นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีแนวคิดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ จะใช้นโยบายเข้มงวดเรื่องทรัพย์สินทางปัญญากับประเทศคู่ค้าว่า เชื่อว่าในการประเมินสถานะประเทศไทยภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐ มาตรา 301 เดือนเมษายน ปี 2560 ไทยมีโอกาสหลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หรือพีดับเบิลยูแอล (PWL) ได้ เพราะการทำงานที่ผ่านมาไทยมีเป้าหมายชัดเจน ตั้งแต่การปรับปรุงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และมีโรดแมปการทำงานชัดเจนในทุกเรื่อง รวมถึงมีการผลักดันและพัฒนาให้ทำงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้าและบริการของคนไทย

นายทศพล ทังสุบุตร รักษาการอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ไทยได้หารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามผลการทำงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างไทยกับสหรัฐ โดยที่ผ่านมาไทยได้แก้ไขกฎหมายตามที่สหรัฐเรียกร้อง เช่น กฎหมายลิขสิทธิ์ที่เอาผิดการละเมิดทางอินเตอร์เน็ต การเข้มงวดปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ให้หมดไป การเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด การปรับปรุงการจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าให้มีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งทุกเรื่องมีความคืบหน้าชัดเจน

“เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ และสั่งการมาโดยตลอดให้เร่งแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องการจดทะเบียนที่คั่งค้าง ได้อนุมัติกำลังคนให้ถึง 120 อัตรา ส่วนเรื่องการปราบปรามได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ามาดูแล ซึ่งรัฐบาลสหรัฐรับรู้และตระหนักผลการทำงานของไทยมาตลาดว่าไทยตั้งใจทำงานมาก”

นายทศพลกล่าวว่า หากสหรัฐไม่เปลี่ยนรัฐบาล โอกาสที่ไทยจะอยู่ในบัญชีที่ดีขึ้นมีแน่ อย่างไรก็ตาม แม้จะเปลี่ยนผู้นำจากพรรคเดโมแครตมาเป็นพรรครีพับลิกัน แต่ผลการทำงานก็น่าจะบอกได้ชัดว่าไทยทำดี คาดหวังว่าสหรัฐจะจัดอันดับไทยมาอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในปี 2560 จาก PWL มาอยู่ในบัญชีจับตามอง หรือ WL

นายทศพลกล่าวถึงแนวทางการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาว่า กรมได้ทำคู่มือรณรงค์ไม่ให้มีการค้าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจัดส่งให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศนำไปแจกจ่ายแก่พ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าการค้าขายสินค้าละเมิดฯผิดกฎหมาย และรัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจัง หลังจากนี้จะลงพื้นที่ออกตรวจสอบและจับกุมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จะรณรงค์ไม่ให้มีการใช้สินค้าละเมิดฯ โดยขอความร่วมมือบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ติดป้ายแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวอย่าซื้อ-อย่าใช้สินค้าปลอม ภายในสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ขาเข้าประเทศ

ที่มา มติชน