ไปต่อไม่รอแล้ว! สุกี้ตี๋น้อย ผุด Food Truck บุก ตลาด ตจว. ปูพรมขยายกิจการหลังหมดวิกฤต

ไปต่อไม่รอแล้ว! สุกี้ตี๋น้อย ผุด Food Truck บุก ตลาด ตจว. ปูพรมขยายกิจการหลังหมดวิกฤต

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ห้องประชุมอาคารสำนักงานใหญ่ หนังสือพิมพ์ข่าวสด มีงานสัมมนารูปแบบ Live Streaming จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เครือมติชน ภายใต้หัวข้อ Move On ฝ่าวิกฤตโควิด เศรษฐกิจต้องเดินหน้า

คุณเฟิร์น-นัทธมน พิศาลกิจวนิช ผู้บริหารร้านสุกี้ตี๋น้อย กล่าวในช่วง SMEs Talk “เอสเอ็มอี ตัวจริง เจ็บจริง ไม่มีสแตนด์อิน” ของงานสัมมนา Move on ฝ่าวิกฤตโควิด เศรษฐกิจต้องเดินหน้า เกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ลากยาวมากว่า 2 ปี โดยเธอเผยในตอนหนึ่งว่า

ช่วงแรกที่ธุรกิจของเธอประสบกับสถานการณ์โควิด ทำให้รายได้ของเธอหายไปกว่า 90% แต่ด้วยสถานการณ์ทำให้ต้องสู้ต่อ เธอจึงมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไร เพราะจุดขายของสุกี้ตี๋น้อย คือความคุ้มค่าในราคา 199 บาท จึงตกผลึกมาทำ หมี่หยกกล่องราคา 39 บาท และการขายสุกี้แบบ Take Away 179 บาท คิดราคาตามน้ำหนัก ก็ทำให้ผ่านวิกฤตไปได้ในทุกๆ ครั้ง

“คือวิกฤตครั้งนี้ มันทำให้เราไม่รู้ว่า สถานการณ์ต่อจากนี้ไป มันจะเป็นยังไงต่อ เราก็เลยต้องมานั่งคิดนั่งตามข่าว เพื่อนำมาคำนวณการสั่งสต๊อกของแบบวันต่อวัน เพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์ของเราให้ได้”

หลังจากประคับประคองธุรกิจให้ผ่านวิกฤตไปได้ก็ถึงคราเดินหน้าต่อ คุณเฟิร์นจึงมานั่งคิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจมีรายได้เข้ามามากขึ้น อีกทั้งมีลููกค้าต่างจังหวัด ที่ต้องการจะทานสุกี้ของเธอ จึงเกิดเป็นไอเดียใช้รถ Food Truck บรรทุกสุกี้ไปขายแบบ Take Away โดยนำร่องในตลาดนัดเล็กๆ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับอย่างดี

“คือเราก็พยายามขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น เราจะมาเน้นขายที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ ก็มองแล้วว่าต้องขยายตลาดไปต่างจังหวัดบ้างได้แล้ว โดยเอา Food Truck นี่แหละออกไปขายตามตลาดเล็กๆ แบบ Take Away เฉพาะเสาร์-อาทิตย์”

“ที่แรกก็ไปที่อยุธยา แล้วก็ นครปฐม และอีก 2-3 ที่ ก็ได้ผลตอบรับดีทุกที่ ทำให้เรารู้ว่ามันมีความต้องการอยู่ตรงนี้เหมือนกัน การขายแบบนี้ มันก็สามารถหักลบเพิ่มยอดกับส่วนที่เสียไปได้อยู่ อีกทั้งเป็นการลองตลาด ตามความตั้งใจที่เราจะขยายกิจการหลังโควิดได้ด้วย”

นอกจากนั้น เจ้าของสุกี้ตี๋น้อย ยังกล่าวอีกว่า จากวิกฤตในครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนที่ทำให้รู้ว่า แม้ว่าจะเป็นธุรกิจไซซ์ไหน ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ จากวิกฤตในครั้งนี้ทำให้คุณเฟิร์นได้มองย้อนกลับมาว่า กิจการของเธอนั้นมั่นคงขนาดไหน การจัดการระบบหลังบ้านดีแล้วใช่หรือไม่

“จริงๆ เรามีแผนจะขยายธุรกิจอีก 10 สาขาภายในปีนี้ แต่ก็เปิดได้เพียงแค่ 2 สาขาเอง เฟิร์นว่าคนเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องทำตัวให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นหลักในการเดินหน้า ช่วงเวลานี้ เราทำอะไรได้ก็ต้องทำก่อน รัดเข็มขัดส่วนไหนได้ก็ต้องทำ และเราเข้าใจว่าทุกคนสูญเสีย แต่ก็ต้องคิดบวกให้ได้ เราต้องสู้ทุกวิถีทาง เพื่อพาตัวเองให้ไปต่อ ให้พนักงานอยู่ได้ และทำให้คนไม่่ลืมเรา เฟิร์นเชื่อว่า ยังไงสักวันโควิดมันก็ต้องจบ แล้วธุรกิจเราก็ต้องเดินหน้าต่อ เมื่อวันนั้นมาถึง เราต้องพร้อมวิ่งแล้ว”