รายได้วันละ 50,000 กว่าบาท! หนุ่มวัย 35 ทำธุรกิจให้เหมือนเล่นเกม สร้างเงินจากอาชีพเสริมแบบปังๆ 

รายได้วันละ 50,000 กว่าบาท! หนุ่มวัย 35 ทำธุรกิจให้เหมือนเล่นเกม สร้างเงินจากอาชีพเสริมแบบปังๆ

Ryan Hogue
Ryan Hogue

ยุคนี้ใครๆ ก็อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ หลายคนมักจะทำอาชีพเสริมกันมากขึ้น เพราะจะช่วยเพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงทางการเงิน ได้พัฒนาทักษะในด้านใหม่ๆ ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ อย่าง Ryan Hogue ที่เริ่มต้นมาจากงานประจำ และลาออกมาทำอาชีพเสริม

Ryan Hogue เกลียดที่จะใช้เวลาไปกับการจราจรทางตอนเหนือของเวอร์จิเนีย เขาคำนวณว่าเขาใช้เวลาเกือบ 8 วันไปกับการนั่งนิ่งๆ ในรถของเขาในแต่ละปี

ชีวิตช่วงนั้นก็ดีไปอีกแบบ ตอนนั้นเป็นปี 2016 เขาได้นั่งทำงานเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ระดับซีเนียร์ร่วมกับเพื่อนสนิททุกวัน และมีอาชีพเสริมเป็นอาจารย์สอนพัฒนาเว็บไซต์พิเศษที่มหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน ซึ่งเป็นสถาบันที่เขาเคยเรียนจบมา รายได้ประจำปีของเขาอยู่ที่ 117,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.3 ล้านบาท แต่การขับรถไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานนั้นเขารู้สึกว่าเป็นการเสียเวลาและเปลืองเงิน

เขาเริ่มคิดหาวิธีสร้างรายได้แบบพาสซีฟ (รายได้แบบ Passive Income หมายถึง รายได้ที่เราได้รับโดยไม่ต้องใช้เวลาทำงานหรือลงแรงมากนัก เปรียบเสมือนมีเงินทำงานแทนเรา) และใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น 

ในเดือนตุลาคมปีนั้น เขาได้เริ่มธุรกิจดรอปชิปปิ้ง ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นบริษัทพิมพ์ตามสั่ง (Print-on-demand Company) หลังจากนั้นเขาก็ได้เพิ่มคอร์สออนไลน์ บริการสอนแบบตัวต่อตัว และช่องยูทูบ เข้าไปในแหล่งสร้างรายได้ของเขา

3 ปีต่อมา รายได้จากช่องทางเหล่านั้นก็มากกว่าเงินเดือนทั้ง 2 งาน ดังนั้น เขาจึงลาออกจากงานประจำทั้ง 2 ที่ในปี 2020 และเมื่อปีที่แล้ว รายได้ของเขาอยู่ที่ประมาณวันละ 1,600 ดอลลาร์ เป็นเงินไทยประมาณ 58,000 บาท หรือประมาณ 11,400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ เป็นเงินไทยอยู่ที่ 4 แสนกว่าบาท   

Ryan Hogue ในวัย 35 ปี ยกความสำเร็จส่วนใหญ่ของเขาให้กับกลยุทธ์ง่ายๆ คือ การเปลี่ยนธุรกิจของตัวเองให้กลายเป็นเกม

เขาเล่าว่า ทุกวันเขาจะพยายามหาเงินให้ได้มากกว่าวันก่อนหน้า ในตอนแรก เขาขายของได้เพียงไม่กี่ชิ้นต่อเดือน คิดเป็นกำไรประมาณวันละ 4 ดอลลาร์เท่านั้น ดังนั้น เขาจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะเพิ่มยอดขายเป็น 2 เท่า

“ในหัวผมรู้ว่าผมทำได้มากกว่านั้น และทำได้มากกว่านั้นอีก” เขากล่าว

การตั้งเป้าหมายแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังพัฒนา แม้ว่าจะสามารถซื้อแค่แมคโดนัลด์ บิ๊กแมค เพิ่มได้แค่ชิ้นเดียวต่อวันก็ตาม การชนะเกมนี้ทุกวัน ช่วยให้เขามีกำลังใจไม่ยอมแพ้ก่อนที่ธุรกิจจะทำกำไร

ปัจจุบัน เขาแนะนำกลยุทธ์นี้ให้กับทุกคนที่พยายามเริ่มธุรกิจเสริม 

“แนวการคิดรายได้ต่อวันช่วยให้คุณเข้าใจว่าเวลาของคุณมีค่าแค่ไหน”

แนวคิดรายได้แบบ Big Mac 

“ดัชนี Big Mac ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1986 โดย The Economist หนึ่งในนิตยสารที่ทรงอิทธิพลที่สุดในธุรกิจระหว่างประเทศ การเมือง เทคโนโลยี และวัฒนธรรม

มักถูกใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจแบบไม่เป็นทางการ ใช้เปรียบเทียบราคาบิ๊กแมคในประเทศต่างๆ เพื่อวัดความเสมอภาคของกำลังซื้อ

แม้ว่าดัชนี Big Mac แทบจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่แม่นยำสำหรับการระบุมูลค่าของสกุลเงินได้ แต่ถึงอย่างนั้น ข้อมูลนี้ก็สามารถให้ผลลัพธ์และแนวคิดที่คาดไม่ถึงได้”

แม้ธุรกิจส่วนใหญ่ของเขาจะเป็นแบบพาสซีฟ แต่เขาก็ยังคงนำแนวคิดการเล่นเกมมาใช้กับธุรกิจเสริมเหล่านี้อยู่ หลังจากที่ธุรกิจถูกปรับให้เป็นระบบอัตโนมัติแล้ว เขามีความรู้สึกเบื่อและเริ่มมองหาความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งมักจะทำงานประมาณ 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

แนวคิดของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้เขาพยายามเพิ่มรายได้ประจำปีของตัวเองทีละน้อย โดยลองทำธุรกิจเสริมใหม่ๆ ที่สามารถสนับสนุนเป้าหมายนั้น เขาบอกว่า 

“เมื่อธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเริ่มสร้างรายได้อย่างยั่งยืน เขาก็จะลดระดับการมีส่วนร่วมลง และเปลี่ยนชั่วโมงการทำงานของเขามาเป็นการพัฒนาช่องทางสร้างรายได้ต่อไป”

Ryan Hogue วัดความสำเร็จด้วยวิธีการ 2-3 อย่าง เขาทั้งติดตามมูลค่าสุทธิของเขาในสเปรดชีต Excel และคำนวณเป็นประจำว่าเขาสามารถซื้อบิ๊กแมคได้กี่ชิ้นทุก 24 ชั่วโมง โดยในรัฐเวอร์จิเนียบ้านเกิดของเขา มีราคาอยู่ที่ 4.67 ดอลลาร์ต่อชิ้น คิดเป็นประมาณ 343 บิ๊กแมคต่อวัน

แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินทุกคนจะไม่แนะนำให้คุณวัดมูลค่าตัวเองด้วยเมนูฟาสต์ฟู้ด แต่กลยุทธ์ของเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากคำแนะนำทั่วไปมากนัก

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า วิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินคือ 

“การตั้งเป้าหมายเล็กๆ หมั่นตรวจสอบบัญชีของคุณทุกสัปดาห์ และเข้าใจว่ากว่าจะเห็นผลลัพธ์อาจใช้เวลาหลายปี”

“คุณแค่ต้องอดทนและสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้”

ที่มา CNBC

ขอบคุณข้อมูลบางส่วน fbs.com