ชาวประมงพื้นบ้านกระบี่ตื่นตา ปลาชุมทะเลบ้านควน จับขายได้วันละ 10,000 บาท

วันที่ 17 ม.ค. นายกานรัฐ เรืองโฉม ประมงอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ รับแจ้งจากนายสมาแอ หวังสง่า อาสาประมงท้องถิ่น อ.เหนือคลอง ว่ามีปรากฏการณ์ปลาชุกชุมเกิดขึ้นในทะเล อยู่ห่างจากท่าเรือบ้านควนต่อ ม.3 ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง ประมาณ 700 เมตร ตรวจสอบพบชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 30 ราย นำเรือพร้อมอุปกรณ์ในการจับปลาออกไปจับปลากันอย่างคึกคัก มีทั้งใช้แห และวางอวน ได้ครั้งละประมาณ 50-200 กิโลกรัม ในแต่ละวันรวมน้ำหนักบางรายจับได้ถึง 1,000 กิโลกรัม มีรายได้กว่า 10,000 บาทต่อวัน มีพ่อค้ามารับซื้อถึงท่าเรือ

นายสมาแอ หวังสง่า อาสาประมงท้องถิ่น บ้านควนต่อ อ.เหนือคลอง กล่าวว่า สำหรับปรากฏการณ์ปลาชุมนุมกันเป็นจำนวนมากภายในทะเลบ้านควนต่อ เกิดขึ้นมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ในแต่ละวันมีชาวประมงพื้นบ้านใช้แหและอวนจับ บางรายได้มากสุดประมาณ 1,000 กิโลกรัม มีรายได้กว่า 10,000 บาท ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตชั่วชีวิตอายุ 50 ปี เชื่อว่าเป็นผลพวงมาจากการที่กรมประมง ได้ออกมาตรการเข้มงวดห้ามการทำประมงผิดกฎหมายทุกชนิด ทำให้ท้องทะเลกระบี่มีสัตว์น้ำชุกชุม ทำให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำได้กันเป็นจำนวนมาก

ด้านนายกานรัฐ กล่าวว่า สำหรับปลาที่มารวมตัวกันชุมนุมชุกชุมในทะเลหน้าท่าเทียบเรือบ้านควนต่อ จากการตรวจสอบเป็นปลาลามา ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวบ้านเรียกในท้องถิ่น ส่วนภาษาที่เป็นทางการ มีชื่อเรียกว่าปลาจวด เป็นปลาขนาดเล็ก ตัวใหญ่สุด มีน้ำหนักประมาณ 1-2 ขีด โดยราคาที่พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อกิโลกรัมละประมาณ 10-15 บาท บางคนมีรายได้จากการขายปลาเป็นหมื่นบาท แต่คาดว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวคงจะเป็นช่วงระยะสั้นๆ ในเบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่าทำไมปลาถึงได้มารวมตัวกันบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

แต่สำหรับจำนวนสัตว์น้ำที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประกาศปิดอ่าวในช่วงฤดูปลามีไข่และวางไข่ นอกจากนี้ ก็เป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดการทำประมงผิดกฎหมายของรัฐบาลและกรมประมง โดยเฉพาะการรื้อโป๊ะน้ำตื้นออกจากชายฝั่งทะเล ซึ่งทางสำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ ได้ทำการรื้อโป๊ะ ซึ่งเป็นเครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายและทำลายล้างสัตว์น้ำออกจากทะเลกระบี่จนหมด ทำให้สัตว์น้ำทะเลเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว