ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย ผุด บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะฯ สามารถบอก ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย

ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย ผุด บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะฯ สามารถบอก ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย

จากปัญหาลำไยสดที่ผ่านการรมด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในปริมาณสูงเกินความจำเป็น และการละเลยขั้นตอนการลดหรือกำจัดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ส่วนเกิน ส่งผลให้มีสารดังกล่าวตกค้างบนผลลำไยสูงเกินค่ามาตรฐาน ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง ปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในผลลำไยสดที่จะส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน เล่มที่ 119 ตอนพิเศษ 105 ง. กำหนดปริมาณสูงสุดของสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างในลำไยทั้งผลควรมีไม่เกิน 350 ppm และตกค้างที่เนื้อลำไยควรมีไม่เกิน 30 ppm

ค่าการบริโภคในแต่ละวันที่ได้รับ (Aceptable Daily Intake : ADI) ของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไม่เกิน 0.7 มิลลิกรัม/คน/วัน และพบว่าพิษของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ปริมาณ 8 ppm จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองของระบบหายใจ ที่ปริมาณ 20 ppm ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา ถ้ารับประทานเข้าไปไม่มาก ร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะได้ แต่ถ้ามากเกินไปจะมีผลไปลดประสิทธิภาพการใช้โปรตีนและไขมันในร่างกายของคนเราและมีฤทธิ์ทำลายวิตามิน B1 ด้วย อีกทั้งเมื่อส่งไปถึงประเทศผู้ซื้อปลายทางและมีการตรวจพบ จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของคุณภาพลำไยรวมถึงผลผลิตเกษตรชนิดอื่นจากประเทศไทย

จากปัญหาดังกล่าว วว. โดย ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย จึงมีแนวคิดพัฒนาบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบ่งชี้ความปลอดภัยปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย เพื่อตรวจสอบปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ที่เหลือตกค้างที่ผิวผลลำไย เพื่อยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับ การบ่งชี้ปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ที่ผลลำไย นอกจากผู้บริโภคจะรับรู้ถึงความปลอดภัยในการรับประทานแล้ว ผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ยังสามารถใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะฯ ในการสร้างตลาด สร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง โดยผลิตผลไม้คุณภาพที่มีความปลอดภัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือหรือรับรองคุณภาพผลิตผล ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ และอาจส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคอันเป็นกลไกสำคัญของตลาด โดย ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. ได้พัฒนาเป็นฉลากเปลี่ยนสีเมื่อทำปฏิกิริยากับซัลเฟอร์ไดออกไซด์

นอกจากนี้ ฉลากยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับผลไม้อื่นๆ ที่มีการใช้ซัลเฟอร์ไดออกไซด์รักษาคุณภาพของผลผลิต เช่น ลิ้นจี่ เป็นต้น เพื่อใช้เตือนผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่ให้จำหน่ายและบริโภคผลไม้ที่มีปริมาณซัลเฟอร์ฯ ที่สูงเกินมาตรฐานกำหนด ผลงานวิจัยนี้ของ วว. จะมีประโยชน์ต่อการสร้างมาตรฐานคุณภาพของลำไยทั้งที่จำหน่ายในประเทศและส่งออก นอกจากเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า เพื่อความยั่งยืนในการทำการค้ากันต่อไป

หลักการทำงานของบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบ่งชี้ความปลอดภัยปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย ฉลากจะมีการเปลี่ยนสีดังนี้

หากมีปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ต่ำ ฉลากจะยังคงสีน้ำตาลเข้ม แต่ถ้ามีปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ มากสีของฉลากจะค่อยๆ จางลงจนไม่มีสีแสดงว่ามีสารซัลเฟอร์ฯ เกินมาตรฐานกำหนด นับเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เข้าใจง่าย ช่วยเตือนผู้บริโภคก่อนที่จะตัดสินใจบริโภคลำไย

อีกทั้งการเปลี่ยนสีของฉลากยังง่ายต่อการเข้าใจของคนทุกระดับ ทั้งนี้ ผลงานวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาฉลากบ่งชี้คุณภาพซึ่งสามารถแสดงปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ตกค้างที่ผิวลำไย การวิจัยและพัฒนาฉลากบ่งชี้คุณภาพที่สัมพันธ์กับปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในบรรจุภัณฑ์ จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภคในต่างประเทศ

ทั้งนี้ การพัฒนาฉลากของ วว. ยังเป็นการพัฒนาในระดับห้องปฏิบัติการ หากต้องการผลิตเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต้องปรับปรุงสูตรและกระบวนการผลิต ให้สอดคล้องเหมาะสมกับเครื่องจักรที่จะใช้ผลิตต่อไป การพัฒนาฉลากประกอบด้วย 1.การพัฒนาสูตร เป็นการศึกษาชนิดสารเคมีที่สามารถทำปฏิกิริยากับสารซัลเฟอร์ฯ และศึกษาความไวในการตอบสนองต่อสารซัลเฟอร์ฯ 2.การเตรียมสารละลายสำหรับขึ้นรูปฟิล์ม 3.การขึ้นรูปฉลาก เป็นการหาอัตราส่วนผสมของสารเคมีกับสารละลายสำหรับขึ้นรูปฟิล์มแล้วทำการขึ้นรูปฉลาก 4.การทดสอบการใช้งานของฉลาก

ผู้ประกอบการหรือผู้สนใจทั่วไป ขอรับบริการของ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์แห่งชาติ ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์และงานบริการวิเคราะห์ทดสอบด้านบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการของทุกภาคส่วน โปรดติดต่อได้ที่ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. (บางเขน) เลขที่ 196 ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 02-579-1121 ต่อ 3101, 3208, 081-702-8377 E-mail : [email protected]