พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้หารือกับนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฟซบุ๊ก ในระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 24 ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู โดยเชิญนายซัคเคอร์เบิร์ก มาเยือนประเทศอย่างเป็นทางการในช่วงเดือน ก.พ. – มี.ค.ปี 2560 เพื่อรับทราบความคืบหน้าของนโยบายการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอินเตอร์เน็ตภูมิภาค และกิจกรรมทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งโครงการอินเตอร์เน็ตชุมชน และเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำที่ไทยมีโครงการที่จะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับภูมิภาคอาเซียนในกลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้งประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ และอินเดีย เพื่อให้เฟซบุ๊กมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในไทยมากขึ้น

“เชิญให้เขามาเมืองไทยในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.ปีหน้า เพื่อให้ดูเรื่องโครงการ และเรื่อง Productivity ICT ของประเทศเราซึ่งมีโครงการในการที่จะลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราก็คาดหวังในเรื่องที่เขาจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น”พล.อ.อ.ประจินกล่าว

ทั้งนี้เฟซบุ๊กเห็นความสำคัญของประเทศไทยในฐานะประเทศหนึ่งที่มีผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 42 ล้านคน จากประชากร 65 ล้านคน ถือว่ามากเป็นอันดับ 9 ของโลก และจากการทำธุรกิจของเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การท่องเที่ยว และการให้บริการข้อมูล ได้ก่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศไทยแล้วกว่า 1 ล้านคน

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ขอบคุณที่เฟซบุ๊กแสดงความไว้อาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช รวมทั้งให้งดการโฆษณาบนหน้าเฟซบุ๊กในไทยเป็นเวลา 7 วันเพื่อถวายความอาลัย พร้อมมอบหนังสือภาษาอังกฤษให้นายซัคเคอร์เบิร์ก 2 เล่ม โดยเล่มแรกคือหนังสือชื่อ King RAMA9 ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และอีกเล่มหนึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับข้อมูลประเทศไทย อย่างไรก็ดีไม่ได้หารือเกี่ยวกับเรื่องของการขอความร่วมมือในการปิดแฟนเพจหรือเว็บหมิ่นสถาบันซึ่งมีการเผยแพร่บนเฟซบุ๊ก เนื่องจากในประเด็นดังกล่าวเคยหารือและขอความร่วมมือไปยังเฟซบุ๊ก และหารือกับประธานภาคพื้นเอเชียของเฟซบุ๊กแล้ว และขณะนี้ก็ยังมีการทำงานร่วมกันในประเด็นนี้อยู่ ซึ่งเฟซบุ๊กก็ยืนยันกับเราว่าเขาพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย และวัฒนธรรมของประเทศไทย

ที่มา ข่าวสดออนไลน์