ธ.ก.ส. เติมเงินสินเชื่อสู้ภัยโควิด ให้กู้รายละ 1 หมื่น ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีคนค้ำ 

ธ.ก.ส. เติมเงินสินเชื่อสู้ภัยโควิด ให้กู้รายละ 1 หมื่น ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีคนค้ำ 
ธ.ก.ส. เติมเงินสินเชื่อสู้ภัยโควิด ให้กู้รายละ 1 หมื่น ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีคนค้ำ 

ธ.ก.ส. เติมเงินสินเชื่อสู้ภัยโควิด ให้กู้รายละ 1 หมื่น ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีคนค้ำ 

ธ.ก.ส. ขยายระยะเวลาขอสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและป้องกันการก่อหนี้นอกระบบให้กับเกษตรกรรายย่อยและลูกจ้างภาคการเกษตร รายละไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ส่งชำระคืน 3 ปี ปลอดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จากเดิมที่สิ้นสุดโครงการไปแล้ว โดยขยายเวลาไปจนถึง 30 กันยายน 2565

เพื่อช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระให้กับเกษตรกร ลูกจ้างภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้มีสภาพคล่องในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม

วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ปลอดชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี วงเงินรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายในการช่วยเหลือประชาชน ด้วยการออกมาตรการต่างๆ มาสนับสนุน ซึ่ง ธ.ก.ส. เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลไปยังประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินช่วยเหลือตามโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การโอนเงินประกันรายได้พืชเศรษฐกิจหลัก

การประกันภัยพืชผลและการเติมเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้เกษตรกรนำไปลงทุนประกอบอาชีพและเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่าย ซึ่งในส่วนของสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ธ.ก.ส. ได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกรไปแล้วกว่า 9,391 ล้านบาท

นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเว้นระยะห่างทางสังคมตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ผ่านไลน์ BAAC Family และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ คอลเซ็นเตอร์ 02 555 5555 ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565