ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี

ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านหนองแข้ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร โดย “บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ ราษฎรบ้านหนองแข้” เป็นหนึ่งในบรรดาบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จฯ เยือนและทรงเยี่ยมถึง 3 ครั้ง ใน พ.ศ. 2521 พ.ศ. 2523 และ พ.ศ. 2525

ทรงฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์พื้นเมืองของไทยและการทอผ้า ซึ่งได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ราชเลขานุการในพระองค์ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านชวนให้ทอผ้า ทรงรับซื้อเพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมจากการทำนาทำไร่ อีกทั้งทอดพระเนตร เห็นความสวยงามของผ้าซิ่นที่นางทุ้มและนางไท้ สองพี่น้องชาวบ้านหนองแข้สวมใส่ ทรงพระราชปฏิสันถารเกี่ยวกับการอนุรักษ์การทอผ้า โดยทรงรับราษฎรบ้านหนองแข้เป็นสมาชิกศิลปาชีพ เพื่อให้มีรายได้เสริม จากการทอผ้า

ด้วยสำนึกในพระมหกรุณาธิคุณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และราษฎรบ้านหนองแข้ จึงร่วมกันจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้” ขึ้นในปี พ.ศ. 2558 เพื่อสืบทอดความภาคภูมิใจความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความทรงจำอันงดงามให้คงอยู่เป็นสมบัติของลูกหลานชาวบ้านหนองแข้สืบไป

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระปณิธานที่แน่วแน่ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านศิลปาชีพที่พระองค์ท่านได้โดยเสด็จตามสมเด็จย่าของพระองค์เยี่ยมเยียนราษฎรมาตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ทำให้ทรงรับรู้ความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงทรงรับงานศิลปาชีพในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงมาเป็นพระราชภาระ เพื่อทรงสืบสานพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งนี้ ทรงนำประสบการณ์ส่วนพระองค์และทรงศึกษาผ้าทอพื้นเมืองมาพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยให้ทันสมัย เป็นที่ต้องการของตลาด เหมาะสมกับยุคสมัยได้อย่างสวยงาม แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของผ้าพื้นถิ่นในแต่ละภูมิภาค สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับช่างทอผ้าทุกท้องถิ่น

กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน ได้สนองพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตามแนวพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’ ผ่านศูนย์เรียนรู้ผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย วิชชาลัยดอนกอย วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่มุ่เน้นพัฒนายกระดับภูมิปัญญาการทอผ้า ควบคู่ไปกับพัฒนาชุมชนต้นแบบ ให้มีองค์ความรู้กระบวนการการทอผ้า การย้อมสีธรรมชาติ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเกิดความยั่งยืน (Sustainable Fashion) สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังคนรุ่นหลังและผู้สนใได้เรียนรู้และนำไปประกอบเป็นอาชีพได้ต่อไป