกค้ารักและเดินเข้าร้าน”

รวมถึงการทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งเป็นส่วนหนึ่งของการขยับตัวของซีพี ออลล์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาในร้าน อย่างเช่นปีนี้ได้นำเสนอแสตมป์เซเว่นฯในรูปแบบของอี-แสตมป์

14757295301475729964l

สาขาเดิมโตสวนเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้นายปิยวัฒน์ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนลงทุนร้านเซเว่นอีเลฟเว่นปี 2560 ว่า ปกติจะเปิดสาขาใหม่ปีละ 700 สาขา และใช้งบฯใกล้เคียงเดิม สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี 2559 พบว่า ยอดขายสาขาเดิมมีการเติบโตมากกว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา สะท้อนสภาพตลาดเริ่มดีขึ้นและกำลังซื้อหรือการใช้จ่ายในร้านเซเว่นฯดีขึ้น โดยมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพใหญ่ ส่วนหนึ่งยังมาจากโปรโมชั่นแคมเปญและการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งการบริหารจัดการสินค้าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ เซเว่นฯได้เตรียมสินค้าไว้รองรับเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ภายใต้แนวคิดออมนิแชนแนลที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างร้านค้าและอีคอมเมิร์ซ โดยตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์ทุกปี โดยต้นปีหรือกลางปีหน้า (2560) จะมีความพร้อมและแข็งแรงยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของระบบโลจิสติกส์ การส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า การส่งสินค้าเข้าร้านเซเว่นฯ ข้อมูลความต้องการของลูกค้า การทำตลาด การเก็บเงิน โดยใช้เวลา 3-4 ปีข้างหน้าจะเริ่มเห็นการเติบโตของยอดขายชัดเจนขึ้น

“เราต้องปรับตัวเพราะการแข่งขันสูง ทั้งรูปแบบที่มีหน้าร้านและออนไลน์ ร้านสะดวกซื้อแข่งขันกันตอบสนองความต้องการของลูกค้า แข่งกันเอาชนะใจ ทำอย่างไรให้ตอบสนองได้เหนือความคาดหมายของลูกค้า ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วและตลอดเวลา มีทางเลือกในการจับจ่ายมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโครงสร้างประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีใหม่ จึงต้องมองรูปแบบทางการตลาดใหม่ ๆ สร้างแบรนด์เอ็นเกจเมนต์ และกลยุทธ์ออมนิแชนแนล มาร์เก็ตติ้ง เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์เป็นช่องทางการตลาดหนึ่งเดียว อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการตัดสินใจซื้อได้ทุกที่ ทุกเวลา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2559 ระบุว่า ยอดขายสาขาเดิมมีการเติบโต 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 1 ของปี 2559 เติบโตเพียง 2.6% ทั้งนี้จำนวนสาขา ณ ไตรมาส 2 อยู่ที่ 9,252 สาขา ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 81,212 บาทต่อวัน/สาขา ยอดใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 64 บาท จำนวนลูกค้าเข้าร้านอยู่ที่ 1,259 คนต่อวันต่อสาขา

ในรายงานดังกล่าวยังระบุถึงแผนลงทุนปี 2559 จะเปิดประมาณ 700 สาขา โดยใช้งบฯลงทุนในการขยายสาขา รีโนเวต การลงทุนดีซี และระบบไอทีรวมกันประมาณ 9,500-10,000 ล้านบาท โดยปีนี้ในแผนยังมุ่งให้ความสำคัญกับอี-คอมเมิร์ซ และ อี-เพย์เมนต์ การขยายมุมร้านกาแฟออลล์ คาเฟ่ ภายในร้านเซเว่นฯ และการนำเสนอสินค้ากลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม

หน้าใหม่ “เค-มาร์เก็ต” บุก

นอกจากการขยายสาขาของร้านสะดวกซื้อรายเดิม ทั้งเซเว่นฯลอว์สัน108 แฟมิลี่มาร์ท ล่าสุดจากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่าได้มีร้านรายใหม่ ๆ ภายใต้ชื่อ “เค-มาร์เก็ต”บริหารโดยบริษัท เอซีอี ฟู้ดส์ จำกัด จำหน่ายสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม วัตถุดิบ และสินค้าอุปโภคบริโภคจากเกาหลีเท่านั้น ปัจจุบันมี 2 สาขา ที่พัทยา และย่านรัชดา (ใกล้เอ็มอาร์ทีสถานีศูนย์วัฒนธรรม) และรายงานข่าวจากบริษัทดังกล่าวระบุว่ามีแผนจะขยายสาขาไปในเมืองท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่เพิ่มเติม ส่วนในกรุงเทพฯจะเปิดอีกแห่งที่รามคำแหง

สอดคล้อง ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ฉายภาพว่า ทิศทางค้าปลีกในไทยมีแนวโน้มจะไปสู่แฟลกเมนเตชั่น ขณะที่พัฒนาการของร้านสะดวกซื้อไปสู่ Convenience Food Store มากขึ้น มีที่นั่งทานในร้านให้ลูกค้าซื้อและทานได้ทันที รวมถึงการแข่งขันข้ามเซ็กเมนต์ อย่างกลุ่มร้านเพื่อสุขภาพและความงามที่มีสินค้ากลุ่มโกรเซอรี่ไปทับซ้อนสินค้าในร้านสะดวกซื้อ

ที่มา  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์