รับได้หรือไม่ 10 ปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ขึ้นราคา เฉลี่ย 20-30 บาท?

คอกาแฟโอดอีก เมื่อ ร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ ปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มและอาหาร บางรายการในระดับประมาณ 5-10 บาท เริ่มต้นวันที่ 4 มกราคม เป็นวันแรก

โดย รายการสินค้าที่ขึ้นราคา ประกอบด้วย เครื่องดื่มปั่นทุกเมนู ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ บางเมนูขนาด Tall จะยังคงเป็นราคาเดิม ส่วนกลุ่มอาหารที่จะขึ้นราคานั้น อาทิ แซนด์วิช ที่ขึ้นเป็นบางรายการ

นอกจากนี้ การปรับราคามีผลในทุกช่องทางทั้งหน้าร้านและสั่งออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ LINEMAN, Grab

โดย สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ภายใต้ ไทยเบฟ มีเป้าหมายลุยขยายสาขาไทยเพิ่ม 800 สาขาในปี 2573 ซึ่ง 2566 มีร้านให้บริการ 456 สาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เคยปรับขึ้นราคาในระดับประมาณ 5 บาท มาแล้วเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 2.5 ปี โดยขึ้นราคาทุกรายการ ยกเว้นเมนูปั่น ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุนสินค้า

จากข้อมูลเมื่อปี 2557 ผู้สื่อข่าวค้นพบว่า ราคาเริ่มต้นในเมนูร้อน อเมริกาโน่ ขนาด Tall อยู่ที่ 90 บาท เมื่อเทียบกับปี 2567 ในเมนูและขนาดเดียวกันอยู่ที่ 120 บาท เฉลี่ยแล้วตลอดระยะเวลา 10 ปี สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ขึ้นราคาอยู่ในระหว่าง 20-30 บาท

ทางด้านเมนูปั่นในปี 2557 มอคค่า ขนาด Tall อยู่ที่ 120 บาท เมื่อเทียบกับปี 2567 ในเมนูและขนาดเดียวกันอยู่ที่ 145 บาท เฉลี่ยแล้วตลอดระยะเวลา 10 ปี สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ขึ้นราคาอยู่ในระหว่าง 20-30 บาทเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวอย่างดังกล่าวเป็นเพียงการยกตัวอย่างบางเมนูเท่านั้น

ขณะที่ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ แต่แหล่งข่าวรายหนึ่ง อธิบายว่า การปรับขึ้นราคาเป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ต้องปรับราคาขายให้สัมพันธ์กับต้นทุน

ล่าสุด สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ออกเอกสารชี้แจงเหตุผลของการปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มครั้งล่าสุดว่า

“เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินการ และการจัดการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ได้พยายามที่จะคงราคาเดิมไว้เพื่อที่ไม่ให้ส่งผลกระทบกับลูกค้าทุกท่าน

ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2567 นี้เป็นต้นไป สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มีความจำเป็นต้องปรับราคาในหมวดเครื่องดื่มขึ้น 5 บาท โดยจะยังคงราคาเดิมสำหรับขนม เมล็ดกาแฟ เครื่องดื่มบรรจุขวด และดริงก์แวร์ และการเติมน้ำเชื่อม วิปครีม และการเพิ่มส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์เครื่องดื่มในรสชาติที่ชื่นชอบได้เช่นเคย

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และจะยังคงเดินหน้ามอบประสบการณ์ สตาร์บัคส์ ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราต่อไป”