กอช. จับมือ ทรูมันนี่ เปิดฟีเจอร์ “ออมเงิน” เพิ่มช่องทางให้แรงงานอิสระ ตั้งเป้าสมาชิกใหม่ 1 ล้านคน 

กอช. จับมือ ทรูมันนี่ เปิดฟีเจอร์ “ออมเงิน” เพิ่มช่องทางให้แรงงานอิสระ ตั้งเป้าสมาชิกใหม่ 1 ล้านคน 

เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรกลุ่มคนวัยทำงานก็มีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุวัยเกษียณในอนาคตได้ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถานการณ์ดังกล่าวนี้ และได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดตั้งระบบการออมเงินภาคสมัครใจ สำหรับแรงงานนอกระบบและผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผ่าน กอช. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังวัยเกษียณอายุของคนไทย ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่เท่าเทียมกันในทุกกลุ่มอาชีพ และล่าสุดได้ภาคเอกชนอย่างทรูมันนี่ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีทางการเงินและแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมและเข้าถึงประชาชนหลายกลุ่มและช่วงวัย เข้ามาร่วมเป็นภาคีผลักดันนโยบายส่งเสริมการออมของรัฐบาลให้เดินหน้า เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีและเป็นกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน กอช. มีฐานสมาชิกกว่า 2.58 ล้านคนทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่า ปี 2567 เพิ่มสมัครอีก 2 แสนคน ซึ่งจากสถิติภาพรวมการออมเงินเพื่อการเกษียณของคนไทยในปี 2566 พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมการออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการคลี่คลายลงของสถานการณ์โควิดรวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทยและตลาดแรงงานไทย

น.ส.จารุลักษณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบว่า สมาชิก กอช. ส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการในรูปแบบผ่านหน่วยงานในพื้นที่สูงถึง 85% กอช. จึงมุ่งพัฒนาเพื่อยกระดับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าถึงบริการในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ในครั้งนี้

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ในฐานะ ผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำ ทรูมันนี่ ยึดมั่นพันธกิจในการช่วยให้คนไทยทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงิน ที่หลากหลายเพื่อมอบชีวิตที่ดีขึ้นผ่านทั้งบริการใช้จ่าย ออม และลงทุน โดยในปัจจุบันทรูมันนี่มีผู้ใช้งานกว่า 27 ล้านคนทั่วประเทศ และล่าสุดยังได้รับการจัดอันดับเป็นแอปที่ได้รับการดาวน์โหลดมากสุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า แอปทรูมันนี่ได้รับความนิยมสูงสุดและสามารถให้บริการทางการเงินครอบคลุมผู้ใช้หลากหลายกลุ่มอายุและอาชีพ ซึ่งรวมถึงแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า รวมไปถึงเกษตรกร ฯลฯ ความร่วมมือกับ กอช.

“ในครั้งนี้ จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงการออมแบบเดิมของแรงงานเหล่านี้ ให้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการออมเพื่อสร้างสุขภาพทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ ด้วยบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ทั้งนี้ ภายหลังเปิดทดลองให้บริการไม่ถึง 2 เดือน มียอดออม กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่แล้วประมาณ 4 ล้านบาท และเราคาดการณ์ว่ายอดออมดังกล่าว จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท และมีผู้ใช้รวม 1 ล้านบัญชี ภายในสิ้นปี 2567” นายธัญญพงศ์ กล่าว

นายธัญญพงศ์ กล่าวอีกว่า ผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีและใช้งานบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านทรูมันนี่ได้ง่ายๆ ใน 3 นาที เพียงดาวน์โหลดหรืออัปเดต แอปพลิเคชันทรูมันนี่ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เข้าไปที่หน้าแอปและกดเมนู “ออมเงิน รัฐให้เพิ่ม” จากนั้นกดอนุญาต เพื่อให้ทำการแชร์ข้อมูลเพื่อการสมัครและยอมรับเงื่อนไขและให้ความยินยอมการสมัคร กอช. กรอกข้อมูลที่อยู่ให้ครบถ้วน และเลือกช่องทาง การหักเงินเพื่อฝากเงินเข้าบัญชี กอช. เพียงเท่านี้ ก็สามารถเริ่มฝากเงินออมกับ กอช. ด้วยจำนวนเงินที่ต้องการ โดยมีขั้นต่ำเพียง 50 บาท และไม่จำเป็นต้องฝากเงินเข้าบัญชี กอช. เป็นประจำทุกเดือน หรือด้วยจำนวนที่เท่ากันทุกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถตรวจสอบยอดเงินออมสะสมในบัญชีได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา มติชนออนไลน์