‘ตัน ภาสกรนที’ เปิดหมดเปลือก ฟื้นตัวจากหนี้ 100 ล้าน ด้วยความเชื่อ ‘ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ’

‘ตัน ภาสกรนที’ เปิดหมดเปลือก ฟื้นตัวจากหนี้ 100 ล้าน ด้วยความเชื่อ ‘ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ’

ในวันที่การเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ตอบโจทย์ของคนยุคใหม่อีกต่อไป อาจจะด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น รายได้น้อย ไม่มีความก้าวหน้า หรือว่าสถานที่ทำงานไกลบ้านเกินไป นี่จึงทำให้หลายคนเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ๆ หนึ่งในนั้นก็คือการ ‘มีธุรกิจเป็นของตัวเอง’ 

ฉะนั้น ใครที่กำลังมองหาไอเดีย แนวคิด หรือต้นแบบของการทำธุรกิจ ในงาน ‘SMEs Hero Fest’ มหกรรมสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ที่จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์-เทคโนโลยีชาวบ้าน ในเครือมติชน ระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2565 ที่ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์

จึงเชิญ ตัน ภาสกรนที’ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาบอกเล่าเรื่องราว พร้อมแนวคิดการสร้างธุรกิจของตัวเองแบบหมดเปลือก เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันแรกของงาน เพื่อให้เอสเอ็มอีทั้งมือใหม่มือเก่า ได้มีพลังและกำลังใจสร้างธุรกิจของตัวเองต่อไป

ในวิกฤต มีโอกาสอยู่เสมอ

คุณตัน เล่าว่า ในช่วง 2-3 ปี โควิด-19 กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทุกธุรกิจต้องพบเจอ จนทำให้คนทำธุรกิจหลายคนเกิดคำถามว่าจะอยู่ต่อได้ไหม หรือว่าถ้าโควิด-19 หายไป จะเริ่มต้นหรือลงทุนใหม่อย่างไร ในฐานะที่ตนเติบโตมาจากการทำธุรกิจเอสเอ็มอี จึงเข้าใจถึงความกังวลของทุกคนในเรื่องนี้ดี

“สิ่งที่ผมเสียดายคือ เอสเอ็มอีหลายคนพลาดโอกาส เพราะไปฟังเสียงอื่นๆ มากเกินไป เลยทำให้ตัวเองท้อแท้และไม่กล้าเริ่มต้นหรือลงมือทำธุรกิจ แต่กลับกัน ผมเป็นคนชอบวิกฤต เพราะผมมีความเชื่อว่า ในวิกฤต มีโอกาสอยู่เสมอ”

ยกตัวอย่างช่วงแรกๆ เมื่อโควิด-19 ระบาดหนักๆ ในประเทศไทย คุณตันตัดสินใจเปิดโรงแรมของตัวเองให้เป็นที่พักของหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งตอนนั้นมีหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะกังวลว่าคนจะกลัวเชื้อโรคแล้วไม่กล้ามาพัก แต่ความเป็นจริงหลังจากที่บุคลากรทางการแพทย์ออกไป ก็มีลูกค้าหลายคนเข้ามาพัก เพราะเขารู้สึกว่าโรงแรมนี้เสียสละเพื่อสังคม ดังนั้น จึงอยากช่วยสนับสนุนที่พักของคุณตัน เหมือนที่บอกว่าในวิกฤตยังมีโอกาสเสมอ

คุณตัน เล่าต่อว่า อย่าง วันนิมมาน (One Nimman) ที่เชียงใหม่ ถ้าเมื่อก่อนกลุ่มลูกค้าหลักๆ ก็คือ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ มากกว่า 50% ตามด้วยนักท่องเที่ยวไทย และคนท้องถิ่น แต่หลังจากการระบาดของโควิด-19 คนจีนก็หายไปหมด ซึ่งตอนนี้ถ้าทุกคนเดินทางไปเชียงใหม่จะเห็นว่า แม้นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาแบบเต็มตัว แต่ที่วันนิมมานคนเยอะมาก และมีจำนวนมากกว่าตอนที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก 

