น้ำตาไหล ผ้าไหมสัญชาติไทย เฉิดฉายรันเวย์ระดับโลก ลบคำสบประมาท

น้ำตาไหล ผ้าไหมสัญชาติไทย เฉิดฉายรันเวย์ระดับโลก ลบคำสบประมาท

สร้างความฮือฮาในวงการผ้าไหมไทย เมื่อ “Chayanna Silk” โดย ดร.ชญณา ศิริภิรมย์ เจ้าของแบรนด์ผ้าไหมไทยแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ได้รับการทาบทามจากสถานทูต (ฝ่ายพาณิชย์) ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เข้าร่วมจัดแสดง และเดินแบบผ้าไหมไทย ในงาน Indonesia Fashion week 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Jakarta Convention Center (JCC) ท่ามกลางสายตาของผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 1,200 คน

ดร.ชญณา กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อได้รับการติดต่อให้ไปร่วมงาน เพราะทราบว่าเป็นเวทีแฟชั่นวีกที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เป็นความใฝ่ฝันของแบรนด์ใหญ่ๆ หลายๆ แบรนด์ที่จะได้นำเสนอผลงานของตัวเองบนเวทีระดับโลก และยิ่งได้ทราบว่า เขาให้เรานำผ้าไหมไทยเต็มผืนไปจัดแสดง และให้ออกแบบตัดเย็บชุดไทยสไตล์ ทั้งหมด 10 ชุด เพื่อให้นางแบบใส่เดินแบบบนเวทีด้วย ยิ่งรู้สึกภูมิใจมาก

ดร.ชญณา ศิริภิรมย์

เพราะผ้าไหมของ “Chayanna” ผลิตจากธรรมชาติ ด้วยภูมิปัญญาโบราณ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษของชาว อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้ จะได้มีโอกาสไปสู่สายตาชาวโลก ในเวทีระดับนานาชาติ และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากมาย ถึงความงดงามล้ำค่าของลายผ้า

และการออกแบบชุดที่สามารถใช้สวมใส่ได้ในชีวิตจริงอย่างมีสไตล์ ด้วยเนื้อผ้าเบาสบาย มีความเป็นสากล คลาสสิค เรียบโก้ เหมาะกับทุกโอกาส ใส่ได้ทุกวัน ส่วนตัวที่ตนใส่ขึ้นเวทีนั้นเป็นผ้าไหมที่ตัดจากกรุผ้าไหมของแม่ ที่เก็บไว้นานกว่า 40 ปี และเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการทำผ้าไหมของตนในครั้งนี้

ดร.ชญณา กล่าวว่า สำหรับผ้าไหมที่นำไปแสดงในงานครั้งนี้เป็นผ้าไหมมัดหมี่ลายบัวหลวง จัดทำเป็นคอลเล็กชันบัวบูชา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ดอกบัวอยู่คู่สายน้ำ จึงมีการจับเดรปผ้าเสมือนริ้วคลื่นน้ำ ตามเรือนร่างเสมือนยามที่พญานาคเคลื่อนตัว เนื่องจากผ้ามีความนุ่มละมุน และเด้งสวยจากเส้นไหมคุณภาพเกรดเอและฝีมือการทอที่ชำนาญสูง

ยิ่งเมื่อกระทบแสงจะยิ่งเหมือนน้ำไหล ยิ่งตอนที่อยู่บนเวที ยิ่งโดดเด่น และส่วนตัวเองอยู่บนเวทีด้วย เห็นแล้วถึงกับน้ำตาไหล ภูมิใจมากจริงๆ และส่วนตัวมั่นใจว่า ผ้าไหมของประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ถ้าได้รับการจัดการที่ดีพอ ตนเองเคยโดนคนสบประมาทว่าให้กลับไปทำงานประจำที่ตัวเองถนัดเถอะ อย่ามาทำเลยผ้าไหมมัดหมี่สีธรรมชาติ มันจืดไม่สดใส ใช้เวลาทำนาน หาคนทำยาก ทำแล้วก็ไม่รู้จะขายใคร ไม่น่าสนใจ

วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่เราคิดจะต่อยอดภูมิปัญญาของปู่ย่าตายายให้คงอยู่หากได้รับการออกแบบตัดเย็บให้สวยงาม ใส่ได้ทุกโอกาส และทุกเพศทุกวัยแล้ว หากรัฐให้การส่งเสริมและสนับสนุน จะสามารถออกสู่เวทีนานาชาติได้อย่างแน่นอน เวทีนี้เป็นเครื่องการันตีว่าเราสามารถทำได้

ชื่นชม

“หลังจากออกงานแฟชั่นวีกครั้งนี้ ทางทีมงานบอกว่า มีคนสอบถามเข้ามาในเพจ และในอินสตาแกรมเยอะมาก เนื่องจากนางแบบทุกคน นำไปโพสต์ลงสตอรี่ บอกเล่าความรู้สึกถึงการได้สวมใส่ผ้าไหมของไทย” ดร.ชญณา กล่าวอย่างภาคภูมิใจ