บัณฑิตจุฬาฯ ยึดอาชีพหมอดูหารายได้เลี้ยงหมาจรจัด โดนดูถูกแต่ไม่ท้อ

เป็นเรื่องฮือฮาเมื่อมีหมอดูรับจ้างหารายได้เพื่อซื้ออาหารเลี้ยงสุนัขจรจัดในเขตเมืองพัทยาและใกล้เคียงกว่า 170 ตัว เป็นเวลานานกว่า 24 ปี ซึ่งทำแบบนี้ทุกวันไม่เคยมีวันหยุดแม้แต่วันเดียว จึงลงพื้นที่สอบถามและพูดคุยที่ร้านหมอดูเลขที่ 408/74 ซอยบัวขาว หมู่ 9 พัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 1 คูหาสูง 3 ชั้น พบว่าภายในร้านมีการเตรียมอาหารเพื่อสุนัขจรจัดอยู่

สอบถามนายนวพันธ์ เผชิญรัตน์ อายุ 58 ปี หรือเจน สาวประเภทสอง บัณฑิตด้านบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมาประกอบอาชีพรับจ้างดูหมอให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป กำลังทำอาหารให้สุนัข กับกลุ่มเพื่อนสาวประเภทสองด้วยกัน

อดีตนิสิตจุฬาฯ เปิดเผยว่า ได้ยึดอาชีพหมอดูหารายได้เลี้ยงสุนัขจรจัดในเขตเมืองพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียงมานานกว่า 24 ปี ซึ่งจะทำแบบนี้ทุกวันไม่มีวันหยุด ต้องใช้เงินเป็นค่าอาหารสุนัขเฉลี่ยวันละประมาณ 2,700 บาท เป็นประจำทุกวัน ใช้ข้าวสารเฉลี่ย 4 วันต่อ 1 กระสอบ  แต่ละวันในช่วงเวลาประมาณเที่ยงวันจะออกไปซื้อวัตถุดิบจำพวก ตับไก่ น่องไก่ อกไก่ และเนื้อหมูมาจัดเตรียมไว้ผสมคลุกข้าวให้น้องหมากว่า 100 ตัว จะออกเดินทางในช่วงประมาณ 4 โมงเย็นของทุกวันออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีสุนัขจรจัดอาศัย ทั้งบริเวณซอยโรงน้ำแข็ง ซอยบัวขาวย่านบ้านอำเภอ หนองจับเต่า และพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์

โดยบางพื้นที่ได้ว่าจ้างบุคคลที่อาศัยอยู่ละแวกเดียวกันช่วยดูแลในเรื่องของสถานที่พักอาศัย แต่เรื่องอาหารจะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ตนเองอดได้แต่สุนัขอดไม่ได้ ถือเป็นความสุขทางใจที่ได้รับ เพราะมองว่าทุกชีวิตบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็มีหัวใจมีความรู้สึกเหมือนกัน

“ตนเองจบการศึกษาทางด้านบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่มีความผูกพันกับสุนัขจรจัดจนต้องเรียกว่าลูก นอกเหนือจากสุนัขทั่วไป ยังพบสุนัขพันธุ์ผสมสายพันธุ์ต่างประเทศมากมาย ที่เจ้าของไม่อยากแล้วจึงนำมาปล่อยตามที่สาธารณะ พอนานวันเข้าก็มีเป็นจำนวนมากจนยากต่อการดูแลของภาครัฐ การช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่ตนเองทำนั้นถือเป็นการแบ่งเบาภาระของสังคมไปได้อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทำแล้วมีความสุขและยืนยันจะทำต่อไปจนหมดลมหายใจ”

อดีตนิสิตจุฬาฯ เล่าว่า ทั้งนี้ เคยล้มหมอนนอนเสื่อเจ็บไข้ไม่สบายจนต้องอยู่โรงพยาบาลรักษา แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกที่จะถอดสายน้ำเกลือและขอหมอออกมาทำอาหารเลี้ยงสุนัขจรจัด เพราะหากตนเองไม่ทำแล้ววันนั้นน้องหมาจะไม่มีอะไรตกถึงท้อง เราทำแบบนี้ทุกวันจนกลายเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของตัวเองไปแล้ว จึงไม่มีวันใดที่คิดจะหยุด หากรายได้จากการดูหมอไม่เพียงพอก็จะควักเงินเก็บตัวเองออกมาซื้ออาหารแทบทุกครั้งไป จะมีเพียงกลุ่มคนจิตอาสาที่ยื่นมือเข้ามาช่วยบ้าง และตัวเองก็ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร จะมีเพียงถ่ายภาพและโพสต์เรื่องราวในชีวิตประจำวันลงในเฟซบุ๊ก

 

อดีตนิสิตจุฬาฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าสุนัขจรจัดเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นภาระของสังคม หากบ้านเมืองมีการจัดการ จัดระเบียบ ออกข้อกฎหมาย หรือข้อบัญญัติที่มีความชัดเจนและเหมาะสม แต่ที่ผ่านมาเพราะมนุษย์เองเป็นคนปล่อยปละละเลย ไม่ให้ความสนใจสัตว์เลี้ยงเท่าที่ควรจะเป็น บางคนเห็นว่าตอนเล็กๆ ก็น่ารักดี พอโตขึ้นมาก็รู้สึกจึงปล่อยทิ้งจนเป็นภาระสังคมในที่สุด ภาระเหล่านี้มาจากน้ำมือมนุษย์ทั้งนั้น เราไปให้อาหารก็มีคนดูถูก หลายครั้งที่มีความท้อแท้ แต่ก็สร้างกำลังใจให้ตัวเองและเชื่อปาฏิหาริย์จึงมีวันนี้ได้ทุกวัน และไม่คิดว่าจะมีใครมาเปลี่ยนความคิดนี้ได้

สำหรับผู้ต้องการช่วยเหลือสุนัขจรจัด สามารถโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-985-9197 ได้โดยตรง