ที่มา | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 12 พ.ย. จากกรณีหนูน้อย 2 ขวบถูกงูเห่ากัดติดเชื้อแผลลามหนักหวั่นตัดขาหากปล่อยนานยอมทนทรมานนับเดือน เผยอยู่กับตาฐานะยากจนครอบครัวต้องขาดรายได้ไม่มีเงินรักษาต้องขอออกรพ.กลับไปเลี้ยงหลานอีก 3 คนกลัวอดข้าวนั้น ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชัยภูมิ มอบหมายให้นางวันดี วุ่นซิ้ว นายกกาชาดจังหวัดชัยภูมิ เป็นตัวแทนพร้อมด้วยคณะฝ่ายปกครองอำเภอหนองบัวแดง และโรงพยาบาลหนองบัวแดง นำรถตู้เดินทางไปยัง หมู่บ้านนาเจริญ ต.หนองแวง อ.หนองแวง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของตาและหนูน้อยวัย 2 ขวบเศษ เพื่อประสานขอรับตัว ด.ช.ศรายุทธ อุดมสุข วัย 2 ขวบ 8 เดือน ที่ถูกงูเห่ากัดครั้งนี้ต้องนอนทรมานอยู่ที่บ้านเพราะทางญาติไม่มีเงินพาตัวมารักษาให้ต่อเนื่องที่รพ.ชัยภูมิ ได้ เพื่อเร่งนำตัวเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.ชัยภูมิ เป็นการด่วนแล้ว อ่านข่าว วอนช่วยด.ช.2 ขวบถูกงูเห่ากัดพิษลามหวั่นโดนตัดขาทิ้ง ไม่มีเงินรักษานอนทรมานนับเดือน
พร้อมทั้งยังประสานไปยังบิดาและมารดาของเด็กที่เดินทางไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดให้เดินมาช่วยดูแลเฝ้าเด็กที่รพ.ชัยภูมิไปก่อนในช่วงนี้ก่อน นางวันดี ได้นำคณะเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่หยุดงานมาช่วยดูแลเด็กที่รพ.เบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว จำนวน 5,000บาท และหากยังขาดเหลือ ให้เป็นค่าใช้จ่ายให้กับน้องหนูวัย 2 ขวบ ที่ถูกงูกัดนี้ โดยทางจังหวัดจะเป็นผู้รับดูแลเพิ่มเติมต่อไปจนกว่าน้องจะหายอีกด้วย
นพ.ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาระบบบริการสุขภาพรพ.ชัยภูมิ ได้เปิดเผยถึงการช่วยเหลือ ว่า ในการตรวจอาการล่าสุดให้กับน้อง 2 ขวบรายนี้ ในเบื้องต้นตั้งแต่ถูกงูเห่ากัดมาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่น้องมีอาการสาหัสจนช็อกหมดสติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเข้าช่วยผ่าตัดเอาเนื้อเยื้อที่ถูกผิดงูออกให้ในเบื้องต้นแล้ว มาต่อเนื่อง 2-3 ครั้งแล้ว แต่ทางตาและเด็กไม่ได้พามาหาหมอต่อเนื่อง การรักษาต่อจากนี้ไปก็จะต้องใช้วิธีการให้เด็กอยู่ประจำที่รพ.ชัยภูมิ ไว้ก่อน ที่คารดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ที่จะต้องเอาเนื้อเยื้อที่ถูกพิษงูกลายเป็นเนื้อเสียออกให้หมด
ก่อนที่จะช่วยทำการช่วยปลูกเนื้อเยื้อที่ข้อเท้า ถึงหัวเข่า ที่ขาซ้าย ขึ้นมาใหม่เพิ่มได้ในช่วงอีกไม่เกิน 10 วัน ก็น่าจะเริ่มทำการปลูกเนื้อเยื้อผิวหนังขึ้นมาใหม่ได้ จนกว่าพิษที่ฝังในผิวหนังจะหายดี ก็น่าจะสามารถทำให้เด็กกลับมามีผิวหนังที่ขาเหมือนเดิมและกลับมาเดินเหมือนปกติได้อีก ซึ่งช่วงนี้ต้องให้เด็กอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด โชคยังดีล่าสุดบาดแผลไม่พบมีการติดเชื้อรุนแรง ก็ขอให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจได้ หากเด็กมาอยู่ใกล้มือหมอได้รับการรักษาที่ต่อเนื่องจากนี้ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาตามมาอีกได้ต่อไป