บทสัมภาษณ์ที่ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” รวบรวมมาในโอกาสนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องราวของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดตราด ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกำลังใจ ในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชร  กิติยาภา ที่มีการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในเรือนจำ

นูน : อายุ 47 ปี , ภูมิลำเนา : ชุมพร , ฐานความผิด : ปล้นทรัพย์

“ตลอด 5 เดือน ที่ได้เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ผมทราบว่า ต่อไปในการใช้ชีวิต ต้องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เราทำอะไรก็ได้ให้ใช้ในสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ตอนอยู่ข้างนอก ไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้  คิดแค่ทำอะไรก็ได้ให้ได้เงินมา อาชีพเดิมผมเป็นชาวสวน แต่ก่อนก็ใช้ยา ใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อให้ได้ผลผลิตเยอะๆ เพื่อจะได้ขายให้ได้เงินอย่างเดียว เป็นเกษตรเชิงเดี่ยว ปลูกปาล์มก็มีแต่ปาล์ม ไม่สนใจที่จะปลูกเอาอะไรมากิน แต่ถ้าออกไปแล้ว จะปรับความคิดใหม่ ต้องคิดปลูกอะไรเพื่อเอามากินได้ด้วย”

เมื่อถามความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนชาวไทยนำมาปรับใช้กับชีวิต

นูน ตอบว่า

“ท่าน เป็นผู้ที่มองโลกได้กว้างกว่าเรามาก สามารถให้แต่ละครอบครัวอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ท่านเปรียบเป็นเหมือนเทพองค์หนึ่ง ที่มองทุกอย่างได้เด็ดขาดชัดเจนกว่าคนอย่างเราๆมากนัก”

เฟิร์สท : อายุ 25 ปี  , ภูมิลำเนา : ตราด  , ฐานความผิด : ยาเสพติด

“ผมติดมาแล้ว 3 ปี ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักว่าเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร ไม่เคยเข้าหู ไม่เคยใส่ใจ เพิ่งมาเข้าใจก็ตอนที่ได้ร่วมโครงการกำลังใจนี้ แต่ที่บ้านผมเป็นครอบครัวค้าขาย ถ้าออกไปแล้วแจไม่ได้ใช้วิชาการเกษตรมาใช้ แต่ก็สามารถนำไปบอกลูกสอนหลาน ให้เข้าเข้าใจข้อดีของปรัชญานี้ได้”

เมื่อถามความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนชาวไทยนำมาปรับใช้กับชีวิต

เฟิร์สท ตอบว่า

“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ท่านให้ไว้นั้นสุดยอดมาก เป็นแนวทางที่คนไทยสามารถทำได้ทุกคน การอยู่อย่างพอเพียง ถ้าตั้งใจทำแล้วจะดีต่อชีวิตเรา”

เก่ง :  อายุ 32 ปี  , ภูมิลำเนา : ปทุมธานี , ฐานความผิด : ยาเสพติด

“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ ทำอย่าไรให้ความเป็นอยู่ของตัวเองไม่ฟุ้งเฟ้อ ซึ่งเมื่อก่อนเรื่องแบบนี้ ไม่มีในหัว ผมใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ อยากได้อะไรต้องอำนวยได้ด้วยเงินอย่างเดียว ที่บ้านฐานะปานกลาง พอเงินไม่พอ ผมเลยมายุ่งกับยา ตอนนั้นอยากได้รถ ต้องได้ อยากได้มอไซตค์ต้องได้ แต่ตอนนี้ ความอยากไม่มีแล้ว ออกไปจะไปทำอาชีพเลี้ยงปลาขายกับอา เพราะทราบแล้วว่าสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”

เมื่อถามความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนชาวไทยนำมาปรับใช้กับชีวิต

เก่ง ตอบว่า

“ท่านให้ทุกอย่าง ท่านทำให้เราคิดได้  ว่าความเป็นอยู่นั้น ไม่ต้องฟุ้งเฟ้อ อย่าอยากได้อะไรที่เกินตัว ที่ผ่านมาเพราะคิดแต่อยากจะหรูหรา เลยทำให้ผิดพลาดหลายอย่าง”

แป๋ : อายุ 31 ปี  , ภูมิลำเนา : นนทบุรี , ฐานความผิด : ยาเสพติด

“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากปรัชญาของพระองค์ท่าน คือ  ปรับชีวิตให้ไม่ฟุ้งเฟ้อ อยู่แบบพอมีพอกิน ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ แต่เมื่อก่อนนี้ผมใช้ชีวิตคนละขั้วเลย  ใช้จ่ายอย่างน้อยวันละ 4-5 พัน  เลี้ยงเพื่อน สามเวลา กินเหล้าเมายา พอได้มาเรียนรู้ตรงนี้ รู้สึกเสียดายเงินที่เคยใช้จ่ายไปมากเลย ถ้าออกไปจะเลิกแล้วนิสัยเดิมๆ”

เมื่อถามความรู้สึกที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนชาวไทยนำมาปรับใช้กับชีวิต

แป๋ ตอบว่า

“เลื่อมใสในพระองค์ท่านมาก ทั้งๆที่ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ ก็ยังช่วยคิดแทนประชาชนอย่างเรา”

นกแก้ว : อายุ 57 ปี , ภูมิลำเนา : ชัยนาท  , ฐานความผิด : ยาเสพติด

“มีโอกาสได้ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ ถวายรู้สึกดีใจมาก เป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูก นี่ก็เดือนตุลาคมแล้ว รู้สึกใจหายและเสียดาย แต่จะขอยึดหลักแห่งความพอเพียงไว้ใช้ตลอดไป ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยคิด ไม่มีรถก็ซื้อรถ ไม่มีของก็ซื้อของ มีแต่ความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ฉุกคิดว่าตัวเองทำได้หรือไม่ได้ มีแต่ความโลภ มีแต่ความอยากได้ แต่ต่อไปนี้จะทำให้ดีที่สุด ไม่เดือดร้อนตัวเอง และไม่เดือดร้อนใครอรีกต่อไป”

แม็กซ์ : อายุ 20 ปี , ภูมิลำเนา : ตราด  , ฐานความผิด : ยาเสพติด

“ผมต้องติดคุกห้าปี  ระหว่างนี้จะพยายามขวนขวายหาวิชาใส่ตัว เผื่อว่าถ้าได้กลับบ้านจะได้มีความรู้ติดตัวไปด้วย แต่ก่อนไม่เคยอยากเรียน ตอนนี้เพิ่งคิดได้ ทำไมเวลาที่เขาให้เรียนถึงไม่เรียน ผมโชคดีที่มีโอกาสได้ทำดอกไม้จันท์ถวาย อยากทำเพื่อพ่อบ้าง ที่ผ่านมาไม่เคยทำความดีอะไรเพื่อพ่อเลย อยากทำเพื่อพ่อซักครั้ง”