เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ว่ามียายวัย 56 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง พักอาศัยอยู่ตามลำพังกับหลานสาววัย 8 ขวบป่วยเป็นโรคโปลิโอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตั้งแต่เกิด และบ้านที่อาศัยอยู่กำลังจะถูกธนาคารยึด หลังจากพ่อสามีของยายแบ่งที่ดินให้ แต่ญาตินำไปจำนองธนาคาร โดยไม่มีเงินส่ง ขณะที่แม่ของหลานสาวไปมีครอบครัวใหม่และต้องทำงาน ไม่สะดวกมาอยู่ด้วย

โดยเรื่องราวของยายเพ็ญ ทนันชัย อายุ 56 ปี และด.ญ.ธัญสุดา ใจบุตร หรือน้องพลอย อายุ 8 ขวบ ได้รับการเปิดเผยจากนายพันธ์ศักดิ์ แก้วสุดใจ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแปะ โดยทั้งสองอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 บ้านโฮ่งมะค่า ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งสองยายหลานอาศัยอยู่กันตามลำพังในบ้านหลังเล็กๆ ในสวนลำไยที่พ่อของสามียายเพ็ญแบ่งให้อยู่หลังจากสามีของยายเพ็ญได้เสียชีวิตลง

แต่มาทราบภายหลังว่าญาติของสามีได้นำที่แปลงดังกล่าว ไปจำนองกับธนาคารและกำลังจะถูกยึด เนื่องจากไม่ได้ส่งค่างวดนานแล้ว ส่วนน้องพลอยป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่เกิด แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และยังมีพัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไป ซึ่งพ่อของน้องพลอยได้เลิกกับแม่น้องพลอยตั้งแต่ตอนที่น้องพลอยยังไม่เกิด

โดยล่าสุดทราบว่าพ่อของน้องพลอยได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนแม่ของน้องพลอยไปมีครอบครัวใหม่ อาศัยอยู่บ้านสามีดูแลพ่อสามีที่แก่มากแล้ว และต้องทำงานหาเงินนานๆครั้งจึงแวะเวียนมาหาลูกสาว ทำให้สองยายหลานอยู่ด้วยกันตามลำพัง อาศัยเงินเดือนจากเบี้ยผู้พิการของน้องพลอยเดือนละ 800 บาท และเงินที่ได้จากการรับจ้างทั่วไปวันละ 200 บาท แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปทำงานทุกวัน เนื่องจากต้องดูแลหลานสาวอย่างใกล้ชิด เพราะบางครั้งน้องพลอยจะมีอาการผวา เมื่อพบคนแปลกหน้า

ยายเพ็ญ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ตนกับหลานอยู่ด้วยกันสองคนด้วยความยากลำบาก รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งค่าอาหาร ค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ค่านมของหลานสาว รวมถึงค่าใช้จ่ายประจำวันทั้งอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 6,000 บาท ซึ่งตนต้องใช้เงินอย่างประหยัด การหุงหาอาหารยังต้องใช้ฟืน โดยวันธรรมดาตนจะขึ้นรถโดยสารส่งน้องพลอยไปโรงเรียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ 8 หน่วยอำเภอจอมทอง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ดูแลเด็กพิการและมีการทำกายภาพบำบัด

ยายเพ็ญ กล่าวว่า ส่วนตอนเย็นก็จะนั่งรถไปรับน้องพลอยทุกวัน แต่โชคดีที่มีชาวบ้านบริเวณใกล้กันใจดีให้น้องพลอยติดรถไปโรงเรียนพร้อมกับลูกสาว ทำให้ตนพอมีเวลาทำงานบ้านบ้าง ส่วนวันหยุดต้องอยู่กับหลานสาวตลอดทั้งวัน สำหรับกิจวัตรประจำวันตนต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อหุงหาอาหารให้น้อง ก่อนที่จะปลุกน้องพลอยตื่นนอนแล้วจึงอุ้มน้องพลอยไปอาบน้ำ แล้วจึงจะป้อนข้าว

ยายเพ็ญ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นจึงอุ้มน้องพลอยขึ้นรถโรงเรียนกับเพื่อบ้าน ส่วนตอนเย็นตนก็จะเดินไปรับน้องพลอยกลับจากโรงเรียน ก่อนที่จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้อนข้าวให้หลานจนเสร็จ ตนจึงจะได้ทานอาหาร และเอาน้องพลอยเข้านอน

“ทุกวันนี้ถึงตนและหลานจะอยู่กันด้วยความยากลำบาก แต่ตนทนได้เนื่องจากสงสารหลานที่ไม่มีใครดูแล แต่เป็นห่วงเรื่องบ้านที่อาศัยอยู่ไม่รู้ว่าจะถูกยึดไปเมื่อไหร่ นอกจากนี้ ตนก็อายุมากแล้ว หากวันไหนล้มป่วยหรือหมดเรี่ยวแรงก็เกรงว่าจะไม่มีใครดูแลน้องพลอย เนื่องจากหลานสาวไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เลย เพียงแต่หวังจะเกิดปาฏิหาริย์ให้น้องพลอยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก่อนที่ตนจะอายุมากไปกว่านี้” ยายเพ็ญ กล่าว

ทั้งนี้ หากผู้มีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวยายเพ็ญและน้องพลอย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่นางเพ็ญ ทนันชัย อยู่บ้านเลขที่ 103 บ้านโฮ่งมะค่า ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 085-733-7367 หรือติดต่อสอบถามได้ที่เทศบาลตำบลบ้านแปะ จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-032-128 โทรสาร 053-032-129 หรือสามารถให้ความช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารได้ที่บัญชีธนาคารของยายเพ็ญ ชื่อบัญชี นางเพ็ญ ทนันชัย ธนาคาร ธกส. สาขาแม่สอย หมายเลขบัญชี 020-063-87514-5 เงินฝากออมทรัพย์

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์