เผยแพร่ |
---|
3 สินค้าขายดี บน 3 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แฟชั่น และ ความงาม มาแรง
เปิดสัดส่วนสินค้าขายดีบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ พบสินค้าแฟชั่นขายดีบน “Shopee” ส่วน “Lazada” ครองตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ “TikTok Shop” ยืนหนึ่งเรื่องความงาม
วันที่ 22 มกราคม 2567 นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & Co-Founder ของ Priceza แพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาจากเว็บขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ กล่าวในงานสัมมนา Priceza Thailand E-Commerce Trends 2024 ว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดแข็งและประเภทของสินค้าขายดีแตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้ขายสินค้าออนไลน์สามารถศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติของแพลตฟอร์ม เพื่อลงขายสินค้าและใช้กลยุทธ์การขายได้อย่างเหมาะสม
โดยรายงาน E-Commerce Report 2023 ของ Momentum Works บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจในสิงคโปร์ ระบุว่า สัดส่วนของประเภทสินค้าที่จำหน่ายบนแต่ละแพลตฟอร์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นดังนี้
Shopee
แบ่งตามจำนวนหน่วยการขาย (Unit Solds) เป็นดังนี้
- ของใช้ภายในบ้าน (Home & Living) 20%
- สินค้าแฟชั่น (Fashion & Accessories) 18%
- สุขภาพและความงาม (Healthy & Beauty) 17%
- อื่นๆ 45%
แบ่งตามยอดขายสินค้าโดยรวม (Gross Merchandise Value หรือ GMV) เป็นดังนี้
- สินค้าแฟชั่น (Fashion & Accessories) 21%
- ของใช้ภายในบ้าน (Home & Living) 18%
- สุขภาพและความงาม (Healthy & Beauty) 17%
- อื่นๆ 44%
Lazada
แบ่งตามจำนวนหน่วยการขาย เป็นดังนี้
- สินค้าแฟชั่น (Fashion & Accessories) 19%
- สินค้าเด็กและของเล่น (Babies & Toys) 15%
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า (Electronics & Appliances) 15%
- อื่นๆ 51%
แบ่งตามยอดขายสินค้าโดยรวม เป็นดังนี้
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า (Electronics & Appliances) 43%
- สินค้าเด็กและของเล่น (Babies & Toys) 13%
- ของใช้ภายในบ้าน (Home & Living) 10%
- อื่นๆ 34%
TikTok Shop
แบ่งตามจำนวนหน่วยการขาย เป็นดังนี้
- สินค้าความงาม (Beauty & Personal Care) 84%
- สินค้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง (Woman’s Fashion) 10%
- อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) 4%
- อื่นๆ 2%
แบ่งตามยอดขายสินค้าโดยรวม เป็นดังนี้
- สินค้าความงาม (Beauty & Personal Care) 70%
- สินค้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง (Woman’s Fashion) 9%
- ของเล่นและงานอดิเรก (Toys & Hobbies) 7%
- ของใช้ภายในบ้าน (Home & Living) 5%
- อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) 5%
- โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Mobile & Electronics) 4%
และเมื่อเจาะไปที่สินค้าขายดี 3 อันดับแรกในเดือน เม.ย. 2566 ของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และสหราชอาณาจักร จะมีรายละเอียดดังนี้
- ไทย : 1. หน้ากากอนามัย 2. กระดาษทิชชู 3. กางเกงในผู้หญิง
- อินโดนีเซีย : 1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและครีมกันแดด 2. ฮิญาบ 3. ขวดน้ำ
- สหราชอาณาจักร : 1. เยลลี่ 2. ชุดบอดี้สูท 3. Setting Spray
“จะเห็นว่ากลุ่มสินค้าความงามและเครื่องสำอางขายดีบน TikTok Shop มาก ทำให้คนที่ขายสินค้าประเภทนี้ไม่สามารถมองข้ามการขายบน TikTok Shop ได้แล้ว และควรเร่งศึกษาวิธีการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มก่อนจะช้าเกินไป” นายธนาวัฒน์ กล่าว
ที่มา ประชาชาติ