วิกฤตเลวร้ายสุด ในรอบศตวรรษ ครึ่งปีนี้อ่วมแน่ ถ้ารัฐไม่แก้ปัญหา ราคาน้ำมัน

วิกฤตเลวร้ายสุด ในรอบศตวรรษ ครึ่งปีนี้อ่วมแน่ ถ้ารัฐไม่แก้ปัญหา ราคาน้ำมัน
วิกฤตเลวร้ายสุด ในรอบศตวรรษ ครึ่งปีนี้อ่วมแน่ ถ้ารัฐไม่แก้ปัญหา ราคาน้ำมัน

วิกฤตเลวร้ายสุด ในรอบศตวรรษ ครึ่งปีนี้อ่วมแน่ ถ้ารัฐไม่แก้ปัญหา ราคาน้ำมัน

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ประธานทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจ รอบนี้น่าจะเลวร้ายสุดในรอบศตวรรษ ทั้งภัยโรคระบาด ภัยสงคราม และภัยการเมือง ความขัดแย้งในประเทศ ช่วงครึ่งปีหลังนี้ น่ากลัวมาก ผู้ประกอบการต้องประคองธุรกิจ และตั้งการ์ดสูงๆ เข้าไว้

ทั้งนี้ พรรคกล้า ในฐานะพรรคการเมือง ที่มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ได้พบสาเหตุหลักของ สินค้าราคาแพง และเงินเฟ้อพุ่งกระฉูด เพราะสาเหตุใหญ่มาจากราคาน้ำมันแพง เพราะน้ำมัน เป็นต้นทุนของการผลิตสินค้า และเป็นต้นทุนค่าขนส่งของทุกสินค้า ถ้าราคาน้ำมันแพง นั่นคือสินค้าทุกชนิดแพงทั้งแผ่นดิน ดังนั้น ทุกรัฐบาลจึงต้องควบคุมราคาน้ำมัน ให้ต้นทุนต่ำและมีราคาที่เป็นธรรม

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ

แต่จากการตรวจสอบของพรรคกล้า พบความผิดปกติของต้นทุนน้ำมันที่จำหน่ายในประเทศ เพราะค่าการกลั่นน้ำมัน สูงขึ้น 10 เท่าในปีเดียวอย่างไม่มีเหตุผล จากค่ากลั่น 0.87 บาทเมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น 8.56 บาทในปีนี้ ขึ้นสูงมากอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ ส่งผลให้ราคาน้ำมัน แพงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นอีกลิตรละเกือบ 8 บาททันที

ถามว่าใครคือคนที่รับภาระ ราคาน้ำมันที่แพงขึ้น คำตอบคือ ผู้ผลิตสินค้า และประชาชนผู้บริโภคทั่วประเทศ ใครได้ประโยชน์ และได้กำไรจากค่ากลั่นที่สูงขึ้น 10 เท่านี้ คำตอบคือ โรงกลั่นน้ำมันทุกโรงที่อยู่ในประเทศไทย เรื่องนี้ จนถึงตอนนี้ รมว.พลังงาน ที่เป็นอดีตผู้บริหาร ปตท. ที่เป็นโรงกลั่นที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศไทย ยังไม่มีคำตอบ นายกรัฐมนตรี ที่แต่งตั้งรมว.พลังงานท่านนี้มา ก็ยังไม่มีคำตอบเช่นเดียวกัน

“เศรษฐกิจไทย บอบช้ำมากจากวิกฤตโควิด และวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่โดนราคาน้ำมัน ที่แพงขึ้นเพราะค่าการกลั่นที่สูง เพื่อกำไรมหาศาลของโรงกลั่น แต่กำไรนั้น มาจากคราบเลือด คราบน้ำตาประชาชนทั้งประเทศ ท่านนายกฯ และท่านรัฐมนตรีพลังงาน ยังนอนหลับดีอยู่หรือครับ” รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวย้ำ