“ชา อา-หร่อย” กัดฟันสู้โควิด พลิกโอกาส ลุยตลาดออนไลน์ ยอดขายเพิ่มเท่าตัว

 “ชา อา-หร่อย” คาเฟ่เล็กพริกขี้หนู กัดฟันสู้โควิด พลิกโอกาสลุยตลาดออนไลน์ เพิ่มยอดขายเท่าตัว 

ชา อา-หร่อย (SARU CAFÉ) ร้านคาเฟ่เล็กๆ ภายในศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ หนึ่งในธุรกิจ SMEs ขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 แต่ไม่ยอมจำนนต่อสถานการณ์ เปิดโอกาสให้ตัวเองลุกขึ้นสู้ ด้วยการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเจาะตลาดลูกค้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถทำยอดขายพุ่งขึ้นกว่าเดิมมากถึงเท่าตัว 

แม้วิกฤตโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของหลากหลายธุรกิจทั้งประเทศ แต่สำหรับ “ชา อา-หร่อย” หรือ SARU CAFÉ คาเฟ่ที่รังสรรค์สารพันเครื่องดื่มให้ลูกค้า ภายในศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ วิกฤตครั้งนี้กลับกลายเป็นโอกาสให้ร้านได้ยอดขายสูงขึ้นกว่าเดิม และเป็นบทเรียนที่ดีผลักดันให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ตามแบบวิถีใหม่ คำบอกเล่าจากปากของผู้ก่อตั้งร้าน ‘ชา อา-หร่อย’ หรือ SARU CAFÉ  ธุรกิจคาเฟ่เล็กๆ ขายกาแฟ และสารพันเครื่องดื่มหลากหลายเมนู 

rpt

‘ไก่-อุไรวรรณ บุญญาพิทักษ์’ เจ้าของกิจการ ‘ชา อา-หร่อย’ หรือ SARU CAFÉ  วัย 36 ปี เปิดเผยว่า “ชา อา-หร่อย หรือ SARU CAFÉ เกิดจากการตั้งเป้าหมายอยากสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ร่างกายยังลงมือทำไหว เพื่อวางรากฐานด้านธุรกิจให้แก่คนในครอบ ครัว และธุรกิจนี้จะสามารถเลี้ยงตัวเองไปจนถึงบั้นปลายชีวิตได้ จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำในบริษัทเอกชน ที่เคยทำมากว่า 15 ปี ผันตัวเองมาลงมือทำกิจการเล็กๆ โดยเริ่มจากสิ่งที่ชอบก่อน นั่นก็คือ กาแฟ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ กลายมาเป็นร้าน ‘ชา อา-หร่อย’ หรือ SARU CAFÉ คาเฟ่ที่มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายจัดเต็มในศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 4 ปีแล้ว ที่กิจการเล็กๆ เติบโตมาท่ามกลางคู่แข่งทางธุรกิจที่มีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ทางร้านเลือกที่จะแข่งขันกับตัวเอง ด้วยการเรียนรู้ศึกษาเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ทางออนไลน์ เพื่อพัฒนาสูตรเครื่องดื่ม และลงมือทำเองทุกเมนูอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนให้ได้รสชาติที่คนส่วนใหญ่ชอบ เพื่อสร้างฐานลูกค้าควบคู่ไปกับการตั้งราคาเริ่มต้นเพียงเมนูละ 25 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายเงินซื้อได้เป็นประจำทุกวัน ผลักดันให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ แม้คาเฟ่อื่นๆ จะปิดตัวลง”

 แค่มองวิกฤตเป็นโอกาส ธุรกิจก็ไปต่อได้ไม่ยาก

“การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือเป็นวิกฤตอีกหนึ่งบททดสอบของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกคนต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้เราเรียนรู้สถานการณ์และพยายามปรับตัวหาช่องทางให้สินค้าเข้าถึงลูกค้าได้เหมือนเดิม โดยการเลือกเจาะตลาดลูกค้าออนไลน์ เรียนรู้ที่จะลงสินค้าในแพลตฟอร์มสั่งอาหารยอดฮิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แกร็บ (Grab) ฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) ไลน์แมน (LINEMAN) เก็ท (GET) หลังจากนำสินค้าเข้าสู่ระบบออนไลน์ ผลตอบรับดีเกินคาด ช่วงล็อกดาวน์มีลูกค้าสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ยอดขายพุ่งจากปกติขายได้วันละ 50 แก้ว แต่ปัจจุบันขายได้มากกว่า 100 แก้ว ออร์เดอร์เพิ่มขึ้นจากเดิม 100% แม้ออร์เดอร์จากการสั่งผ่านแอพพลิเคชั่นออนไลน์จะมีเพิ่มขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าผลกำไรจากช่องทางนี้ได้น้อยกว่าหน้าร้าน เพราะทางร้านลงขายในราคาปกติ ไม่บวกค่าหักอื่นๆ เพิ่ม เพราะต้องการมีฐานลูกค้าเพิ่ม จากปกติลูกค้ารู้จักร้านเพียงช่องทางเดียวคือหน้าร้าน  แต่การมีดีลิเวอรี่ออนไลน์ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดที่ดี ที่จะช่วยโปรโมตร้าน สร้างการรับรู้ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น”

บทเรียนผู้ประกอบการเล็กๆ จากวิกฤตโควิด-19 แค่ปรับตัวไวยังไงก็รอด

“ภาวะวิกฤตโควิด-19 ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่สำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาในสมรภูมิการแข่งขันที่สูงอยู่แล้ว ให้ยิ่งต้องพยายามหาแนวทางผลักดันให้กิจการสามารถเดินต่อไปได้ และต้องปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาหาข้อมูลในโลกออนไลน์มาลงมือทำ พัฒนาสูตรสินค้าให้ดียิ่งขึ้น การศึกษาคู่แข่งเพื่อต่อยอดสินค้าให้มีหลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญได้เรียนรู้วิธีการทำการตลาดผ่านดีลิเวอรี่ออนไลน์ การทำให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าเราผ่านกรอบโฆษณาขนาด 2×1 นิ้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่บททดสอบระหว่างทางของผู้ประกอบการคาเฟ่เครื่องดื่มท่ามกลางตลาดที่มีคู่แข่งมากมาย”