ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ก.ย.นี้! ฮะจิบัง เปิดครัวกลางแห่งที่ 2 ชานเมืองกทม. เพิ่มกำลังการผลิต เส้นหมี่และเกี๊ยวซ่า
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานข่าว นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ฮะจิบัง ร้านราเมนสัญชาติญี่ปุ่น ประกาศแผนขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเปิดครัวกลางแห่งที่ 2 ในไทย ในเดือนกันยายน 2566 ที่จะถึงนี้ เพื่อหนุนแผนการขยายสาขาในไทยเพิ่มอีก 70% เป็น 250 สาขา หลังปัจจุบันมีสาขาประมาณ 150 สาขา
ยักษ์บะหมี่เปิดเผยว่า ครัวกลางแห่งที่ 2 นี้ ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ มีพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ใกล้เคียงกับแห่งแรกที่เปิดไปเมื่อปี 2549 โดยนอกจากครัวกลางแห่งใหม่แล้ว ยักษ์บะหมี่จะเพิ่มกำลังผลิตด้วยการเพิ่มไลน์ผลิตเส้นหมี่และเกี๊ยวซ่า รวมถึงนำระบบอัตโนมัติและเครื่องจักรที่ทันสมัยยิ่งขึ้นเข้ามาใช้อีกด้วย
หลังจากเปิดครัวกลางแห่งที่ 2 แล้ว บริษัทจะเริ่มเดินหน้าแผนขยายสาขาเจาะทำเลจังหวัดระดับรองที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต โดยวางเป้าขยายสาขาเพิ่มทั่วประเทศต่อเนื่องในระยะเวลา 10 ปี
ขณะเดียวกัน ฮะจิบัง ยังกลับไปเริ่มขยายสาขาในเวียดนามอีกครั้ง หลังต้องชะลอไปตั้งแต่ปี 2562 เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการเตรียมเปิดสาขาที่ 3 ช่วงปลายปีนี้ หลังเปิดสาขาที่ 2 ไปเมื่อเดือนเมษายน เพิ่มจากการมีเพียง 1 แห่งในโฮจิมินห์ ซึ่งเปิดเมื่อปี 2562
ทั้งนี้ แม้ร้านฮะจิบังจะได้รับความนิยมในไทย และมีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่กลับกันในญี่ปุ่นนั้น ฮะจิบังไม่มีสาขาในโตเกียวแม้แต่สาขาเดียว โยชิโนริ โยชิมุระ กรรมการผู้จัดการของ ฮะจิบัง บริษัทแม่ของเชนร้านบะหมี่ อธิบายว่า
ความนิยมในตลาดต่างประเทศนี้เป็นเพราะกลยุทธ์การปรับรสชาติให้เข้ากับผู้บริโภคท้องถิ่น รวมถึงการวางราคาให้จับต้องง่าย ตัวอย่างเช่น เมนูขายดีในไทยอย่าง ราเมนต้มยำกุ้ง และคาโมะนิ ราเมนหรือราเมนหน้าเป็ดพะโล้และเห็ดหอม โดยปัจจุบันในเมนูโลคอลมีสัดส่วน 30% ของเมนูทั้งหมดและสร้างยอดขาย 50% ของทั้งภูมิภาค