“ผมใช้หลักการเปลี่ยนธุรกิจ คือเปลี่ยนจากการทำกิจการแบบเดิม ที่เน้นเฉพาะลูกค้าคนจีน เช่น ร้านขายของฝาก ก็เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ผับ บาร์ และมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าคนไทย ฉะนั้น ตั้งแต่โควิด-19 ผมจึงเสียหายจริงๆ แค่ประมาณครึ่งปีแรกเท่านั้น เพราะพอเราเข้าใจและปรับตัวได้ก็เดินหน้าต่อ”

ยอมทิ้งส่วนน้อย เพื่ออนาคตที่ใหญ่กว่า 

ผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนึ่งแน่นอนว่า ส่งผลให้ทุกคนเจอวิกฤตการเงินตามมา คุณตันจึงอยากแนะนำทุกคนว่า ข้อแรกคือ ‘ห้ามกู้เงินหรือหยิบยืมเพิ่ม’ เพราะมันคือการแก้ปัญหาโดยการสร้างปัญหามากกว่าเดิม อย่ายึดติดกับทรัพย์สิน บางครั้งต้องยอมให้ถูกยึดบ้าง และข้อต่อมา คือ ‘หาช่องทางอื่น’ ถ้าธุรกิจหรืออาชีพเดิมไม่เวิร์ก คุณต้องเปลี่ยน 

“การแก้ปัญหาหนี้สิน เวลาเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนที่รอดคือคนที่ตัดสินใจตัดแขนขารักษาชีวิตตัวเองไว้ ตอนที่ผมเป็นหนี้ 100 ล้าน เมื่อปี 2540 ก็ตัดใจยอมขายทรัพย์สมบัติ ขายที่ดิน ขายห้องแถว ตัดทุกอย่างให้เหลือหนี้น้อยที่สุด เพื่อจะได้เริ่มต้นใหม่ได้เร็ว ซึ่งตอนนั้นผมใช้ระยะเวลาแค่ 2 ปีก็กลับมาได้แล้ว”

ปรับตัว เข้าถึงออนไลน์ โอกาสรอด

ทุกวันนี้ธุรกิจเปลี่ยนไปมาก ด้วยการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยี ฉะนั้น คุณตัน จึงแนะนำว่า ถ้าธุรกิจไม่ยอมปรับตัว สุดท้ายก็จะตาย อย่าง เจ้าของร้านขายกุ้งอบวุ้นเส้น พอเจอวิกฤตโควิด-19 ก็หันมาขายเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือผ่านช่องทางออนไลน์ จนตอนนี้ขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น

“คือช่วงโควิด-19 ถ้าใครปรับเข้าถึงโลกออนไลน์ได้เร็วเท่าไหร่ ก็หมายความว่ามีโอกาสในการพลิกฟื้นมากขึ้นเท่านั้น เพราะสมัยนี้ออนไลน์มันขายคนทั้งโลก เพราะเดี๋ยวนี้หลายสินค้าขายได้เพียงแค่โพสต์ลงติ๊กต็อก หรือรีวิวบนออนไลน์ก็กลายเป็นกระแส คนเห็นก็อยากมาถ่ายรูป ซึ่งถ้าทำได้ก็จะสร้างรายได้มหาศาล”

เคล็ดลับของตันอีกอย่างหนึ่งคือ การสร้างความแตกต่าง สร้างจุดเด่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใหญ่ เพราะหลายร้านหลายธุรกิจดังเพราะกิมมิกเล็กๆ อย่างผมที่ถ่ายรูปเป็น ก็จะพยายามตกแต่งร้านเพื่อให้คนมีมุมถ่ายรูปได้เยอะ”

ก่อนจากกัน คุณตัน ทิ้งท้ายกับทุกคนว่า “เป้าหมายห้ามเปลี่ยน แต่วิธีการเปลี่ยนได้” อย่ากลัววิกฤต อย่าท้อแท้ จงเปลี่ยนมันเป็นแรงผลักดัน เมื่อทางเดินเก่าเดินไม่ได้ ก็ต้องลองหาเส้นทางใหม่ เพื่อเดินต่อไปให้ถึง”

SMEs Hero Fest โดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์-เทคโนโลยีชาวบ้าน ในเครือมติชน จัดระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00-20.00 น. ที่ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสารสาธารณะ และรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ทางออก 2 

สามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดมหกรรม SMEs Hero Fest ได้ที่ เว็บไซต์เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ https://www.sentangsedtee.com/ และ เว็บไซต์เทคโนโลยีชาวบ้าน https://www.technologychaoban.com/